https://youtu.be/EQf8y8sD4jo
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 27 ก.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พ.ต.ท.ธาดา ฐิตะปัญญา สารวัตรปราบปราม สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ พร้อมด้วย ร.ต.อ.เทอดพงษ์ จุลศิลป์ รองสารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ร.ต.ท.อรรถชัย ไตรจักร รองสารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ รับหน้าที่ร้อยเวร นายภานุฉัตร สวัสดิชัย ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ และนายเมธาพันธ์ เฟื้องฟูกิจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 บ้านดอยปุย ได้ร่วมกันเปิดแถลงข่าวชี้แจงต่อคณะสื่อมวลชน ถึงกรณีที่ได้มีข่าวปรากฎออกมาในสื่อสังคมออนไลน์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ที่ได้มีการนำเสนอข่าวว่ามีหญิงนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ได้โพสข้อความในทำนองว่าได้เดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ และได้มายังวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ และได้มีเด็กผู้หญิง 2 คน แต่งกายชุดชนเผ่าชาวเขามาถ่ายรูปร่วมกับตน พร้อมทั้งกล่าวหาว่าเด็กหญิงดังกล่าวขโมยนาฬิกาข้อมือที่ตัวเองสวมใส่ โดยได้แสดงภาพถ่ายที่ถ่ายร่วมกับเด็กหญิงทั้ง 2 คน บริเวณบันไดทางขึ้นวัด และเมื่อข่าวได้แพร่กระจายออกไปส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกมาในสื่อสังคมออนไลน์ จนกลายเป็นประเด็นที่อาจก่อให้เกิดผลเสียในภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ได้
ทั้งนี้เกี่ยวกับเหตุกาณณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี้ทาง ร.ต.อ.เทอดพงษ์ จุลศิลป์ รองสารวัตร ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ระบุว่า หลังทราบเรื่องที่เกิดขึ้นในสื่อออนไลน์ของเว็บไซค์อังกฤษคือ EXPRESS.CO.UK ที่มีการโพสข้อความบอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวชาวอังกฤษที่เดินทางมาเที่ยววัดพระธาตุดอยสุเทพ และถ่ายภาพร่วมกับเด็กหญิงชาวเขา พร้อมทั้งได้กล่าวหาว่าเด็กในภาพได้ขโมยนาฬิกาข้อมือที่ได้สวมใส่อยู่ โดยภาพที่ปรากฎตามที่เป็นข่าวนั้น เป็นภาพที่เด็กผู้หญิงกำลังเกาะแขนนักท่องเที่ยวอยู่ ซึ่งนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวจากการตรวจสอบยังไม่ทราบว่าเป็นใคร เนื่องจากว่าไม่ได้มาแจ้งความหรือลงประจำวันไว้ที่โรงพัก โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ก็ได้ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ภาคเหนือ) สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาเชียงใหม่ และสถานีตำรวจภูพิงค์ราชนิเวศน์ ก็ได้ทำการติดตามบิดามารดาของเด็กที่ปรากฎในภาพดังกล่าวมาสอบถาม โดยมี นายเมธาพันธ์ เฟื้องฟูกิจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 บ้านดอยปุย มาเป็นพยานในการให้ข้อมูลรายละเอียด ซึ่งทางบิดามารดาของเด็กก็ยืนยันว่าเด็กไม่เคยมีพฤติกรรมในการลักขโมยและเด็กก็จะมาทำงานหารายได้พิเศษช่วงหลังเลิกเรียน
ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบในภาพที่ปรากฎจะเห็นได้ว่าตอนที่ถ่ายรูปคู่กับนักท่องเที่ยวนั้น เด็กยังใส่รองเท้านักเรียน และสวมชุดชาวเขาที่น่าจะตรงกับวันจันทร์ – ศุกร์ และไม่น่าจะเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ นอกจากนี้ทางบิดามารดาของเด็ก ยังยืนยันด้วยว่าภาพดังกล่าวน่าจะเป็นช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา
และขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ได้อยู่ระหว่างติดตามตัวนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษ เพื่อสอบถามข้อมูลอันจะเป็นประโยชน์ ซึ่งทางตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ และตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ โดยสถานีตำรวจภูพิงค์ราชนิเวศน์ จะได้ร่วมกันในการติดตามและหาข้มูลเพิ่มเติมในกรณีดังกล่าวต่อไป พร้อมอยากฝากให้ทางพี่น้องสื่อมวลชนช่วยกระจายข่าว เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงออกไปเนื่องจากกรณีนี้จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่หากมีความเข้าใจผิดเกิดขึ้น
ทางด้าน พ.ต.ท.ธาดา ฐิตะปัญญา สารวัตรปราบปราม สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาเมื่อเกิดเหตุกับนักท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ไม่ได้นิ่งนอนใจหากเกิดเหตุขึ้น ไม่ว่าจะเป็น แก๊งค์ล้วงกระเป๋าเวียดนาม กัมพูชา ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ดำเนินการติดตามจับกุม แต่ในกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี้ยังมีข้อสงสัยเนื่องจากผู้เสียหายยังไม่ได้เข้ามาแจ้งความกับทางตำรวจหลังจากที่ทรัพย์สินสูญหายไป หากมีการแจ้งความร้องทุกข์แล้วมีความเป็นจริงทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตรวจสอบและจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
นอกจากนี้ทาง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 บ้านดอยปุย นั้นก็ได้มีการประสานงานกันอยู่เป็นประจำก็ยืนยันว่าเด็กๆ ไม่มีพฤติกรรมการลักขโมย และที่ผ่านมาเด็กๆ ก็มีความตั้งใจที่จะมาเผยแพร่วัฒนธรรมในรูปแบบของชุดชาวเขา และได้ทำมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์ดังที่เป็นข่าว และเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ก็อย่างให้ทางสื่อมวลชนช่วยกระจายข่าวทำความเข้าใจและให้ความเป็นธรรมกับเด็กๆด้วย เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการสอบถามก็ทราบว่าเด็กไม่รู้เรื่องจริงๆ แต่ก็ถูกสื่อออกไปในภาพของสังคมกว้างที่ทำให้เด็กสูญเสียสิทธิของความเป็นเด็กไป และอาจจะทำให้ภาพพจน์ของเด็กเสียไปด้วย และอยากฝากแจ้งประชาสัมพันธ์ด้วยว่าหากนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวที่ปรากฎในภาพยังอยู่ในประเทศไทยหรือใครพอมีเบาะแสสามารถติดตามตัวได้ก็อยากให้มาช่วยชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความเข้าใจ
ขณะที่ทางด้าน บิดาและมารดาของเด็กหญิงที่ปรากฎภายในภาพ ระบุว่า ตนมีลูกสาวอยู่ 2 คน ซึ่งเป็นเด็กที่ปรากฎอยู่ภายในภาพ โดยคนเล็กอายุ 7 ปี และคนโต อายุ 10 ปี ซึ่งที่ผ่านมาเด็กทั้ง 2 คน ก็จะอาศัยเวลาช่วงหลังเลิกเรียนหรือวันหยุดแต่งกายไปยืนถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่บริเวณวัดพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งก็จะได้รับเงินเป็นค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆ และที่ผ่านมาตนยืนยันได้เลยว่าลูกทั้ง 2 คนไม่เคยมีพฤติกรรมที่ลักเล็กขโมยน้อยแต่อย่างใด และเป็นเด็กดีมาโดยตลอด กระทั่งเช้านี้ทางตนได้ทราบข่าวจากทาง ผู้ใหญ่บ้านว่าลูกของตนได้ปรากฎเป็นข่าวและถูกพาดพิงว่ามีพฤติกรรมลักทรัพย์ก็ตกใจมาก และได้เดินทางเข้าชี้แจงกับทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งทางตนก็เสียใจมากที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น โดยขณะนี้เด็กก็ยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น และหากข่าวนี้ยังถูกเผยแพร่ออกไปในทางที่ผิดๆ ก็เกรงว่าเด็กทั้ง 2 คนจะเสียภาพพจน์และมีผลกระทบต่ออนาคต จึงอยากวิงวอนให้ทางสื่อมวลชนและผู้เกี่ยวข้องเห็นใจและช่วยตรวจสอบให้ความเป็นธรรม ชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อให้สังคมเข้าใจด้วย
ร่วมแสดงความคิดเห็น