บูรณาการแผนรับวิกฤติข้าว ชาวนาระทมข้าวราคาตกต่ำ

4-jpg
แม้หลายหน่วยงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะยืนยันแนวโน้มข้าวไทยในปีนี้ น่าจะส่งออกไปขายได้ตามเป้าฯที่กำหนดไว้ในตลาดโลก
แต่จากปัญหา สต๊อคข้าวที่มีอยู่เป็นจำนวนมากประจวบเหมาะกับภัยแล้ง และน้ำท่วม ซึ่งเป็นภัยซ้ำซาก ประจำฤดูกาลของเกษตรกรไทย ส่งผลให้เกิดปัญหา “ข้าว” เฉพาะเวลานี้ ปมปัญหาข้าวมีความชื้น โรงสี…?..กดราคา และข้ออ้างด้วยเหตุปัจจัยในสังคมมากมายหลายประเด็น อาจจะมีส่วนหรือไม่นั้น
น่าวิเคราะห์ สืบสาวราวเรื่อง ???!!! ให้กระจ่างชัดต่อไป
ส่วนราคาข้าว 5-6 พันบาทต่อตัน ราคารับซื้อสูงสุดหากมีความชื้น 15-20% ราคาเฉลี่ยตันละ 7,000-8,000 บาท หากอยู่ในอัตรานี้ ชาวนาทั่วทุกพื้นที่ “เรียบร้อย..ตอกฝาโลง” รอได้เลย เพราะหากคำนวณต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งชาวนาโอดครวญผ่านสื่อว่า ค่ารถไถไร่ละ 250 บาท ต้องไถกันสองรอบ ค่าเมล็ดพันธุ์ข้าว ค่าปุ๋ยกระสอบละ 800 บาท
ถ้าข้าว….ขายได้ราคาแค่ 6 บาท..คงเข้าใจตรงกันนะครับ…ว่าจะเกิดอะไรขึ้น…ในอนาคต กระทรวงเกษตรสหรัฐ หรือ USDA เคยประเมินว่า ประเทศไทยจะกลับมาเป็นแชมป์ส่งออกข้าวโลกในปีนี้ โดยคาดการณ์ว่า ปี 2559 ทั่วโลกจะมีปริมาณการค้าข้าวรวม 42.10 ล้านตัน
ผลผลิตข้าวทั่วโลกลดลง หากมองในแง่เปรียบเทียบตามหลักความจริง “ของขาด ราคาย่อมสูง”
ยิ่งปีนี้รัฐฯขอความร่วมมือลดทำนาปรัง ลดพื้นที่ปลูกหันมาทำอย่างอื่นเสริม ที่สร้างมูลค่าเพิ่มมากกว่า ในภาคการเกษตรแบบเดิมๆ ก็แล้วเหตุไฉนปีนี้ราคาข้าวถึงดิ่งเหว ตกต่ำสุดในรอบ 10 ปีอีกครั้ง จนส่งผลให้เกิดไอเดียกระฉูด จากสังคมก้มหน้า ให้ชาวนาขายข้าว ผ่านออนไลน์ โดยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เข้ามาส่งเสริม สนับสนุน
ในอนาคต อาจเห็นภาพข้าวบรรจุถุง ติดยี่ห้อ แหล่งที่มา ในแหล่งปลูก วางจำหน่าย ตาม 2 ฟากฝั่งถนน แบบขายเกลือ
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) เปิดเผยถึงผลวิเคราะห์การประเมินภาวะเศรษฐกิจและสังคมเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 3.7 ล้านครัวเรือนพบว่า ครัวเรือนผู้ปลูกข้าวปี 2558/2559 นี้จะมีรายได้เฉลี่ย 1.2 แสนบาท ลดลงจาก 1.32 แสนบาท ในปีการผลิต 2557/2558 หรือลดลง 8.91% เพราะขาดแคลนน้ำ จนต้องงดหรือลดการทำนาทำให้ผลผลิตข้าวโดยรวมลดลง ชาวนาไทยก็ยังเป็นกลุ่มคนที่สังคมมองว่า ทนทุกข์ ลำบาก แบกหนี้สิน มีรายได้ต่ำ
จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ปลูกข้าว รวม 431,910 ไร่ คาดการณ์ผลผลิตที่จะได้รับ 269,312 ตัน ขณะนี้เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้วประมาณ 10% ผลผลิตที่ออกสู่ตลาดขณะนี้เป็นของอำเภอฝาง แม่อาย สันทราย สันกำแพง สันป่าตอง และแม่วาง ราคาที่เกษตรขายได้ (ราคา ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2559) ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว (ความชื้น 15%) 8,900- 9,100 บาท/ตัน ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว (ความชื้น 25-35%) ราคา 6,900-7,000 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว (ความชื้นต่ำกว่า 25%) ราคา 7,100- 7,200 บาทต่อตัน
คำสั่งล่าสุดให้ทุกหน่วยงาน ทุกจังหวัดระดมความร่วมมือบูรณาการ สกัดม็อบ? และเร่งหาทางช่วยเหลือชาวนาอย่างเต็มที่ เสร็จจากข้าว..ยังจะมีผลผลิตอะไรตามมาอีก…โปรดติดตาม

ร่วมแสดงความคิดเห็น