โบสถ์คริสต์หลังแรกในเชียงใหม่

dsc_00012 ประวัติศาสตร์ของมิชชันนารีในแผ่นดินล้านนา เริ่มต้นเมื่อหมอดาเนียล แมคกิลวารี ได้เข้ามาเผยแพร่คริสต์ศาสนาควบคู่กับการนำวิทยาศาสตร์สมัยใหม่เข้ามาเผยแพร่ในเชียงใหม่ ในปี พ.ศ.2432 ทางการศึกษานั้นหมอแมคได้สร้างโรงเรียนปรินส์รอยเยลส์วิทยาลัยและโรงเรียนดาราวิทยาลัยขึ้น ขณะที่การแพทย์ หมอแมคได้สร้างโรงพยาบาลแมคคอมิกและโรงพยาบาลโรคเรื้อนแมคเคน

ภายหลังที่ หมอดาเนียล แมคกิลวารี ได้ออกเดินทางเผยแพร่ศาสนาคริสต์อยู่ในแผ่นดินล้านนา จนกระทั่งมีคนเชียงใหม่สนใจเข้าร่วมเป็นคริสเตียนมากขึ้น แต่ยังไม่มีสถานที่ใช้สำหรับประกอบศาสนกิจ กระทั่งมีครอบครัวคริสเตียนครอบครัวหนึ่งได้ยกที่ดินมรดกซึ่งได้รับจากบรรพบุรุษ เพื่อใช้สร้างโบสถ์คริสตจักรเชียงใหม่ เพราะทราบมาว่าขณะนั้นคริสตจักรเชียงใหม่มีสมาชิกเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่มีอาคารโบสถ์ถาวรต้องอาศัยอาคารเรียนของโรงเรียนหญิง คือโรงเรียนพระราชชายาเป็นที่นมัสการ ห้องประชุมก็คับแคบ ไม่พอบรรจุสมาชิกซึ่งเพิ่มขึ้นทุกปี

dsc_00014

คณะสมาชิกจึงได้หารือกันและได้สร้างโบสถ์คริสตจักรเชียงใหม่ขึ้นบริเวณริมฝั่งแม่น้ำปิงทิศตะวันออก โดยมี นพ.ซิค มิชชันนารีชาวอเมริกัน ซึ่งทำงานอยู่กับหมอดาเนียล แมคกิลวารี โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างสมัยนั้นเป็นเงิน 7,000 เหรียญสหรัฐ เป็นเงินไทยประมาณ 15,000 บาท

หลังจากที่สร้างโบสถ์แล้วเสร็จ ได้ทำพิธีฉลองในวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ.2434 ได้มีการนมัสการพิเศษมอบพระวิหารของพระเจ้า โดยมีหมอดาเนียล แมคกิลวารี เป็นผู้เทศนา ท่านได้ใช้พระธรรมยเอะเคล บทที่ 47 ข้อ 1-4 เป็นหัวข้อเทศนา มีดร.ดอดด์ เป็นผู้อธิษฐานมอบถวายโบสถ์แก่องค์พระผู้เป็นเจ้า

dsc_00015โบสถ์คริสตจักรเชียงใหม่ ถูกใช้ประกอบศาสนกิจเรื่อยมาจนกระทั่งปี พ.ศ.2460 อาคารโบสถ์หลังนี้เอียงทรุดไปทางทิศใต้ จนต้องประกาศงดใช้เพราะจะเป็นอันตรายแก่คริสตศาสนิกชนที่เข้าไปประกอบศาสนกิจในโบสถ์ และมีดำริจะรื้อออก แต่ได้มีมิชชันนารีซึ่งเป็นสถาปนิกด้วยคือ ศ.จ.เฮนรี่ พี.รีด ออกความคิดให้ใช้ซุงค้ำยันจากภายนอก แล้วใช้แม่แรงดีดงัดจนตัวอาคารตั้งตรงเหมือนเดิม และใช้งานต่อไปได้อีกหลายสิบปี จนกระทั่งปี พ.ศ.2511 เมื่อมีการสร้างอาคารโบสถ์คริสตจักรหลังใหม่ขึ้นมาแทน อาคารหลังโบสถ์คริสตจักรหลังนี้จึงถูกเลิกใช้ไป

ในช่วงที่คณะมิชชันนารีได้เข้ามาเผยแพร่ศาสนาอยู่ในเชียงใหม่และได้ช่วยเหลือชาวบ้านอย่างไม่ได้เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ทำให้ศรัทธาของชาวล้านนาที่มีต่อคณะมิชชันนารีได้เพิ่มขึ้นตามลำดับ กระทั่งเมื่อจอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีสมัยนั้นได้เดินทางไปตรวจราชการที่เชียงใหม่ในปี พ.ศ.2486 พบว่ามีคนเชียงใหม่กว่าร้อยละ 30 หันมานับถือคริสตศาสนา และคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าคณะมิชชันนารีได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ในการนำความเจริญรุ่งเรืองหลาย ๆ ด้าน ทั้งวิทยาศาสตร์ การแพทย์ การศึกษา มาสู่แผ่นดินที่เรียกว่าล้านนา อันนับเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างคุณภาพชีวิตของคนเชียงใหม่จนถึงปัจจุบัน

dsc_00016

จักรพงษ์ คำบุญเรือง

ร่วมแสดงความคิดเห็น