วัดดอยสุเทพฯ จัด “มหาพุทธาภิเษก” ร่วมสมโภช 720 ปี พร้อมเตรียมจัดทำบุญ “วันกตัญญู” 6 พ.ย.นี้

พุทธาภิเษก..........สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรฯ พระพรหมวชิรญาณ วัดยานนาวา กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปเอกูนนวตายุโก พระเจ้าค่าคิง และพระเจ้าแค่งคม ซึ่งพระธรรมเสนาบดี รองเจ้าคณะภาค 7 จัดขึ้นที่วัดพระธาตุดอยสุเทพฯ อ.เมือง เชียงใหม่ เมื่อค่ำวันที่ 31 ต.ค.นี้ โดยมีพระธรรมมังคลาจารย์ (หลวงปู่ทอง สิริมังคโล) วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร และพระเถระเกจิอาจารย์มีชื่อจากภาคเหนือร่วมปลุกเสก และ ดร.ขันชัย เกียรติศรีธนากร เป็นเจ้าภาพในพิธี
พุทธาภิเษก……….สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรฯ พระพรหมวชิรญาณ วัดยานนาวา กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปเอกูนนวตายุโก พระเจ้าค่าคิง และพระเจ้าแค่งคม ซึ่งพระธรรมเสนาบดี รองเจ้าคณะภาค 7 จัดขึ้นที่วัดพระธาตุดอยสุเทพฯ อ.เมือง เชียงใหม่ เมื่อค่ำวันที่ 31 ต.ค.นี้ โดยมีพระธรรมมังคลาจารย์ (หลวงปู่ทอง สิริมังคโล) วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร และพระเถระเกจิอาจารย์มีชื่อจากภาคเหนือร่วมปลุกเสก และ ดร.ขันชัย เกียรติศรีธนากร เป็นเจ้าภาพในพิธี

วัดพระธาตุดอยสุเทพจัดมหาพุทธาภิเษกพระเอกูนะนวตายุโก พระเจ้าค่าคิง และพระเจ้าแค่งคม ถวายพระราชกุศลในหลวงเสด็จสู่สวรรคาลัย และร่วมสมโภช 720 ปีเมืองเชียงใหม่ โดยกลุ่มสหสัมพันธ์สืบสานประเพณี 720 ปีเชียงใหม่ เตรียมงานวันกตัญญูครั้งใหญ่ 6 พฤศจิกายน และหล่อพระพญามังราย พระเมืองแก้ว และพระราชชายาเจ้าดารารัศมีรวมอีก 3 องค์

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2559 ที่บริเวณลานชมวิว วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม และเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม และพระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม วัดยานนาวา กรุงเทพมหานคร ร่วมกับพระธรรมเสนาบดี รองเจ้าคณะภาค 7 ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพุทธาภิเษกพระพุทธเอกูนนวุตายุโก พร้อมพระพุทธรูปที่พุทธบริษัทในจังหวัดเชียงใหม่ คณะกรรมการกลุ่มสหสัมพันธ์สืบสานประเพณี 720 เมืองเชียงใหม่สร้างขึ้นได้แก่ พระพุทธเจ้าค่าคิงจำลอง (พระประจำพระองค์พระยามังราย) พระพุทธรูปพระเจ้าแค่งคมจำลอง เพื่อประดิษฐาน ณ โบราณสถานหนองงูวัดหลวงภูริทัตตาราม ต.แม่โป่ง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ โดยมีพระธรรมมังคลาจารย์ (หลวงปู่ทอง สิริมังคโล) วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร และพระเถระเกจิอาจารย์มีชื่อจากภาคเหนือร่วมปลุกเศก

