ตำรวจวิ่งโร่แจ้งความโต๊ะบอล ฐานดูหมิ่น

ผกก.สืบสวนภาค 5 วิ่งโร่ แจ้งความดำเนินคดี เจ้าของโต๊ะรับแทงพนันฟุตบอล ในเขต สภ.นิคมอุตสาหกรรม ลำพูน ฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและดูหมิ่น สาเหตุขณะที่ ทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจ เข้าจับกุมโต๊ะรับแทงพนันฟุตบอล คนดูแลกลับพูดโวยวายว่า จ่ายเงินให้ตำรวจ และเป็นโต๊ะตำรวจด้วย สุดท้าย ผู้ต้องหาสำนึกผิดก้มกราบขอโทษ

จากกรณีเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 59 ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จ.ลำพูน สนธิกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นร้านกาแฟคนยอง ตั้งอยู่เลขที่ 50 หมู่ที่ 11 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน หลังได้รับการร้องเรียนจากพลเมืองดีผ่านศูนย์ดำรงธรรม ว่าร้านดังกล่าวลักลอบเปิดให้มีการเล่นพนันฟุตบอล โดยเปิดเป็นร้านกาแฟบังหน้า จากการตรวจสอบภายในร้านดังกล่าวพบว่า เปิดให้เล่นพนันฟุตบอลจริงตามที่ได้รับการร้องเรียน โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดโพยรับพนันฟุตบอลจำนวนมาก คอมพิวเตอร์สำหรับเล่นพนันฟุตบอลออนไลน์ 7 เครื่อง เงินสดจำนวนหนึ่ง และยังได้จับกุม นายสายัณห์ ไชยารักษา อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 95/2 หมู่ 2 ต.สบแม่ข่า อ.หางดง จ.เชียงใหม่ สอบสวน ผู้ต้องหา ให้การสารภาพว่า เป็นผู้ควบคุม ดูแลโต๊ะพนันบอลดังกล่าว จึงนำตัวผู้กระทำความผิดส่ง พงส.สภ.นิคมอุตสาหกรรม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมา เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 59 ที่ บก.สส. พ.ต.อ.วรพงษ์ คำลือ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ. 5 เปิดเผยว่า ตนเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นิคมอุตสาหกรรม ลำพูน ในข้อหาดูหมิ่น ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง กับนายสายัณห์ ไชยารักษา ผู้ต้องหาที่ถูกจับเปิดโต๊ะรับแทงพนันฟุตบอล ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม เนื่องจากได้แอบอ้าง ว่าตำรวจชุดสืบสวน บก.สส.3 ภ. 5 ซึ่งมีตนเป็นผู้บังคับบัญชา ซึ่งในวันเกิดเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุม นายสายัณห์ โวยวายว่าทำไมต้องมาจับร้านของเขาด้วย เนื่องจากได้จ่ายเงินให้กับ ผู้กองบอย ชุดสืบสวนภาค 5 และหน่วยอื่น เดือนละเกือบแปดหมื่นบาท อีกทั้งยังเป็นโต๊ะรับแทงพนันของ ผู้กองบอย ด้วย

ซึ่ง ตนได้ตรวจสอบแล้ว ชุดสืบสวน บก.สส.3 ก็มีชื่อเล่น ของตนเพียงคนเดียวที่ชื่อบอย จึงทำให้หน่วยงานและตนเองได้รับความเสียหาย ประาชนจะเข้าใจผิดว่าตนนั้นเป็นนายตำรวจ ที่เปิดโต๊ะรับแทงพนันกระทำความผิดเสียเอง อีกทั้ง ขณะที่เข้าจับกุม ผู้ต้องหา ยังโวยวายผ่านสื่อมวลชนอีกด้วย เรื่องนี้ตนจะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เนื่องจากตนนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโต๊ะพนันฟุตบอล หรือรับเงินรับทองกับการพนันดังกล่าวด้วย และขอแก้ข่าวกับสื่อมวลชนด้วย

พ.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวอีกว่า ขณะที่ตนเองเดินทางไปแจ้งความตำรวจ สภ.นิคมอุตสาหกรรม อยู่นั้น ปรากฎว่า ได้พบกับ นายสายัณห์ ผู้ต้องหา ที่ถูกตำรวจเรียกมาสอบปากคำด้วย ขณะที่ตนเองกำลังดำเนินการแจ้งความ ทำให้ นายสายัณห์ ถึงกับก้มกราบขอโทษตนด้วย ว่าผิดไปแล้ว และขอร้องไม่ให้แจ้งความ ซึ่งตนไม่สนใจจะขอดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป