เดินหน้าเชื่อมสัมพันธ์ หนุนตลาดค้าชายแดน

b4-w4-5h4-3
เชียงใหม่ ร่วมกับ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ จัดงานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่ชายแดนกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ที่อำเภอเชียงดาว หวังผลักดันให้เกิดการค้าชายแดนในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างรัฐผ่านการค้าและการลงทุน เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนบริเวณชายแดนอย่างยั่งยืน
นายกฤษณ์ ธนาวณิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่ชายแดนกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 โดยมีนางวิลาวัลย์ วรพุฒิพงค์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้กล่าวรายงาน และ นายสราวุฒิ วรพงษ์ นายอำเภอเชียงดาว เป็นผู้กล่าวต้อนรับ ณ สนามกิฬาเทศบาลตำบลพุงข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
โดย นายกฤษณ์ ธนาวณิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมที่ทางจังหวัดเชียงใหม่ส่งเสริมด้านการค้าชายแดนนั้น ครั้งนี้มิใช่ครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2559 มีการทดทองเปิดด่าน ภายใต้โครงการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนพื้นที่ชายแดนและโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนาดตามแนวชายแดน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2559 เพื่อให้ประชาชนทั้งสองฝั่งได้มีการค้าขายสิ่งของที่จำเป็น อันแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกว่า 50 ปี ประกอบกับกรมการปกครองได้ดำเนินโครงการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนพื้นที่ชายแดน และสร้างหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนาดตามแนวชายแดนเพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน โดยให้ฝ่ายปกครองเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนกิจกรรมทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ศาสนา การค้าและการท่องเที่ยว นอกจากนี้ระหว่างวันที่ 10-14 สิงหาคม พ.ศ.2559 ได้มีกิจกรรมการแสดงและจำหน่ายสินค้า “ไทย-พม่า 84 พรรษา เทิดไท้องค์ราชินี”
นายกฤษณ์ กล่าวต่อว่า จังหวัดเชียงใหม่ ให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์การค้าและความพยายามผลักดันจุดผ่อนปรนกิ่วผาวอกเป็นด่านถาวร ผ่านการบูรณการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนและสร้างกลไกประสานใกล้ชิดระหว่าง JBC ภาครัฐ ภาคเอกชนและหน่วยงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นการกิจกรรมฯในวันนี้ จึงมุ่งส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างรัฐผ่านการค้าและการลงทุน เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของทั้งสองฝ่าย อันนำไปสู่ความร่วมมือที่สูงขึ้นต่อไป
ด้าน นางวิลาวัลย์ วรพุฒิพงค์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในส่วนของการขับเคลื่อนการค้าบริเวณชายแดน หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดยุทธศาสตร์ และนโยบายสำคัญในการผลักดันให้เกิดการค้าชายแดนในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณจุดผ่อนปรนกิ่วผาวอก อำเภอเชียงดาว และจุดผ่อนปรนบ้านหลักแต่ง อำเภอเวียงแหง สู่การเป็นด่านถาวรตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ลงนามข้อตกลงร่วมกับหอการค้าสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ทั้ง 4 หอการค้าฯ ได้แก่ หอการค้าฯตองยี, เชียงตุง, ท่าขี้เหล็ก และมัณฑะเลย์ รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศผ่านการเจรจาทางธุรกิจ ณ เมืองมัณฑะเลย์ และเมืองตองยี เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ตลอดจนการจัดประชุมเพื่อหาแนวทางร่วมกับกงสุลใหญ่สหภาพเมียนมาร์ ณ นครเชียงใหม่ ร่วมถึงภาครัฐและเอกชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่มีความมุ่งมั่นและต้องการผลักดันการเปิดด่านถาวรในเชิงการค้าและการลงทุนอย่างต่อเนื่องทุกเวที ทั้งในพื้นที่และระดับประเทศ เนื่องจากเล็งเห็นว่าการค้า การคมนาคมระหว่างสองประเทศจะเชื่อมโยงกันหลายมิติเช่น เศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรม ส่งผลให้จังหวัดเชียงใหม่มีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจระดับสูง และเป็นปัจจัยบวกต่อจังหวัดอื่นๆ ภายในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ดังนั้น การจัดกิจกรรมเชื่อความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่บริเวณชายแดนกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จึงมีความสำคัญต่อการเสริมสร้างเศรษฐกิจภายในพื้นที่ รวมถึงการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนบริเวณชายแดนต่อไป ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวส่งท้าย

ร่วมแสดงความคิดเห็น