โลกโซเชียลร้องเรียนสื่อ ตรวจสอบขยะปริศนาถูกมือดีนำมาทิ้งกองพะเนินในป่าริมทางโค้งขุนกัณฑ์ ทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ หวั่นกระทบธรรมชาติโดยรอบ และเสียภาพพจน์เมืองท่องเที่ยว พร้อมวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไข สั่งห้ามมีการนำขยะมาทิ้งที่จุดดังกล่าวอีก

เมื่อวันที่ 21 ก.ย.59 ผู้สื่อข่าวเชียงใหม่นิวส์ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกเฟสบุ๊ครายหนึ่ง ซึ่งได้แจ้งว่า ที่บริเวณป่าข้างทางโค้งขุนกัณฑ์ โค้งสุดท้ายก่อนถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพ ถ.ศรีวิชัย ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีผู้นำเศษขยะมาทิ้งไว้จำนวนมาก ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่มีต้นไม้ อีกทั้งยังเป็นเส้นทางศึกษาธธรรมชาติ และเป็นเส้นทางที่ประชาชน นักท่องเที่ยว และชาวบ้านในพื้นที่ ใช้เดินทางขึ้นไปกราบไหว้สักการระสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร และใช้สัญจรเป็นประจำ ซึ่งกองขยะดังกล่าวมีทั้งขยะเปียก เศษวัสดุก่อสร้าง รวมทั้งถุงพลาสติกที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งทำให้เกิดภาพลบต่อการท่องเที่ยวที่เมื่อผู้สัญจรไปมามองเห็นทำให้เกิดความไม่เหมาะสม จึงอยากให้ทางผู้สื่อข่าวได้เข้าทำการตรวจสอบและช่วยกระจายข่าวสารเพื่อให้ทางผู้เกี่ยวข้องได้เข้าทำการแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้หลังจากที่ทางผู้สื่อข่าวได้ทราบเรื่อง ในเวลาต่อมาได้เข้าทำการตรวจสอบที่จุดดังกล่าวตามที่ได้รับการร้องเรียน ซึ่งเมื่อไปถึงพบว่า บริเวณดังกล่าวที่มีกองขยะถูกนำมาวางทิ้งรวมกันนั้นอยู่ห่างจากถนนที่ใช้สัญจรประมาณ 10 เมตร ซึ่งจุดดังกล่าวยังเป็นเส้นทางที่ใช้ศึกษาธรรมชาติที่เมื่อเดินเท้ามาก็จะเจอกับกองขยะดังกล่าวทันที ซึ่งกองขยะดังกล่าวกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง โดยส่วนใหญ่เป็นขยะทั่วไปเช่น กระเบื้องแตก เศษวัสดุก่อสร้าง ถุงพลาสติก ถุงปุ๋ย และขยะธรรมชาติ อาทิ กิ่งไม้ ใบไม้ ที่คาดว่าน่าจะมีชาวบ้านหรือผู้มักง่ายนำมาทิ้งกันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานแล้ว จนสะสมกินพื้นที่ รวมทั้งยังไม่มีหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลและแก้ไขปัญหา ซึ่งเกรงว่าเมื่อปล่อยทิ้งไว้ต่อไปอาจจะทำให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติโดยรอบ

(มีคลิป) ร้อง เชียงใหม่นิวส์ ขยะโค้งขุนกัณฑ์มันมาจากไหน ?

นอกจากนี้ยังพบว่าที่บริเวณดังกล่าวยังเริ่มกลายเป็นแหล่งทรุดโทรมที่ขยะเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบ เนื่องจากมีกองขยะขนาดใหญ่ อีกทั้งบางจุดยังเริ่มมีดินสไลด์ลงมาบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามทางชาวบ้านบางส่วนที่พบเห็นเกรงว่าจะมีผลกระทบต่อมาในระยะยาว จึงได้ดำเนินการแจ้งเรื่องร้องเรียนมายังผู้สื่อข่าวซึ่งอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ดังกล่าวได้ช่วยเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาเพื่อไม่ให้กลายเป็นแหล่งเสื่อมโทรม และกลายเป็นจุดที่ไม่น่าดูท่ามกลางธรรมชาติต่อไป

สำหรับ โค้งขุนกัณฑ์ เป็นจุดที่พระคุณเจ้าครูบาศรีวิชัยได้ทำการก่อสร้างทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพจนมาถึงช่วงสุดท้ายประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนถึงเชิงหัวบันไดนาค เมื่อช่วงปี พ.ศ.2478 คณะสร้างทางต่างเหนื่อยอ่อนเมื่อยล้าและหมดทุนทรัพย์ ขุนกัณมีแรงศรัทธาต่อครูบาฯ จึงได้อาสารับผิดชอบต่อ และได้สละทั้งแรงกายและทุนทรัพย์ส่วนตัวทั้งหมดทำให้ถนนสร้างเสร็จโดยตัดถนนตามที่ครูบาเถิ้มแนะนำต่อครูบาศรีวิชัย ซึ่งเป็นช่วงทางโค้งหักศอกและเป็นภูเขาหินสูงชันยากลำบากในการสร้างสมัยนั้น แต่ก็สามารถทำจนสำเร็จจึงตั้งชื่อเป็นเกียรติ์แก่ผู้ที่สร้างจนสำเร็จว่า “โค้งขุนกัณฑ์”

ทั้งนี้ ขุนกัน แต่เดิมเป็นชาวไทยใหญ่ ชื่อว่า ส่างกันนะ อาศัยที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ต่อมาสมรสกับ นางวันดี บุตรีของพญานาวาที่เชียงใหม่และทำการค้าจนเจริญรุ่งเรืองเป็นที่รู้จักมักคุ้นของเจ้านายฝ่ายเหนือและพ่อค้าวาณิชย์ ในปี2460 ได้เป็นผู้สร้างสนามบินเชียงใหม่ ให้แก่ทางราชการโดยทุนส่วนตัวทั้งหมด และเมื่อมีพิธีเปิดสนามบินครั้งแรก สมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ได้เสด็จทรงเปิดงานและมอบพระฉายาให้เป็นที่ระลึก และยังได้รับพระราชทานศักดินาขึ้นเป็น ขุนกัณ ชนะนนท์

นอกจากนี้ยังได้มีส่วนร่วมสร้างตึกบังคับการค่ายทหาร(ค่ายกาวิละ ในปัจจุบัน)อีกด้วย(ยังไม่รวมศาสนสถานต่างๆอีกมายมาย) ปัจจุบันลูกหลานได้จัดสร้างรูปหล่อแล้วประดิษฐ์ไว้ที่โค้งขุนกัน เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งคุณงามความดีและความเพียร อีกทั้งป้องกันความเข้าใจผิดที่มักมีผู้”เดาเอาเอง”ว่าตั้งชื่อเพราะท่านมาเสียชีวิตที่นี่ ฯลฯ