https://youtu.be/xXvMSVnw928
เมื่อช่วงค่ำเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 7 พ.ย.59 ที่บริเวณข่วงประตูท่าแพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พล.ต.ต.พูนทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รรท.ผบช.ภ.5 ได้เป็นประธานในการปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเคลื่อนที่เร็ว ชุดสายตรวจฯ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำการออกตรวจความเรียบร้อยในพื้นที่ และเพื่อระดมกวาดล้างแก๊งวัยรุ่นและแก๊งไทใหญ่ ป้องปรามอาชญากรรม สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ภายหลังจากที่โลกโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะเฟซบุ๊คและไลน์ มีการเผยแพร่ข่าวกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ออกก่อเหตุทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ประชาชนในช่วงกลางดึก และได้มีการรวมกลุ่มตั้งเป็นแก๊งซามูไร ชื่อว่า แก๊งเคดำ (K Black) ซึ่งในการระดมกำลังในครั้งนี้ ได้มีการจัดชุดเจ้าหน้าที่ผสมประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รวมจำนวนทั้งสิ้น 120 นาย ออกลาดตระเวนตามจุดสำคัญต่างๆ ในพื้นที่เมืองเชียงใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อดูแลความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้
โดยทาง พล.ต.ต.พูนทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รรท.ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า เนื่องด้วยเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา ได้มีข่าวเรื่องการก่อกวนของกลุ่มแก๊งวันรุ่นที่ตั้งชื่อเรียกตัวเองว่า ซามูไรเคดำ โดยภายหลังจากที่ได้มีการเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบในพื้นที่เมืองเชียงใหม่ รวมไปถึงพื้นที่ปริมณฑล จนได้ข้อสรุปว่ากลุ่มวัยรุ่นต่างๆ จะออกมาตระเวนสร้างปัญหาในช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ไปจนถึงช่วงดึกเวลาประมาณ 02.00 น. ดังนั้นทางตนจึงได้มีการสั่งการให้มีการระดมกวาดล้าง ไล่ล่ากลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ในช่วงเวลาดังกล่าว และต่อเนื่องไปถึงเวลาประมาณ 03.00 น. เพื่อกดดันไม่ให้กลุ่มแก๊งเหล่านี้มาสร้างความเดือดร้อนรำคาญ หรือกระทำการผิดกฎหมายในพื้นที่
ขณะเดียวกัน สิ่งที่เกิดขึ้นและข่าวที่ได้มีการเผยแพร่ไปในโลกของโซเชียลมีเดียนั้นทางตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่ใหญ่โตมากนัก แต่อย่างไรก็ตามทางตนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องก็จะไม่ละเลย ในเมื่อประชาชนเกิดความไม่สบายใจก็จะต้องดูแลและสร้างความสบายใจ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยมากที่สุด
ขณะที่จากการติดตาม กลุ่มแก๊งไทใหญ่ที่ทำเสื้อทีมสีดำ สกรีนอักษร K Black ตามที่ปรากฏรูปอยู่ในเฟซบุ๊คนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่พบเบาะแสแต่อย่างใด รวมทั้ง ผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊คว่านายต้น แสนดี ที่เชื่อว่าเป็นหัวหน้าแก๊งไทใหญ่ดำดังกล่าว ก็ทราบว่าได้หลบหนีกลับประเทศด้านชายแดนไปก่อนหน้านี้แล้ว นอกจากนั้นจากการสอบปากคำและสืบสวนสอบสวนชาวบ้านในพื้นที่ อ.หางดง พบว่า บางคนก็ให้ข้อมูลว่าชาวไทใหญ่ไม่ได้ตั้งกลุ่มทำร้ายดังที่เป็นข่าวแต่กลับเป็นวัยรุ่นพื้นเมือง สร้างเรื่องกันขึ้นมาในเฟซบุ๊คเอง ขณะที่บางกลุ่มก็ไปก่อเหตุชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ แล้วโยนผิดกล่าวหาว่าเป็นแก๊งไทใหญ่ทำ แล้วมีการปลุกกระแสกันในสื่อออนไลน์ ตามความคึกคะนอง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้มีการติดตามสืบสวนสอบสวน ในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เรื่องราวบานปลายกลายเป็นความเกลียดชังกันระหว่างเผ่าพันธุ์ โดยส่วนตัวเชื่อว่าทุกชนชาติต่างก็มีทั้งคนดีและไม่ดี แต่สำหรับคนไทใหญ่นั้นตั้งใจเข้ามาอาศัยพื้นที่ทำมาหากิน คงไม่กล้าก่อเรื่องเย้ยกฎหมายมากนัก ซึ่งบางครั้งโลกโซเชียลนั้น ค่อนข้างอันตราย สามารถพบเจอข่าวลวง ข่าวหลอก โดยผู้ไม่ประสงค์ดีสร้างเรื่องขึ้นมาได้ง่ายดาย หากหลงเชื่อก็อาจจะบานปลายดังที่เกิดขึ้นดังกล่าว
ร่วมแสดงความคิดเห็น