ยี่เป็งปีนี้เรียบง่าย ไร้เสียง “ประทัด” แต่คึกคัก

เนืองแน่น.....ภาพบรรยากาศงานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก นำกระทงมาลอยที่บริเวณสองฟากฝั่งริมน้ำปิง ด้านหน้าอาคารเทศบาลนครเชียงใหม่ กันอย่างคึกคัก ซึ่งไร้ด้วยเสียงประทัด
เนืองแน่น…..ภาพบรรยากาศงานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก นำกระทงมาลอยที่บริเวณสองฟากฝั่งริมน้ำปิง ด้านหน้าอาคารเทศบาลนครเชียงใหม่ กันอย่างคึกคัก ซึ่งไร้ด้วยเสียงประทัด

ยี่เป็งเชียงใหม่วันแรกคึกคัก ประชาชนและนักท่องเที่ยวแห่ร่วมงาน อย่างสงบ ไร้เสียงประทัด ร่วมลอยกระทงใต้แสงจันทร์ จุดเทียนส่องสว่างสองริมแม่น้ำปิง แม้ปีนี้ทางเทศบาลนครเชียงใหม่จะงดการแสดงขบวนแห่กระทงเล็ก ขณะนี้การปล่อยโคมลอยปีนี้ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานเกี่ยวข้องคอยดูแลรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกกับผู้เข้าร่วมงานอย่างใกล้ชิด ด้านธุดงคสถานล้านนาจัดกิจกรรมปล่อยโคมสวยงามอลังการส่องสว่างเต็มท้องฟ้า ประชาชนนักท่องเที่ยวนับหมื่นแห่เข้าร่วม เช่นเดียวกับอีกหลายจังหวัดในภาคเหนือตอนบน

ช่วงค่ำคืนวันที่ 14 พ.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการจัดประเพณีเดือนยี่เป็ง ในวันนี้ยังเป็นไปอย่างคึกคัก โดยภายในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังคงมีประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางออกมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมากตามจุดต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะสวมชุด แต่งกายด้วยโทนสีขาวดำ เพื่อเป็นการแสดงความไว้อาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ประกอบกับในปีนี้ทางจังหวัดเชียงใหม่ ยังได้จัดประเพณียี่เป็งปีนี้ภายใต้ชื่องาน “ประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ” ที่ได้มีการขอความร่วมมือประชานและนักท่องเที่ยว รวมถึงผู้เข้าร่วมงานให้จัดงานด้วยความเรียบร้อย และงดการจัดดนตรีและการแสดงรื่นเริงต่างๆ รวมไปถึงการจุดพลุ ดอกไม้ไฟ และประทัด ที่ก่อให้เกิดอันตรายและส่งเสียงดัง โดยถือปฏิบัติตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีในเรื่องของการพิจารณาหรือลดการแสดงความบันเทิงหรือการจัดแสดงงานรื่นเริงต่างๆ ตามสมควร และจากการสำรวจพบว่า การจัดงานประเพณียี่เป็งในวันนี้ ประชาชนทุกคน และนักท่องเที่ยวก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของการปฏิบัติตามที่จังหวัดได้ขอความร่วมมือ รวมไปถึงการเข้าร่วมประเพณี ที่พบว่าในปีนี้นั้นแทบจะไม่มีเสียงประทัด ขณะที่การปล่อยโคมลอยนั้นยังมีบ้าง แต่ก็ลดน้อยลงมากเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ที่บริเวณสองฝั่งริมแม่น้ำปิง ด้านหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ พบว่ามีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางนำกระทงมาลอยกันที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งกระทงส่วนใหญ่ก็ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ และขนมปัง ที่สามารถย่อยสลายและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม โดยทุกคนต่างพร้อมใจจุดเทียนส่องแสงสว่างไสว พร้อมทั้งร่วมอธิฐาน ก่อนจะปล่อยกระทงลงสู่ลำน้ำให้ลอยทุกข์โศก เคราะห์ร้าย เพทภัย ไปกับลำน้ำ อีกทั้งถือเป็นการขอขมากับเจ้าแม่คงคา อีกด้วย โดยบรรยากาศในปีนี้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยกว่าทุกปี เนื่องจากปีที่ผ่านๆ มานั้นที่บริเวณดังกล่าวจะมีการปิดถนนเพื่อแห่ขบวนกระทงเล็ก แต่ในปีนี้ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้มีการยกเลิกไปเพื่อให้เกิดความเหมาะสมในช่วงของการถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยทางประชาชนทุกคนต่างก็พร้อมใจกันแสดงความรักและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นอกจากนี้ทางจังหวัดก็ได้มีการตกแต่งเมืองตามจุดสำคัญต่างๆ ด้วยการประดับประดาด้วยโคมไฟและซุ้มประตูป่า รวมถึงมีการจุดผางประตี๊ด ที่สองแสงสว่างไสว แทนการปล่อยโคมลอยอีกด้วย

