ผลไม้ที่ควรปลูก เสาวรส และ อะโวกาโด

p-440p-441

วันนี้มารู้เรื่องของเสาวรสกันสักนิด ในบ้านปางมะโอและบ้านปางดง เสาวรสเป็นไม้ผลที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ ผลสีม่วงแดงจนถึงน้ำตาล เหมาะสำหรับใช้บริโภคสด เสาวรสมีประโยชน์มากเมื่อเรารู้จักทาน รู้จักนำมาใช้ แต่ก่อนที่จะนำไปบริโภคนั้นจะต้องผ่านกระบวนการบ่มให้มีความหวานที่สูงสุด การวิจัยครั้งนี้จะทำหลายวิธี ทั้งที่ไม่บ่ม บ่มในอุณหภูมิห้องปกติ บ่มด้วยสารละลายเอธีฟอน และแคลเซี่ยมคาร์ไบด์ โดยนำผลผลิตเสาวรสที่ปลูกในพื้นที่บ้านปางมะโอ บ้านห้วยเป้า บ้านปางแดงใน แต่ละพื้นที่มีระดับความสูงที่แตกต่างกัน โดยสรุปว่าวิธีการที่เหมาะสมในการจัดการผลเสาวรสหวาน ที่บ้านปางมะโอและบ้านปางแดงในคือ เก็บรักษาผลเสาวรสหวานที่อุณหภูมิห้องนาน 2-4 วัน ส่วนที่บ้านห้วยเป้าจะต้องบ่มผลเสาวรสหวานด้วยการใช้เอธีฟอน 6 มิลลิลิตรต่อน้ำ 1 ลิตร บ่มนาน 4 วัน ผลที่ได้คือผลเสาวรสที่มีคุณภาพ มีความหวานที่ตลาดต้องการ

p-224ตามด้วย อะโวกาโด อะโวกาโดเป็นไม้ผลทรงพุ่มขนาดกลาง มีอยู่หลายสายพันธุ์ ผู้คนก็ชอบนำมาทานกัน พร้อมกับนำมาปรุงแต่งเป็นเครื่องดื่มบ้าง เป็นสมุนไพรฝอกหน้าบ้าง แล้วแต่จะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งแต่พันธุ์ที่นิยมส่งเสริมให้เกษตรกรบนพื้นที่สูงปลูกได้แก่ พันธุ์แฮส เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ จึงได้ทดลองที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้ฉีดพ่นสารควบคุมการเจริญเติบโตของอะโวกาโด จากการทดลองพบว่าการพ่นด้วยบราสซิน ทำให้ความกว้างของผล น้ำหนักเมล็ด ความหนาของเนื้อสูงที่สุด หากพ่นด้วยสารจิบเบอเรลลิน ทำให้มีเนื้อสูงสุด นอกจากนี้การพ่นด้วยแม็กซ์ซิมทำให้น้ำหนักผลมากถึง 152.79 กรัม ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าวิธีอื่น
ท่านที่สนใจผลงานวิจัยอื่น ๆ เกษตรกรท่านใดสนใจจะปลูกเสาวรสและอะโวกาโด ก็สามารถติดต่อมาทาง มูลนิธิโครงการหลวงและสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-5332-8496-8 หรือ www.hrdi.or.thp-227

ท.ลุงเกษตร

[email protected]

ร่วมแสดงความคิดเห็น