เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 ต.ค.59 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ นำโดย พ.ต.อ.ดร.สรายุทธ สงวนโภคัย รรท.ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันนำตัวผู้ต้องหาในคดีชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ (เซเว่นอีเลฟเว่น) สาขาแม่โจ้ 4 พื้นที่ สภ.แม่โจ้ ทราบชื่อภายหลังคือ นายเรือนคำ ลุงต๊ะ อายุ 18 ปี ที่อยู่ 32/ซ หมู่ที่ 7 ต.แม่สูน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในความผิดฐาน “ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธในเวลากลางคืนโดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น มอมหน้าหรือทาหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้”
โดยทางผู้ต้องหาได้ลงมือก่อเหตุเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟ เว่น สาขาแม่โจ้ 4 ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายเรือนคำ ผู้ต้องหามาทำการชี้จุดที่ลงมือก่อเหตุ และพฤติกรรมการก่อเหตุหลังจากถูกจับกุมตัวได้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องคอยดูแลความปลอดภัย
ทั้งนี้การจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ สืบเนื่องมาจากทาง พ.ต.ท.จิรภาส ศักดิ์สูง สว.สส.สภ.แม่โจ้ ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายบุกเดี่ยวควงอาวุธมีดบุกเข้าจี้พนักงานร้ายสะดวกซื้อ แล้วบังคับชิงเอาเงินสดไป ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และประสานไปยังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.เชียงใหม่ เข้าตรวจสอบ โดยจากการตรวจสอบภาพวงจรปิดพบว่าคนร้ายเป็นชาย 1 คน อายุประมาน 20 ปี สวมหมวกกันน็อคสีดำ ใช้ผ้าแมสปิดปากพรางใบหน้า สวมเสื้อแขนยาวสีดำกางเกงขายาวสีดำ สวมร้องเท้าผ้าใบ เดินเข้าไปยังร้านโดยทำทีเข้าไปขอซื้อบุหรี่กับพนักงานขาย และขณะพนักงานกำลังจะหยิบบุหรี่ให้ คนร้ายก็ชักอาวุธมีดอีโต้ ออกมาขู่จะปาดคอ และบังคับให้เปิดลิ้นชักเงินในเคาเตอร์ออกมา ก่อนจะหยิบเงินสดและโทรศัพท์มือถือหลบหนีไป
นอกจากนี้จากการตรวจสอบภาพวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบภาพคนร้ายขณะหลบหนี จึงได้ทำการออกติดตามจนสามารถสืบทราบว่าคนรายคือ นายเรือนคำ ลุงต๊ะ ซึ่งได้พักอาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมได้คาห้องพัก ย่าน ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
ทางด้าน พ.ต.อ.ดร.สรายุทธ สงวนโภคัย รรท.ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการทำงานอย่างบูรณาการระหว่าง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.แม่โจ้ และชุดสืบสวน ภ.จว.เชียงใหม่ ในการออกติดตามหาตัวคนร้ายจากกล้องวงจรปืดตามโครงการโปลิศอาย ซึ่งจากเบาะแสพบว่าคนร้ายได้พักอาศัยอยู่ในละแวกใกล้กับจุดเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังไปซุ่มจนสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัย ซึ่งมีรูปพรรณตรงกับภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิด พร้อมด้วยของกลางทั้งเสื้อผ้า หมวกกันน๊อคที่สวมก่อเหตุ พร้อมมีดอีโต้และเงินสดของกลางอีกจำนวนหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปสอบสวน ผู้ต้องหาก็ได้ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง
โดยก่อนเกิดเหตุได้เดินสำรวจแล้วครั้งหนึ่ง และพบว่าที่ร้านสะดวกซื้อนั้น มีเฉพาะพนักงานผู้หญิงอยู่ดูแล จึงได้ตัดสินใจใช้อาวุธมีดทำการจี้ชิงทรัพย์ โดยทรัพย์สินที่ได้ไปเป็นเงินสดเกือบ 2,000 บาท พร้อมด้วยโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง หลังจากก่อเหตุผู้ต้องหาได้กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และยังทำทีมาเดินดูเหตุการณ์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็ถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมตัวไว้ได้ในที่สุด ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุนั้น ทางผู้ต้องหาได้อ้างว่าตกงานและเงินไม่พอใช้จึงได้ตัดสินใจลงมือดังกล่าว ซึ่งหลังจากผู้ต้องหาได้รับสารภาพ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะได้มีการส่งตัวให้กับ พงส.สภ.แม่โจ้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น