อย่างไรก็ตามทางด้านการรักษาความปลอดภัยในช่วงวันลอยกระทงนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้มีการจัดชุดเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิดทั้งทาง ด้านการจราจรท้องถนนรอบตัวเมืองเชียงใหม่ และโดยรอบคูเมือง ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่จะเดินทางมาเที่ยวชมงานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ อย่างหนาแน่นรวมไปถึงบริเวณสองฝั่งแม่น้ำปิง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจราจรแออัด นอกจากนั้นในเรื่องการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวได้มีการประสานทุกหน่วยงานจัดเจ้าหน้าที่ลงตามจุดต่างๆ เพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรม ปัญหาไฟไหม้ ปัญหาการจุดประทัดและโยนใส่ประชาชน ทำให้เกิดการบาดเจ็บซึ่งนอกจากจะมีเจ้าหน้าที่ประจำสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งรอบตัวเมืองเชียงใหม่แล้วเราจะยังมีการตั้งจุดตรวจเพื่อตรวจสอบจับกุมผู้กระทำผิดด้านการจราจร การดื่มสุรา ขณะขับขี่ และการตรวจตราอาวุธประทัดยักษ์ เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมให้ลดลง ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนเกิดความอุ่นใจ ทั้งในด้านชีวิตและทรัพย์สิน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในวันเดียวกันนี้ ที่ธุดงคสถานล้านนา อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ก็ได้มีการจัดกิจกรรมปล่อยโคมไฟลอยขึ้นเนื่องในประเพณีลอยกระทงหรือยี่เป็งของจังหวัดเชียงใหม่ โดยในวันนี้เป็นรอบพิเศษของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหรือกรุ๊ปทัวร์ที่มีใบอนุญาตเท่านั้น โดยประเพณีเริ่มที่กิจกรรมของพระสงฆ์สวดมนต์ไหว้พระโดยมีล่ามแปลภาษาทั้งอังกฤษ จีน และญี่ปุ่นให้นักท่องเที่ยวได้ทราบกิจกรรมทั้งหมด จากนั้น ร่วมกันเวียนเทียนและร่วมกันปล่อยโคมลอยจำนวนมากลอยขึ้นสู่ฟ้าพร้อมกัน สว่างไสวสวยงามอย่างมาก โดยมีนักท่องเที่ยวต่างเก็บภาพความประทับใจและการปล่อยโคมดังกล่าวด้วยเพื่อเผยแพร่ในที่ต่างๆ โดยทางจุดดังกล่าวเป็นจุดที่ขออนุญาตการปล่อยโคมไฟ 1 ใน 7 จุดที่ได้รับการอนุญาตในเขตจังหวัดเชียงใหม่ โดยการปล่อยโคม

