เมียนมาพร้อมรับผู้อพยพ กลับประเทศ

dsc_0360dsc_0130

ประชุม TBC พม่า-ไทย พร้อมให้ความร่วมมือทั้งด้านความมั่นคง และการค้าชายแดนท้องถิ่นทั้งสองประเทศ ส่วนปัญหาผู้อพยพที่เข้ามาอยู่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน 2 ฝ่าย อยู่ระหว่างจัดทำทะเบียนข้อมูลหลังจากพม่าพร้อมที่จะรับกลับประเทศ ขณะที่การลงมติเรื่องแพไม้ในแม่น้ำสาละวิน ไม่ได้ถูกนำเสนอแก่ฝ่ายพม่าเพื่อแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด

เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา พ.อ.ชายแดน กฤษณสุวรรณ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 7 /ประธานคณะกรรมการส่วนท้องถิ่นฝ่ายไทย (TBC) นำคณะกรรมการฝ่ายไทย ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ ปกครอง ตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร เดินทางเข้าร่วมการประชุม กับ พ.ต.อ่องจ่อเง็ง รักษาราชการ ผู้บังคับกองพันเคลื่อนที่เร็ว 54 / ประธานคณะกรรมการส่วนท้องถิ่นเมียนมา พร้อมคณะ ณ ห้องประชุมที่ว่าการ อ.แม่แจ๊ะ จ.บอละแคะ รัฐคะยา สหภาพเมียนมา ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นเมียนมา-ไทย ครั้งนี้ ฝ่ายเมียนมาเป็นเจ้าภาพ โดยฝ่ายพม่าให้การต้อนรับคณะฝ่ายไทยเป็นอย่างดี พร้อมจัดให้มีการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่นให้ชมdsc_0139สำหรับสาระสำคัญของการประชุมของทั้งสองฝ่าย ได้ร่วมกันเสนอและหารือในการพัฒนาสัมพันธ์ระหว่างทหารไทยกับทหารเมียนมา ตามแนวชายแดนซึ่งที่ผ่านมาทหารทั้งสองฝ่ายได้ออกลาดตระเวนร่วมกันทั้งภาคพื้นดินและลำน้ำ รวมทั้งการพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การแข่งขันกีฬา ตลอดจนการจัดทำกิจกรรมของหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานเป็นไปด้วยดี ทำให้เกิดความมั่นคงตามแนวชายแดนมากขึ้น ส่วนการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชาย แดน ฝ่ายไทยได้ขอความร่วมมือทหารพม่า ช่วยสกัดกั้นและปราบปรามไม่ให้มีการลักลอบเข้ามาในเขตไทย

ในส่วนโครงการผืนป่าอาเซียน ซึ่งเป็นนโยบายของผู้บัญชาการกองทัพบกไทย จะให้มีการจัดกิจกรรมให้หน่วยทหารที่อยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ปลูกต้นไม้ร่วมกัน เพื่อเป็นการดำรงสภาพแวดล้อมของผืนป่าอาเซียนตลอดแนวชายแดน, ไทยเมียนมา ส่วนความคืบหน้าการเปิดจุดผ่อนปรนช่องทางห้วยต้นนุ่น ( BP 13 ) อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่อง สอน ให้เป็นด่านถาวร เพื่อให้ประชาชนไทยและเมียนมาได้ส่งสินค้าเข้าออกได้อย่างสะดวกนั้น ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการปรับปรุงเส้นทางคมนาคม ในส่วนของฝ่ายไทยซึ่งมีระยะทางที่เหลืออีก 7 กิโลเมตร ที่จะต้องมีการก่อสร้างถนนเข้าไปยังช่องทางห้วยต้นนุ่น ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติกรมป่าไม้ หากได้รับอนุมัติให้ก่อสร้างถนนได้ ฝ่ายไทยก็จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ ในปี 2560 นี้

