เชียงใหม่แถลงข่าวจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็ง น้อมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ ประจำปี 2559 ภายใต้แนวคิด แอ่วยี่เป็งเจียงใหม่ ปลอดประทัดยักษ์ ไร้แอลกอฮอล์ โดยในปีนี้ไม่มีขบวนกระทงเล็ก และขอความร่วมมือประชาชน แต่งกายสุภาพตามความเหมาะสม ขณะที่การจัดงานปีนี้ไม่กระทบการท่องเที่ยว คาดผู้เข้าร่วมงานประเพณีทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าใจรูปแบบการจัดงานประเพณีเพื่อให้เกิดความเหมาะสม และน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 6 พ.ย.59 ที่บริเวณภายในหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย พันเอก สืบสกุล บัวระวงค์ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่, นายบุญเสริม จิตเจนสุวรรณ ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่, นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่, นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน ”ประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ น้อมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ” ประจำปี 2559 (Chiang Mai Yee Peng Festival 2016) ภายใต้แนวคิด แอ่วยี่เป็งเจียงใหม่ ปลอดประทัดยักษ์ไร้แอลกอฮอล์ ซึ่งจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 พ.ย.59 เวลา 18.00 น. ณ ข่วงประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่
โดยทาง นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สวรรคตลงวันที่ 13 ต.ค.59 กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้ทุกหน่วยงานได้ทราบและถือปฏิบัติตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีในเรื่องของการพิจารณาหรือลดการแสดงความบันเทิงหรือการจัดแสดงงานรื่นเริงต่างๆ ตามสมควร และเทศบาลนครเชียงใหม่ได้ประกาศงดการจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็ง ประจำปี 2559 ลงวันที่ 14 ต.ค.59 ไปแล้วนั้น
ในการนี้จังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดประชุมคณะกรรมการการพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันศุกร์ที่ 21 ต.ค.59 และได้มีวาระพิจารณาเกี่ยวกับการจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็งจังหวัดเชียงใหม่ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ได้พิจารณาแล้วเห็นว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทยที่ได้กระทำสืบต่อกันมา จึงเห็นชอบและขอความร่วมมือให้เทศบาลเชียงใหม่ กำหนดจัดงานประเพณีเดือนยี่เป็ง เชียงใหม่ประจำปี 2559 ในระหว่างวันที่ 12-15 พ.ย.59 โดยยึดถือรูปแบบการดำเนินงานตามหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท 0307.6/ว18189 ลงวันที่ 16 ต.ค.59 เรื่องแนวทางการปฏิบัติต่อสถานบริการในช่วงมีงานพระราชพิธีพระบรมศพ
ทางด้าน นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมที่สำคัญในงานที่จะจัดขึ้น ประกอบด้วย กิจกรรม “ต๋ามผางปะตี๊ดส่องฟ้าฮักษาเมือง” ต๋ามผางปะตี๊ดเพื่อเป็นพุทธบูชา และความถวายอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกันจำนวน 49,999 อัน โดยเยาวชน ประชาชนของชุมชนในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 12 พ.ย.59 ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ และบริเวณรอบคูเมืองด้านใน และพิธีเปิดงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2559 วันอาทิตย์ที่ 13 พ.ย.59 ณ ข่วงประตูท่าแพ รวมถึงพิธีบวงสรวงศาลพระภูมิ, เจดีย์ขาว, ขอขมาแม่น้ำปิง ในวันจันทร์ที่ 14 พ.ย.59 ณ สำนักงานเทศบาลฯ และท่าน้ำศรีโขง
นอกจากนี้ยังมีการประกวดกระทงฝีมือใบตอง วันจันทร์ที่ 14 พ.ย.59 ณ สำนักงานเทศบาล การประกวดกระทงลอยน้ำประดับเมือง ในวันที่ 13-15 พ.ย.59 ณ บริเวณคูเมือง การประกวดขบวนแห่กระทงใหญ่ ในวันอังคารที่ 15 พ.ย.59 ณ ข่วงประตูท่าแพ-สำนักงานเทศบาล และการประดับตกแต่งเมือง วันที่ 13-15 พ.ย.59 และการจัดทำท่าแพสำหรับลอยกระทงบริเวณริมฝั่งแม่น้ำปิง จำนวนทั้งสิ้น 11 จุดด้วยกัน
ขณะที่ทางด้าน นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การจัดงานประเพณียี่เป็งถือเป็นงานยิ่งใหญ่อีกงานหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจเข้าร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก และจากการที่มีประกาศการยกเลิกงานออกมาก่อนหน้านี้นั้นก็ทำให้มีนักท่องเที่ยวรวมถึงผู้ประกอบการด้านทัวร์ต่างๆ ติดต่อสอบถามข้อมูลมายังสำนักงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประเพณีนี้เป็นเรื่องที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากให้ความสำคัญและให้ความสนใจอย่างมาก และจากการที่ในปีนี้จะมีการจัดรูปแบบการจัดงานประเพณีเพื่อให้เกิดความเหมาะสมนั้นก็คาดว่าไม่น่าจะเป็นอุปสรรคของภาพรวมของการจัดงานที่นักท่องเที่ยวจะเข้าร่วมแต่อย่างใด เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาร่วมงานครั้งนี้น่าจะทราบอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามจากการสำรวจภาพรวมของการท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ ในขณะนี้พบว่ายังคงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากตัวเลขยอดจองและเข้าพักของโรงแรมที่ขณะนี้มีมากเกิน 85% ซึ่งไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนนักท่องเที่ยวที่ให้ความสนใจมาท่องเที่ยวในพื้นที่ก็จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย, นักท่องเที่ยวจีน, ยุโรป, อเมริกา และ ญี่ปุ่น
ร่วมแสดงความคิดเห็น