บรรยากาศการจัดงานยี่เป็งวันสุดท้ายคึกคัก ประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมชมขบวนแห่เนืองแน่น โดยปีนี้มหา วิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ เอาชนะใจคณะกรรมการคว้าแชมป์ประกวดขบวนกระทง ด้วยการตกแต่งอย่างสวยงามอลังการ ภายใต้แนวคิด ภายใต้หัวข้อ ”น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” รับถ้วยรางวัลชนะเลิศของนายกรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศงานในวันสุดท้ายประชาชนและนักท่องเที่ยว ต่างร่วมทำกิจกรรมอย่างสงบเงียบ ไร้เสียงประทัด และความวุ่นวาย
ช่วงค่ำวันที่ 15 พ.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการจัดงานประเพณีลอยกระทงหรือยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2559 ภายใต้ชื่องาน “ประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ” ภายหลังจากที่มีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 13 พ.ย.59 ที่ผ่านมา และเมื่อวานนี้ซึ่งเป็นวันที่ประชาชนและนักท่องเที่ยว พากันออกมาลอยกระทงกันอย่างหนาแน่ทั้งริมสองฟากฝั่งแม่น้ำปิง หรือที่เรียกกันว่าวันกระทงเล็กนั้น พบว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีขบวนกระทงเล็ก แต่ในปีนี้ทางเทศบาลได้ขอยกเลิกการจัดขบวน เพื่อความเหมาะสม ในช่วงของการแสดงความไว้อาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตามที่ได้มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีในเรื่องของการพิจารณา หรือลดการแสดงความบันเทิงหรือการจัดแสดงงานรื่นเริงต่างๆ ตามสมควร
สำหรับบรรยากาศในวันที่สอง หรือที่เรียกกันว่าวันกระทงใหญ่นั้น พบว่ายังคงคึกคักและมีประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศให้ความสนใจออกมา ชื่นชมความงามของการจัดงาน และร่วมลอยกระทงกันอย่างเนืองแน่น โดยในปีนี้จะสังเกตุได้ว่าประชาชนหันมา จุดผางประทีปแทนการเล่นประทัด พลุ และดอกไม้ไฟ อีกทั้งงดการปล่อยโคมลอย ซึ่งเป็นนโยบายที่ทาง จ.เชียงใหม่ ได้ขอความร่วมมือและทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีตลอดช่วงการจัดงาน
ขณะที่กิจกรรมไฮไลท์เด่นของวันนี้คือการจัดขบวนแห่กระทงใหญ่ ที่มีการจัดแข่งขันขึ้นเหมือนเช่นทุกปี โดยในปีนี้เป็นการประกวดเพื่อชิงถ้วยรางวัลของนายกรัฐมนตรี และมีการตัดสินให้คะแนนกันที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งในปีนี้มีขบวนกระทงใหญ่จากหน่วยงาน องค์กรภาครัฐ-เอกชน ที่เข้าร่วมประกวดรวมจำนวนทั้งสิ้น 19 ขบวน โดยได้มีการตั้งขบวนแห่ยาวตั้งแต่ บริเวณด้านหน้าประตูท่าแพยาวมาตามทางคูเมือง ตั้งแต่ช่วงเย็น ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปตามเส้นทางมาสิ้นสุดที่ด้านหน้าเทศบาล ซึ่งมี ผวจ.เชียงใหม่ กงสุลประเทศต่าง ๆ ตัวแทนองค์กรทั้งภาครัฐ-เอกชน และนักท่องเที่ยวร่วมชมขบวนอย่างเนืองแน่น
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าสำหรับบรรยากาศการประกวดแข่งขันขบวนแห่กระทงใหญ่ของปีนี้นั้น เป็นไปอย่างคึกคักแม้ การจัดงานนั้นได้มีการงดเปิดเพลงหรือกิจกรรมรื่นเริ่ง แต่ผู้เข้าร่วมประกวด และขบวนที่ส่งเข้าแข่งขันก็ได้มีการตกแต่งได้อย่างสวยงาม และเกิดความเหมาะสม ตามที่ได้มีการประกาศขอความร่วมมือ ภายใต้หัวข้อ ”น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” โดยเน้นการตกแต่งสีสันและริ้วขบวน กำหนดให้ใช้สีได้เฉพาะ 5 สี คือ สีดำ สีขาวนวล สีน้ำตาลไหม้ สีน้ำเงินเข้ม และ สีเงิน ขณะเดียวกันกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ก็ได้ให้ความสนใจมาเฝ้ารอชมความสวยงามของขบวนแห่กระทงใหญ่อย่างเนืองแน่น ตลอดเส้นทางที่ขบวนเคลื่อนผ่าน
สำหรับผลการประกวดผลการประกวดขบวนกระทงใหญ่ปีนี้ ได้มีการแบ่งผลการตัดสินออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 ได้แก่ หน่วยงานราชการ องค์การ สมาคม สโมสร ห้างร้าน บริษัท โรงแรม ธนาคาร วิทยาลัย และมหาวิทยาลัย ส่วนกลุ่มที่ 2 ได้แก่ โรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนเอกชน โรงเรียนเทศบาล กลุ่มหนุ่มสาว กลุ่มลูกเสือชาวบ้าน ชุมชนหัววัด และหน่วยงานที่ไม่ระบุในกลุ่มที่ 1
โดยผลการประกวดรางวัลชนะเลิศในกลุ่มที่ 1 นั้น ปรากฎว่า ขบวนกระทงของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ซึ่งเป็นขบวนที่ 9 คว้ารางวัลชนะเลิศ รับถ้วยรางวัลนายกรัฐมนตรี และเงินรางวัล 70,000 บาท โดยขบวนกระทงนั้นตกแต่งภายได้อย่างสวยงามแสดงถึงความไว้อาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อีกทั้งยังแสดงออกถึงความจงรักภักดีและปณิธานศรัทธาที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งความเป็นไทยที่มีชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์เป็นหลักอันมั่นคงของปวงชนไทยทั้งหลาย ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 คือ ขบวนกระทงที่ 14 ซึ่งเป็นของสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 คือ ขบวนกระทงที่ 12 ของห้างเทสโก้โลตัส เชียงใหม่
ส่วนการประกวดในกลุ่มที่ 2 รางวัลชนะเลิศได้แก่ ขบวนกระทงของกลุ่มอนุรักษ์วัฒนธรรมราชาวดี ซึ่งเป็นขบวนที่ 17 รับถ้วยรางวัลนายกรัฐมนตรี และเงินรางวัล 60,000 บาท ส่วน รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 คือ ขบวนกระทงที่ 15 จากวัดพยากดอนแก้วโพธิ์ญาณ และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 คือ ขบวนกระทงที่ 16 จากชมรมบัณฑิต ม.สุโขทัยธรรมาธิราช จ.เชียงใหม่
ร่วมแสดงความคิดเห็น