dsc_0140 ส่วนฝ่ายเมียนมา ขณะนี้ได้มีการปรับปรุงถนนอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน และกำลังจะปรับปรุงถนนเส้นทางระหว่าง อ.แม่แจ๊ะ ยังช่องทางเสาหิน ซึ่งอยู่ฝ่ายตรงข้าม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ทั้งนี้การเปิดด่านห้วยต้นนุ่นก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลทั้งสองฝ่าย ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการ นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่สำคัญอีกเรื่องคือผู้อพยพชาวเมียนมาที่หนีภัยสงครามจากการสู้รับ เข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวของ จ.แม่ฮ่องสอน นั้น ฝ่ายไทยได้สอบถามไปยังประธาน TBC เมียนมาว่าจะรับกลับประเทศเมียนมาเมื่อไร ซึ่งฝ่ายเมียนมา ขอเวลาในการสำรวจข้อมูลของผู้อพยพเหล่านี้ก่อนว่ามีจำนวนกี่คน เป็นชนเผ่ากลุ่มใดบ้างเพื่อจัดเตรียมที่พักพิงในประเทศเมียนมา และกระจายส่งกลับภูมิลำเนาเดิม

จากนั้นประธาน TBC ฝ่ายเมียนมาได้นำคณะกรรมการฝ่ายไทย เดินทางตรวจเยี่ยมช่องทางเสาหิน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อพัฒนาเส้นทางการขนส่งสินค้าจากประเทศเมียนมาเข้ามายังประเทศไทยให้สะดวกยิ่งขึ้น และร่วมกันทำบุญถวายสังฆทาน ณ วัดห้วยทราย อ.แม่แจ๊ะ จ.บอละแคะ รัฐคะยา สหภาพเมียนมา

ซึ่งการประชุมทั้งสองฝ่ายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ฝ่ายเมียนมายินดีพบปะพัฒนาสัมพันธ์กับประเทศไทยด้าน จ.แม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะการค้าขายชายแดนของทั้งสองฝ่ายจะดีขึ้นตามลำดับ และในการประชุมครั้งต่อไปคือครั้งที่ 33 ฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพ โดยได้เชิญฝ่ายเมียนมาพร้อมคณะกรรมการเข้าร่วมประชุมและจะกำหนดวันเวลาสถานที่ต่อไป

dsc_0182

อย่างไรก็ตามในการประชุมระดับท้องถิ่น ระหว่างไทยกับเมียนมาในครั้งนี้ ทางฝ่ายไทย ไม่ได้เสนอปัญหาเรื่องแพไม้สักในสาละวินให้กับฝ่ายพม่า ทั้งที่ได้มีการประชุม และสรุปผลภายหลังการปฏิบัติงาน (AAR : After action review) ของคณะทำงานแก้ไขปัญหาการลักลอบทำลายทรัพยากรป่าไม้ในเขตพื้นที่ป่าสาละวินในโครงการ “ พลิกฟื้นผืนป่าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ” ประจำปีงบประมาณ 2559 ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ประกอบด้วย คณะทำงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยทหาร , หน่วยป่าไม้ , และฝ่ายพลเรือน ได้มีมติร่วมกันว่า กรณีแพไม้สักไหลลอยในลำน้ำสาละวิน ให้นำปัญหาเข้าสู่การประชุมไทย-เมียนมา ในระดับท้องถิ่น หรือ การประชุมทีบีซี ครั้งต่อไป เพื่อให้ฝ่ายประเทศเพื่อนบ้าน ได้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ซึ่งหากทราบแน่ชัดว่าเป็นแพไม้ของที่อื่นที่ไม่ได้ตัดในฝั่งไทย ต้องมีมาตรการตรวจสอบร่วมกันของทุกฝ่าย ด้วยการจัดตั้งจุดตรวจบริเวณจุดน้ำเข้าประเทศไทย หรือ บริเวณตะกอท่า เพื่อป้องกันการตัดไม้สวมแพในระหว่างการลำเลียงผ่านเขตไทย

ร่วมแสดงความคิดเห็น