ตำรวจเชียงใหม่ กวาดล้างอย่างหนัก ร้านค้าขายประทัดและดอกไม้เพลิงที่ไม่ได้รับอนุญาต

ตำรวจเชียงใหม่ กวาดล้างอย่างหนัก ร้านค้าขายประทัดและดอกไม้เพลิงที่ไม่ได้รับอนุญาต ล่าสุดรวบผู้ต้องหาได้ 2 ราย พร้อมของกลาง นำส่งดำเนินคดี พร้อมเน้นย้ำเอาจริงกับผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย หากพบเจอโดนจับปรับหนัก ด้านตำรวจภาค 5 วางมาตรการสั่งจับกุมผู้ลักลอบการปล่อยโคมลอย จุดประทัดยักษ์ ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 14 พ.ย.59 โดยการอำนวยการ/สั่งการของ พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ ศรีทองสุข ผกก.สภ.หาดง , ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.อรรณพ ชัยชาญ รอง ผกก(ป.) , พ.ต.ท.ภัทรพล เที่ยงชัย สวป. นำกำลังออกตรวจร้านจำหน่ายดอกไม้ไฟ , ปะทัดยักษ์ และประชาสัมพันธ์ ห้ามจำหน่ายและห้ามจุดดอกไม้ไฟ , ประทัดยักษ์ ช่วงเทศกาลลอยกระทง ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา โดยผลการปฏิบัติการลงพื้นที่ตรวจสอบ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมตัว นายรุ่งเพชร ปัญญา อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78/1 หมู่ที่ 2 ต.สบแม่ข่า อ.หางดง จ.เชียงใหม โดยกล่าวหาว่า “ผลิดซึ่งดอกไม้เพลิง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ซึ่งเป็นความผิดตาม พรบ.อาวุธปืน เครืีองกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 47 มีโทษตามมาตรา 77 และส่งเสียง ทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความเอื้ออึง โดยไมมีเหตุอันสมควร จนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน ตาม ป.อาญา ม.370”
ขระเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ร่วมกันทำการตรวจยึดของกลาง ซึ่งประกอบด้วย ประทัดผลิตเอง จำนวน 2 ลูก , เทปพันสายไฟสีดำ จำนวน 2 ม้วน , ดินปืน จำนวน 1 ถุง , สายชนวน จำนวน 2 เส้น , พลาสติกรูปไข่ จำนวน 6 อัน , พลาสติกรูปทรงกระบอก จำนวน 5 อัน และ กรรไกร จำนวน 1 เล่ม โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณภายในวัดศรีวารีสถาน หมู่ที่ 2 ต.สบแม่ข่า อ.หางดง จ.เชียงใหม่ พร้อมทั้งนำตัวมาทำการสอบสวน
ทั้งนี้การจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้สืบเนื่องจาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการออกตรวจพื้นที่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ที่ให้เข้มงวดกับร้านที่มีการจำหน่ายประทัด และดอกไม้เพลิง ในช่วงเทศกาลยี่เป็งเมืองเชียงใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการจำหน่ายประทัดยักษ์ และดอกไม้เพลิงที่ผิดกฎหมาย ภายใต้มาตรการที่กำหนด ซึ่งระหว่างที่นำกำลังไปตรวจสอบบริเวณภายในวัดศรีวารีสถาน หมู่ที่ 2 ต.สบแม่ข่า อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ก็พบ นายรุ่งเพชร ปัญญา ผู้ต้องหา กำลังนั่งประดิษฐ์ประทัดอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจสอบเอกสารหลักฐานและใบอนุญาต แต่ทางเจ้าตัวก็ปฏิเสธไม่ไม่มีหลักฐานมาแสดง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมตัว และส่งตัวให้กับทางพนักงานสอบสวน สภ.หางดง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
และอีกรายในวันเดียวกันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ โดยการอำนวยการสั่งการของ พตอ.ชำนาญ ถนัดหนังสือ ผกก.สภ.ไชยปราการได้นำกำลังออกตรวจจสอบการลักลอบจำหน่ายประทัด ดอกไม้เพลิง และโคมลอย (โคมไฟ) ในพื้นที่เขตรับผิดชอบ และได้ร่วมกันจับกุมตัว นางจันทร์เพ็ญ กาวี อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 236 หมู่ 5 ต.หนองบัว อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลาง ประทัดจำนวน 13 กล่อง , ดอกไม้เพลิงชนิดต่างๆ จำนวน 18 ห่อ ขณะผู้ต้องหากำลังตั้งร้านจำหน่าย และเมื่อขอตรวจสอบเอกสารการอนุญาตจำหน่ายดอกไม้เพลิง ก็พบว่าไม่มีใบอนุญาตในการจำหน่าย จึงได้ยึดของกลางและจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไชยปราการ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะเดียวกัน ทางด้าน พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ รรท.รอง ผบช.ภาค 5 เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรภาค 5 ได้รับนโยบายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ดำเนินการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติดในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ และการดูแลรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในช่วงเทศการงานประเพณีลอยกระทง หรือยี่เป็ง ระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย.59 โดยตำรวจภูธรภาค 5 ได้สั่งการให้ตำรวจในสังกัดออกไปดูแลเรื่องความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวตามสถานที่ที่จัดให้มีการจัดงานประเพณีลอยกระทง เน้นตำรวจดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวเป็นหลัก มีการประสานหน่วยงานที่อยู่ในพื้นที่ ทั้งการไฟฟ้า เทศบาล ดูแลเรื่องแสงสว่าง การจุดเทียน เล่นไฟ
โดยในปีนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 5 ได้สั่งการให้มีการออกสืบสวนจับกุมผู้ลักลอบปล่อยโคมไฟ โคมลอย และการจุดประทัดยักษ์ ส่งเสียงดัง หากพบก็จะดำเนินการจับกุมทันที ซึ่งในปีนี้มีการสั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้มีการปล่อยโคมไฟ โคมลอย การจำหน่าย พลุ ดอกไม้ไฟ หากพบตัวผู้กระทำผิดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมาย จึงขอเตือนประชน นักท่องเที่ยวอย่าฝืนกฎหมาย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รรท.รอง ผบช.ภ.5 เปิดเผยต่อว่า ขณะนี้ได้กำชับไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตเมืองที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มีการกวดขันการลักลอบปล่อยโคมลอย โคมไฟ การจุดประทัดยักษ์ ตามแหล่งชุมชน สถานประกอบการ บาร์เบียร์ สถานประกอบการที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมาก ห้ามเด็ดขาด โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งการใช้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เชื่อว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น รวมถึงการห้ามปล่อยโคมลอย โคมไฟด้วย ในส่วนเรื่องของแก๊งค์วัยรุ่นชามูไร ไทใหญ่ที่มีกระแสข่าวออกไล่ทำร้ายประชาชน นักท่องเที่ยวนั้นไม่เป็นความจริง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบทางเฟสบุ๊ค ทางไลน์ยังไม่พบหลักฐานว่ามีผู้กระทำผิดกฎหมายและกลุ่มดังกล่าวได้ลบเฟสบู๊ค ลบไลน์ ไปหมดแล้ว แต่ก็ได้มีการตรวจสอบไม่พบกลุ่มวัยรุ่นไทใหญ่ออกอาระวาดตามที่เป็นข่าวแต่อย่างไร หากพบเบาะแสก็ให้แจ้งไปยังศูนย์วิทยุ 191 ได้ หรือแจ้งไปยังไลน์ @ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ทันที