การลอยโคมของชาวล้านนาเป็นการปล่อยโคมขึ้นไปสู่ท้องฟ้า แทนการลอยกระทงในลำน้ำอย่างประเพณีของคนภาคกลาง ชาวล้านนาเชื่อว่าการจุดโคมลอย แล้วปล่อยขึ้นฟ้า เป็นการบูชาพระเกตุแก้วจุฬามณี บนสวรรค์ และยังเป็นการปล่อยทุกข์ปล่อยโศก และเรื่องร้าย ให้ออกไปจากตัว ชาวล้านนาเชื่อกันว่า ในวันประเพณียี่เป็ง ชาวล้านนาที่เกิดปีจอต้องนมัสการพระธาตุแก้วจุฬามณีซึ่งเป็นสถานที่บรรจุมวยผมของเจ้าชายสิทธัตถะที่ปลงออกก่อนจะบวช แต่เนื่องจากเจดีย์นี้เชื่อกันว่าอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ชาวล้านนาที่เกิดปีจอจึงต้องอาศัยโคมลอยปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้าแทนเครื่องบูชาพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี ตัวโคมทำจากกระดาษสาสีสันสวยงาม ติดบนโครงไม้ไผ่ ตรงกลางโคมจะมีตะเกียงติดชนวนสำหรับจุดไฟ เมื่อจุดไฟที่ตะเกียง ความร้อนจะดันพาโคมลอยให้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า

ทาง จ.ลำพูน ที่สะพานท่านาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน บรรยากาศการจัดงานเทศกาลยี่เป็งประจำปี 2559 หรือประเพณีลอยกระทงบรรยากาศโดยทั่วไปของจังหวัดลำพูนเป็นไปด้วยความราบรื่นไม่คึกคักเนื่องจากไม่มีเครื่องเสียงให้เปิดเพลง อีกทั้งห้ามมีการปล่อยโคมลอย และจุดพลุจึงทำให้บรรยากาศเงียบเหงา

ส่วนบรรยากาศการขายกระทงยังคงมีการวางจำหน่ายทั่วไปโดยกระทงตกอยู่ที่ราคาอันละ 20-40 บาท มีกลุ่มหนุ่มสาวพากันออกมาซื้อกระทงเพื่อปล่อยลงสู่ลำน้ำกวง ขณะที่กิจกรรมบนเวทีมีการร้องเพลงเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพียงอย่างเดียวไม่มีกิจกรรมอื่นๆ จึงทำให้เงียบเหงา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหารได้มีประชาชนพากันไปกราบไหว้สักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิตในวันเทศกาลลอยกระทงขณะที่ทางวัดได้จัดให้มีการขายโคมเพื่อให้พุทธศาสนิกชนบูชาไปแขวนไว้ในวิหารและข้างวิหารเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิตหนุ่มสาวพากันซื้อไปแขวนเพื่อทำบุญในวันลอยกระทงส่วนบรรยากาศโดยรวมของจังหวัดลำพูน ไม่คึกคักเมืองมืดสนิทไร้แสงไฟทั้งนี้เนื่องจากประชาชนยังอยู่ในช่วงระหว่างโศกเศร้าที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสวรรคต

ที่ จ.น่าน เมื่อค่ำคืนวันที่ 14 พ.ย.ประชาชนชาวน่านและนักท่องเที่ยว ต่างพาลูกหลาน และครอบครัว ซึ่งยังคงสวมใส่เสื้อผ้าสีไว้ทุกข์ แสดงความอาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยกระทงที่นำมาลอย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกระทงที่ย่อยสลายได้ง่าย ทำจากขนมปัง กรวยไอครีม ใบตอง ดอกไม้สด เทียนหอม กระดาษ โดยไม่เป็นพิษต่อแม่น้ำลำธารและสิ่งแวดล้อม นำมาลอยที่บริเวณริมน้ำน่าน เชิงสะพานพัฒนาภาคเหนือ ตามประเพณีที่มีมาแต่โบราณ โดยมีบรรยากาศแบบเรียบง่าย ปราศจากเสียงอึกกระทึกคึกโครมของประทัดและเสียงดนตรี เนื่องจากอยู่ในช่วงแสดงความอาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นการลอยเคราะห์ ลอยโศกโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ให้ไหลไปกับสายน้ำ อีกทั้งยังเป็นการร่วมกันขอขมาต่อพระแม่คงคา เนื่องจากตลอดปีที่ผ่านมา ประชาชนต่างได้อาศัยและใช้น้ำในการอุปโภคบริโภค ทิ้งของสกปรกลงสู่แม่น้ำลำธาร ทั้งที่ตั้งใจและมิได้ตั้งใจ เป็นประเพณีตามความเชื่อที่ได้กระทำสืบต่อกันมาแต่โบราณ พร้อมทั้งขอพรและสิ่งมงคลต่อตนเองและครอบครัวให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข
สำหรับปีนี้ ทางเทศบาลเมืองน่าน ร่วมกับ สภาวัฒนธรรมเทศบาลเมืองน่าน เครือข่ายองค์กร งดเหล้าและ สสส. ได้นำป้ายขนาดใหญ่ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ประเพณีลอยกระทงจังหวัดน่าน เพื่อแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาติดตั้งไว้ภายในบริเวณงาน และสร้างบรรยากาศการลอยกระทงแบบเรียบง่ายต่างจากปีที่ผ่านๆ มา ปีนี้ได้มีการจุดเทียน บริเวณลานปูนในบริเวณงาน มีสัญลักษณ์เป็นรูปเลขเก้าภายในหัวใจดวงใหญ่ ให้สว่างไสวไปทั่วบริเวณงานด้วย ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ที่ จ.ลำปาง ในช่วงค่ำของคืนเดียวกัน ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำวัง ท่าน้ำสิงห์ชัย อำเภอเมืองลำปาง นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานในการจัดงานประเพณีล่องสะเปาจาวละกอน ประจำปี 2559 ซึ่งในปีนี้ได้งดเว้นการจัดกิจกรรมบันเทิง งานรื่นเริงต่างๆ เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ในช่วงพระราชพิธีพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยจัดเพียงการประกวดสะเปาลอยน้ำตามประเพณี มีหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ส่งสะเปาลอยน้ำเข้าร่วมการประกวดจำนวน 15 สะเปา ผลปรากฏว่าสะเปาลอยน้ำที่ชนะเลิศการประกวดในครั้งนี้ ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะ, รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เป็นประธานนำหัวหน้าส่วนราชการ และพสกนิกรชาวจังหวัดลำปาง ในบริเวณพื้นที่การจัดงานฯ ทั้ง 2 ริมฝั่งแม่น้ำวัง ท่าน้ำบ้านสิงห์ชัย ร่วมกันจุดเทียนแสดงความอาลัย และกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า

ด้าน จ.พะเยา บรรยากาศการลอยกระทงที่บริเวณริมกว๊านพะเยา ช่วงค่ำ ได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ตลอดจนประชาชนชาวพะเยาต่างเดินทางมาลอยกระทงกันเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าทางจังหวัดพะเยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้มีการจัดงานประเพณีเหมือนเช่นทุกปี เนื่องจากอยู่ในช่วงของการแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แต่ก็มีผู้คนเดินทางมาลอยกระทงกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่บริเวณรูปปั้นพญานาคหน้าอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง

นอกจากนี้ทางเทศบาลเมืองพะเยา ได้มีการจัดแสดงน้ำพลุดนตรีเพลงพระราชนิพนธ์ บริเวณหน้าสวนสมเด็จย่ากลางกว๊านพะเยา โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจมาชมกันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อน้อมรำลึกและแสดงความอาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

อย่างไรก็ตาม ได้มีประชาชนจำนวนมากต่างเตรียมกล้องถ่ายรูปอัตราขยายสูง และกล้องจากมือถือมาถ่ายรูปปรากฏการซุปเปอร์ฟูลมูน หรือดวงจันทร์เต็มดวง ที่โคจรเข้าใกล้โลกมากที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยเฉพาะที่บริเวณหน้าลานหน้าอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าทางทิศตะวันออกอย่างชัดเจน ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ต่างกล่าวรู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสเห็นพระจันทร์ใกล้ๆ และสวยงามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในคืนวันลอยกระทงปีนี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น