ทั้งนี้ มูลนิธิพระบรมธาตุดอยสุเทพ คณะสงฆ์ และศรัทธาประชาชนได้ร่วมกันแกะสลักพระพุทธรูปเอกูน นวตายุโก โดยมี ดร.สนธยา กล่อมเปลี่ยน ผู้อำนวยการบริษัทสมิทธิผล จำกัด กรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามคูร่า จำกัด เป็นเจ้าภาพสร้างถวาย เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2559 ได้อัญเชิญขึ้นสู่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทางบันไดนาค 306 ขั้นด้วยความพร้อมเพรียง จากนั้น พระธรรมเสนาบดี รองเจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ได้กำหนดการพิธีมหาพุทธาภิเษก ในวันที่ 31 ตุลาคม 2559 เวลา 17.29 น.ที่่ผานมา ณ ลานชมวิวบนวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ โดยอาราธนา สมเด็จพระพุฒาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม มาเป็นประธาน ซึ่งเมื่อเสร็จพิธีมหาพุทธาภิเษกแล้ว คณะสงฆ์ และประชาชนได้ประกอบพิธีสวดพระอภิธรรม และถวายอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วย

สำหรับพระพุทธเอกูนนวุตายุโก (พระเอกูนะ นวตายุโก บรมนาถ ศรีธัยยะชาติ) เป็นพระพุทธรูปไม้สักปางประทานพรทรงเครื่องจักรพรรติ ขนาดสูงกว่า 5.2 เมตร น้ำหนัก 2 ตัน พระธรรมเสนาบดี รองเจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ ดำริจัดสร้างในวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ 70 ปี และเฉลิมพระชนมพรรษา 89 พรรษา แต่เมื่อสำนักพระราชวังแจ้งข่าวอันนำซึ่งความโศกเศร้าอาดูรของพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคตลง คณะกรรมการดำเนินงานจึงประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล และถวายความอาลัยพร้อมกับงานมหาพุทธาภิเษก ส่วนเจ้าภาพผู้สร้างถวายพระเอกูนวตายุโกคือ ดร.สนธยา กล่อมเปลี่ยน และคณะได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นประธานในพิธีทอดถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ณ วัดพระธาตุดอยสุเทพฯ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมนี้ด้วย

พุทธาภิเษก..........สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรฯ พระพรหมวชิรญาณ วัดยานนาวา กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปเอกูนนวตายุโก พระเจ้าค่าคิง และพระเจ้าแค่งคม ซึ่งพระธรรมเสนาบดี รองเจ้าคณะภาค 7 จัดขึ้นที่วัดพระธาตุดอยสุเทพฯ อ.เมือง เชียงใหม่ เมื่อค่ำวันที่ 31 ต.ค.นี้ โดยมีพระธรรมมังคลาจารย์ (หลวงปู่ทอง สิริมังคโล) วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร และพระเถระเกจิอาจารย์มีชื่อจากภาคเหนือร่วมปลุกเสก และ ดร.ขันชัย เกียรติศรีธนากร เป็นเจ้าภาพในพิธี
พุทธาภิเษก……….สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรฯ พระพรหมวชิรญาณ วัดยานนาวา กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปเอกูนนวตายุโก พระเจ้าค่าคิง และพระเจ้าแค่งคม ซึ่งพระธรรมเสนาบดี รองเจ้าคณะภาค 7 จัดขึ้นที่วัดพระธาตุดอยสุเทพฯ อ.เมือง เชียงใหม่ เมื่อค่ำวันที่ 31 ต.ค.นี้ โดยมีพระธรรมมังคลาจารย์ (หลวงปู่ทอง สิริมังคโล) วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร และพระเถระเกจิอาจารย์มีชื่อจากภาคเหนือร่วมปลุกเสก และ ดร.ขันชัย เกียรติศรีธนากร เป็นเจ้าภาพในพิธี

นายวัลลภ นามวงศ์พรหม กรรมการประชาสัมพันธ์วัดพระธาตุดอยสุเทพฯ กล่าวว่า สำหรับพระพุทธรูปพระเจ้าค่าคิงที่ได้รับการพุทธาภิเษกตามแบบเบ้าประเพณีของเมืองเหนือครั้งนี้ กลุ่มสหสัมพันธ์สืบสานประเพณี 720 ปี ซึ่งมีนายธานินทร์ สุภาแสน อดีต ผวจ.เชียงใหม่ เป็นประธานร่วมกับศรัทธาประชาชนจัดสร้างขึ้น เพื่อฉลองสมโภชเชียงใหม่ 720 ปี หลังจากเสร็จพิธี ณ วัดพระธาตุดอยสุเทพฯแล้ว ในวันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2559 ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไปจนถึงเที่ยงวัน คณะกรรมการจะประกอบพิธี ณ วัดโลกโมฬี ถ.มณีนพรัตน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมกับงานทำบุญ “วันกตัญญู” เพื่อน้อมอุทิศส่วนกุศลถวายแด่ดวงพระวิญญาณ และอุทิศส่วนกุศลผลบุญไปถึงท่านผู้มีพระคุณูปการต่อเมืองเชียงใหม่เหล่านั้น

ในพิธีวันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2559 ที่วัดโลกโมฬี ผู้เข้าร่วมพิธียังถือเป็นการทำบุญแผ่กุศลถึงพระคุณบิดา-มารดา พี่น้อง พี่ป้าน้าอาว์ ปู่ย่าตายาย ผู้มีบุญคุณ ผู้มีพระคุณทั้งหลาย ผู้เคยร่วมทุกข์ร่วมสุข เคยมีความผูกพันกันมาในอดีต บุคคลอันเป็นที่รัก ตลอดถึงเจ้ากรรมนายเวรที่ล่วงลับไปแล้วของท่านที่เข้าร่วมพิธี โดยร่วมกันจารึกชื่อ-สกุล ของแต่ละคนที่ล่วงลับไปแล้ว ลงไปในบาตรกตัญญู (หรืออาจจะนำภาพถ่าย/อัฐิของผู้ล่วงลับไปแล้วมาร่วมทำบุญด้วยก็ได้) จากนั้นคณะกรรมการจัดได้นำรายชื่อดังกล่าวประกอบพิธีอุทิศส่วนกุศลไปถึง สำหรับภาคบ่ายวันเดียวกันคณะกรรมการกลุ่มสหสัมพันธ์สืบสานประเพณี 720 ปีเมืองเชียงใหม่ จะร่วมกันหล่อพระอีก 3 องค์ข้างต้นที่โรงหล่อกุลวัฒนา อ.สันกำแพง เพื่อให้ได้องค์พระผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อเมืองเชียงใหม่ คือ การหล่อพญามังราย ปฐมกษัตริย์เมืองเชียงใหม่ พระเมืองแก้ว กษัตริย์ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ และพระราชชายา เจ้าดารารัศมี ผู้ทรงกำหนดกรอบแห่งประเพณี และศิลปวัฒนธรรมล้านนาไว้อย่างเป็นระเบียบแบบแผน รวมเวลาเดียวกัน 3 พระองค์

ทั้งหมดนี้ เพื่อฉลองสมโภชเมืองเชียงใหม่ มีอายุครบ 60 รอบนักษัตร 720 ปี ในปี พ.ศ.2559 เมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ ได้สร้างมาเมื่อปีพุทธศักราช 1839 และมีการพัฒนามาแต่ละยุคสมัย กระทั่งมีความเจริญรุ่งเรืองมาโดยลำดับ นับเป็นเมืองที่มีธรรมชาติที่สวยงาม และมีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งสง่างามเป็นที่สุดด้วยอารยะ ประเพณีวัฒนธรรม ประชาชนที่ได้มาอยู่อาศัย มีความเป็นอยู่อย่างสงบสุขร่มเย็น และต่างภาคภูมิใจในแผ่นดินเกิด ล้วนมาจากพระบารมีของบูรพกษัตริยาธิราชเจ้า อันมีพญามังรายเป็นปฐมกษัตริย์ ผู้ทรงสร้างบ้านแปลงเมืองเชียงใหม่แต่ต้นมา ตลอดจนบรรพชนผู้มีส่วนร่วมทำให้บ้านเมืองเป็นปึกแผ่นแน่นหนา รวมถึงผู้นำทางจิตวิญญาณ ได้รับเอาพระพุทธศาสนามาเป็นสรณะ โดยอบรมสั่งสอนขัดเกลาจิตใจของพี่น้องประชาชนชาวล้านนาให้เป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี.

ร่วมแสดงความคิดเห็น