รร.ขนาดเล็กเชียงใหม่ล้น รับนักเที่ยวแบ๊กแพ็กเกอร์

เผยยอดโรงแรมขนาดเล็กพุ่ง! ผู้ประกอบการหัวใสดัดแปลงอพาร์ทเม้นท์ให้เช่ามาเป็นโรงแรมรับนักท่องเที่ยวแบ๊กแพ็กเกอร์ (Backpacker) ขณะที่ปัจจุบันคนจีนสนใจเข้ามาลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเมืองท่องเที่ยวต่างๆของไทย คาดในอนาคตจะส่งผลให้เกิดการขยายตัวด้านความต้องการที่พักอาศัยในกลุ่มโรงแรมในไทยมากขึ้น ทั้งโรงแรมขนาดเล็กและขนาดใหญ่

นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหารศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์สจำกัด (AREA) เปิดเผยในงานเสวนา “การลงทุนธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก : โอกาสและวิธีทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ” ว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวไทยมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วง 3 ไตรมาสแรกปี 2559 ซึ่งอ้างอิงจากจำนวนการเข้ามาของนักท่องเที่ยว

โดยในปี 2559 นี้นักท่องเที่ยวจีนมีจำนวนมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญตามภาคต่างๆ ของประเทศ รวมถึงกรุงเทพฯ ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กมีการเกิดขึ้นอย่างมาก ทำให้บางโรงแรมหรือสถานที่พักขนาดเล็กต้องมีการปรับตัวทั้งในด้านการแข่งขันและการตั้งราคา

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีผู้ประกอบการบางรายสามารถดัดแปลงอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าเดือนละ 3,000 บาท มาเป็นโรงแรมให้เช่าคืนละ 1,000 บาท (หรือเดือนละ 30,000 บาท)หรืออาจมีการดัดแปลงตึกแถวมาแบ่งเป็นห้องเช่าแบบโรงแรมอีกด้วย แต่ทั้งนี้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีความรู้และความเข้าใจในการดำเนินกิจการดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันภาครัฐมีความเข้มงวดมากขึ้น

ในขณะที่ด้านช่องทางการสื่อสาร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถสร้างการรับรู้แก่นักท่องเที่ยว คือ การขายห้องพักผ่านเว็บไซต์โรงแรมชื่อดังต่างๆเช่น Agoda, Bookingและอื่นๆ ซึ่งทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทันทีการที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายถึงประมาณ 16-20%เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น แต่ก็คุ้มค่ากับการใช้บริการเหล่านี้ เพราะโอกาสที่โรงแรมเล็กๆ จะประสบความสำเร็จในการเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกมีโอกาสน้อยมาก และด้วยสื่อเหล่านี้จะทำให้โรงแรมเล็กๆ ได้เปรียบโรงแรมใหญ่ในการหาลูกค้า

“นักท่องเที่ยวประเภทมาคนเดียวฉายเดี่ยว มาเองแบบไม่ใช้ทัวร์ ปัจจุบันมีมากขึ้นจากเดิมมีแต่แบบแบ๊กแพ็กเกอร์ (Backpacker)แต่ในปัจจุบันมีความหลากหลาย ไม่ใช่เฉพาะที่ใช้เงินแต่น้อยเท่านั้น และนักท่องเที่ยวประเภทนี้ไม่ใช่มีเฉพาะชาวยุโรป แต่รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ในเอเชียด้วย แม้แต่จีนก็มีนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่ชอบเที่ยวแบบอิสระมากขึ้น ขณะที่ทำเลที่จะประสบความสำเร็จ คือ ทำเลที่อยู่ในพื้นที่เมืองเก่า ที่มีเสน่ห์สำหรับนักท่องเที่ยว เช่น ชุมชนแออัดเดิมหลังวัดราชนัดดา หรือชุมชนอื่นๆ ก็สามารถดัดแปลงมาเป็นโรงแรมขนาดเล็กๆ ได้เช่นกัน กลิ่นอายของเมืองโบราณเป็นเสน่ห์สำคัญ ตอนนี้ไม่ใช่แค่ต้องแปลงบ้านเก่าๆ สมัยรัชกาลที่ 5มาทำเป็นโรงแรมแล้ว เพราะแม้แต่บ้านไม้เก่าๆในสลัม หรือแม้แต่ตึกแถวเก่าๆ ก็สามารถดัดแปลงมาทำเป็นโรงแรมได้” นายโสภณ กล่าว

ด้านนายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทโมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด ที่ปรึกษาการลงทุน เช่า ซื้อ และพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์กล่าวว่า ปัจจุบัน คนจีนสนใจเข้ามาลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเมืองท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงในกรุงเทพฯ โดยเมืองท่องเที่ยวที่สนใจจะอยู่ในโซนเมืองชายทะเล เช่น พัทยา ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ ส่วนใหญ่รูปแบบการลงทุนจะเป็นโครงการประเภทคอนโดมิเนียม ราคาไม่เกิน 3-4 ล้านบาททั้งนี้รูปแบบการเข้ามาลงทุนจะเป็นการร่วมทุนกับเจ้าของที่ดินซึ่งคาดว่าในอนาคตจะส่งผลให้เกิดการขยายตัวด้านความต้องการที่พักอาศัยในกลุ่มโรงแรมในไทยมากขึ้น ทั้งโรงแรมขนาดเล็กและขนาดใหญ่