ผลโหวตด้วยยอดจำนวนไลค์ (Like)ของนิตยสารท่องเที่ยว และเว็ปไซค์ ( Website) ด้านการท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลกล้วนระบุข้อมูลชัดว่า “เชียงใหม่” เป็นเมืองท่องเที่ยววิเศษสุด คุ้มค่า ปลอดภัย สะดวกสบายและครบครัน…ในทุกความต้องการ
ประการสำคัญคือ ความเป็นมิตร ของชาวเชียงใหม่ มีสูงกว่าเมืองท่องเที่ยวระดับมาตรฐานโลก
เป็นเมืองน่าเที่ยวอันดับ 1ของเอเชียและ อันดับ 2ของโลก อ้างอิงจากผลสำรวจของ” Travel & Leisure” ทราเวล แอนด์เลอซองค์ นิตยสารแวดวงท่องเที่ยวติดอันดับโลก
หรือแม้แต่ ทริป แอดไวเซอร์ ,โลนลี่ แพลเน็ต
มากมายหลายแหล่งข้อมูล ตีตรารับประกัน เชียงใหม่..ว่า ” เป็นเมืองน่าเที่ยว สงบ มีวัดเก่าแก่มากมาย มีสีสันความเป็นชนบท ผสมสานความเป็นเมืองร่วมสมัย ที่เพียบพร้อม ทั้งร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก ถนนหนทางสวดวกสบายในทุกราคาจริงๆ”
หากสะท้อนในมุม”ผู้ประกอบการท่องเที่ยว” ส่วนใหญ่ ยืนยันว่า เป็นไปตามนั้น ด้วยผลประกอบการ ยังคงเป็นที่น่าพอใจ แม้อัตราการแข่งขันในตลาดจะดุเดือด เข้มข้นกว่าเดิม อีกทั้งบ้านเราเปิดเสรีในด้านการค้า การลงทุน
” เชียงใหม่มีดี ใครใคร่ค้า มาค้า ใครใคร่มาลงทุน เชิญโอกาส รายได้อยู่ที่จังหวะและ..ยังคงเป็นเมืองปราบเซียนเสมอ..ถ้ามุ่งหวังเอาแต่ได้ “
ที่ผ่านมามีนักลงทุนในพื้นที่และต่างถิ่น จำนวนไม่น้อย พับพ่ายไปกับเกมส์การตลาดธุรกิจที่เชียงใหม่ หลงเหลือเศษซาก สิ่งปลูกสร้าง โครงการร้าง ในย่านทำเลทองของเมือง หลายๆโปรเจคท์
แม้จะเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ของภาคเหนือ และอันดับ 2ของประเทศ รองจาก นครราชสีมา แต่ความโดดเด่นด้านภูมิประเทศ ผสานอย่างลงตัวกับความเป็นเมืองเก่า
ก่อเกิดจุดแข็งด้านแหล่งท่องเที่ยว ติดอันดับยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมายาวนาน
จำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละปี ไม่น้อยกว่า 8-9 ล้านคน มาเยือนแยกเป็นคนไทยราวๆ 6-7 ล้าน ที่เหลือเป็นชาวต่างชาติ สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวปีละไม่ต่ำกว่า 7-8 หมื่นล้านบาท เฉพาะไทยเที่ยวไทยก็ปีละ 4 หมื่นกว่าล้าน จะเป็นข้อมูล อ้างอิงจากสื่อฯหรือช่องทางต่างๆที่จัดอันดับ เชียงใหม่จากผลสำรวจของนักท่องเที่ยวจะเป็นเช่นไร สิ่งที่สะท้อนให้เห็นคือ อัตราการลงทุนด้านที่พัก กิจการแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เปิดทางเลือกให้ กลุ่มนักท่องเที่ยว มีอัตราเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเชียงใหม่ มีการพัฒนา ขยายตัวอย่างก้าวกระโดด บางส่วนของสังคม..คนเมืองนี้กังวล
มุมสะท้อนจากชาวเชียงใหม่ บางส่วนที่” ทีมข่าวเชียงใหม่นิวส์” ลงพื้นที่เจาะลึกข้อมูลเชิงวิจัย หลายย่านในเขตนครเชียงใหม่ ระบุว่า การเกิดขึ้นของ การค้า การลงทุน ในรูปแบบต่างๆไม่ว่าจะร้านอาหาร บริการนำเที่ยวและโรงแรม ที่พัก
ตามตรอก ซอกซอยที่คับแคบ แบบเมืองเก่าๆอยู่แล้ว ยิ่งอยู่ยากลำบาก ทั้งในช่วงกำลังก่อสร้าง และหลังสร้าง เนื่องจากความคึกคัก จอแจ ของผู้คน และปัญหาระบบโครงสร้างพื้นฐาน “น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี” เกินศักยภาพท้องถิ่นที่จะรองรับ..ที่น่าเร่งรีบรับมือคือ เขตโบราณสถานก็มักจะมีการละเมิดกฎฯ
ซอยที่คับแคบ ถ้าเกิดเพลิงไหม้ และความสูงของอาคาร แม้จะมีระบบทันสมัยป้องกันอัคคีภัย แต่เชื่อได้ว่า ความเสียหาย และศักยภาพการจัดการของท้องถิ่น คงมีอุปสรรคปัญหาหลายด้าน ตลอดจนโครงสร้าง ท่อระบายน้ำ การจัดการขยะ สิ่งปฏิกูล ยังคงใช้มาตรฐานเดิมๆ
ชุมชนแบบดั้งเดิม ในท่ามกลางอารยะ สถาปัตย์สิ่งปลูกสร้าง การลงทุนใหม่ๆ พยายามหล่อหลอม สร้างปฏิสัมพันธ์กัน ผ่านความร่วมมือ ในกิจกรรมชุมชน งานบุญ งานเทศกาล ประเพณีต่างๆ ความพยายามที่จะ”ดำรงอยู่ อย่างสุขสงบ ร่วมกัน ในเมือง”
ประธานชุมชน ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ หลายๆท่าน แสดงทัศนะความคิดเห็นว่า การมีอยู่ของชุมชนเกือบจะ ร้อยแห่งในนครเชียงใหม่ คือตัวอย่างที่สังคมกำลังพยายามประนีประนอม การอยู่ร่วมกันของผู้คนในเขตเมือง แน่นอนว่า แนวคิด หลักการ เมืองปลอดชุมชน (แออัด) ซิตี้ วิทเอ๊าท์ สลัม
สำหรับเชียงใหม่แล้ว หลังกำแพงรั้ว อาคาร ทันสมัย สูงลิ่วเทียมเจดีย์ ยังมีชีวิต มีสังคม ของคนเมือง ที่ยืนหยัดอยู่ให้ได้ท่ามกลางความเจริญ เติบโตของเมืองแบบ สโลว์ไลฟ์เรียบง่าย ในความแตกต่างทางเศรษฐกิจ สังคม ที่ต้อง อยู่ให้รอดของคนเมืองเชียงใหม่
ร่วมแสดงความคิดเห็น