ผวจ.สั่งหน่วยงาน-วางแผนป้องกัน-ปัญหาหมอกควัน

img_0776
เชียงใหม่ตื่นแต่ต้น เรียกหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องทั้ง 25 อำเภอถกเพื่อวางมาตรการรับมือปัญหาหมอกควันไฟป่าเชียงใหม่ในปีที่จะถึง เผยปีที่ผ่านมาลดพื้นที่เผาได้มากกว่า 1.3 ล้านไร่ หวังสูงปีนี้ลดลงได้อีก ชี้จะใช้ดัชนีคุณภาพอากาศเป็นตัววัด ย้ำทุกฝ่ายต้องช่วยกันเพื่อไม่ให้มีปัญหา ยันมี 4 เรื่องต้นตอสำคัญของปัญหาหมอกควันไฟป่า ตั้งแต่พื้นที่ทางการเกษตรไร้ประสิทธิภาพในการกำจัด วิถีชีวิตการหาของป่า ที่สำคัญต้องปราบปรามให้เด็ดขาดคือปัญหาการเผาเพื่อให้ได้ที่ทำกิน และปัญหาที่ต้องเร่งสร้างความตระหนักคือการกลั่นแกล้งกันในพื้นพื้นที่ที่มีการเผา
วันที่ 22 ก.ย.59 เวลา 13.30 น. นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อกำหนดมาตรการจัดทำแผนและเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควัน ปี พ.ศ.2560 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาสาสมัครทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมระดมความเห็น ซึ่งดำเนินการสัมมนาโดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่
นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ปัญหาหมอกควันไฟป่าเป็นปัญหาที่คุกคามจังหวัดเชียงใหม่มาเป็นเวลากว่า 10 ปี จังหวัดเชียงใหม่มองว่าปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาของภาคราชการเพียงฝ่ายเดียวที่จะแก้ไขปัญหาให้สำเร็จลงได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และภาควิชาการ ต้องเข้ามาร่วมกันที่จะทำให้แนวคิดในการจัดการเศษวัสดุต่างๆ ให้ลดน้อยลงไปให้ได้มากที่สุดซึ่งเป็นบทบาทของภาควิชาการ ส่วนภาคประชาสังคมจะมีบทบาทในการที่จะไปสร้างเครือข่าย ในการสร้างความรู้ให้แก่ประชาชนชี้ให้เห็นถึงสาเหตุของปัญหาไฟป่าหมอกควันมีผลต่อเรื่องอะไรบ้าง จะร่วมกันยังไงจะแก้ไขในภาพรวมกันอย่างไร จะเป็นพลังสำคัญในการที่จะทำให้ประชาชนได้รับรู้ได้ตระหนัก
“การแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันนั้นต้องแก้ในภาพรวม จะโทษใครคนใดคนหนึ่งนั้นไม่ได้ ด้วยว่าเป็นปัญหาร่วมกันของจังหวัดเชียงใหม่ วันนี้จึงเป็นการระดมความเห็น ข้อเสนอแนะ ปัญหาต่างๆ ในหลากหลายมิติ ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลมา ภาครัฐก็จะนำมาทำแผนในการป้องกัน การแก้ไขปัญหาต่างๆ กิจกรรมวันนี้จึงเป็นการเริ่มต้นในการที่คิ๊กอ๊อฟของการจัดการปัญหาไฟป่าหมอกควัน ช่วงนี้เป็นช่วงส่งท้ายของฤดูฝน อีกเพียงเดือนหรือสองเดือนก็จะเข้าสู่ช่องแล้งแล้ว นั่นหมายความว่าปัญหาไฟป่าหมอกควันก็จะเริ่ม จึงต้องเริ่มสร้างความตระหนักตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ทุกคนมีบทบาทหน้าที่อะไรก็ให้ร่วมกันช่วยกันทำในหน้าที่ที่ตนเองรับผิดชอบ วัตถุประสงค์หลักของการจัดการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ก็เพื่อให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม เสนอในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เสนอในส่วนที่ตัวเองต้องร่วมทำ เสนอในสิ่งที่ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐเข้าไปสนับสนุน เสนอในประเด็นที่ต้องการให้ภาครัฐทำ ก็จะเป็นภาพรวมของความเป็นประชารัฐ เพื่อจะให้เชื่อมโยงแนวทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าที่ดีที่สุดของเชียงใหม่” ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว
นายปวิณฯ กล่าวอีกว่า ปีที่ผ่านมามีข้อมูลว่าจังหวัดเชียงใหม่สามารถลดพื้นที่การเผาลงได้ราว 1.3 ล้านไร่ หากปีนี้สามารถลดพื้นที่ลงไปได้อีกนั่นหมายความว่าปัญหาหมอกควันไฟป่าก็จะลดลงไป ประเด็นก็คือจะไม่โฟกัสไปเฉพาะค่าจุด Hot Spot เท่านั้น จะดูที่ภาพรวมของทั้งจังหวัดเชียงใหม่ว่ามีการลดการเผาหรือไม่ นั่นหมายความว่าจะต้องดูในทุกบริบทที่เกี่ยวข้องกับปัญหาไฟป่าหมอกควัน
“ประเด็นสำคัญคือการร่วมกันทำของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนต้องช่วยกันทำ โดยต้องไม่เอาตัวงบประมาณเป็นตัวตั้ง ประเด็นก็คือปัญหาต้องแก้ได้ด้วยตัวของมันเอง ด้วยความร่วมมือของคนเชียงใหม่ทั้งหมด อย่าบอกให้คนที่อื่นมาทำให้ เพื่อให้คนที่อื่นมองว่าคนเชียงใหม่ทำได้ด้วยตัวของคนเชียงใหม่เอง อย่างปีที่จะถึงตัวชี้วัดที่สำคัญคือค่าคุณภาพอากาศที่จะต้องร่วมกันไม่ให้เกินกว่าค่ามาตรฐาน เพราะเป็นตัววัดที่ชัดเจนที่สุด หากเกินก็ต้องตอบให้ได้ว่าเกิดจากตรงไหน หากเราร่วมกันจัดการโดยไม่ให้เกิดการเผานั้นหมายความว่ามาจากแหล่งอื่น หากแต่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ยังมีการเผาเมื่อค่าคุณภาพอากาศเกินมาตรฐาน เราก็จะปฏิเสธไม่ได้ว่าเรามีส่วนร่วมในการเติมปัญหาหมอกควันไฟป่าให้แก่จังหวัดเชียงใหม่” ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว
“สำหรับต้นเหตุของปัญหาหมอกควันไฟป่าของเชียงใหม่ มีด้วยกัน 4 ประเด็นที่เป็นปัญหาหลัก ประเด็นแรกคือพื้นที่ทางการเกษตรไม่มีการจัดการการเผาที่มีประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องของการขาดองค์ความรู้ ขาดเทคโนโลยี ปัญหาที่ 2 คือเรื่องของการหาของป่า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นความเชื่อ หรือเป็นวิถี แต่อาจจะไม่ใช่ก็ได้ในการที่จะเป็นวิถีจริงของประชาชน ปัญหาที่ 3 เป็นปัญหาสำคัญที่ต้องมุ่งปราบปรามให้ได้คือ ปัญหาการเผาเพื่อให้ได้พื้นที่ในการทำมาหากิน และปัญหาที่ 4 เป็นปัญหาที่ต้องสร้างความตระหนักให้มากคือ คนในพื้นที่ต้องไม่กลั่นแกล้งกัน บางครั้งมีการอยากให้พื้นที่ตนเองมีชื่อปรากฏบ้างก็เผาเพื่อให้เกิดสถานการณ์ เป็น 4 ปัญหาที่ต้องร่วมมือร่วมใจในทุกภาคส่วนร่วมกันทำให้ลดลงให้ได้” นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวในที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น