จัดเวทีแลกเปลี่ยนคุ้มครองผู้บริโภค สื่อไทย- สปป.ลาวก้าวแรกสู่อาเซียน

b-4กสทช. จัดเวทีแลกเปลี่ยน เรียนรู้ การคุ้มครองผู้บริโภคสื่อไทย- สปป.ลาว แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน หาแนวทางที่ชัดเจนเพื่อใช้เป็นแนวทางต้นแบบในการขยายผลให้เกิดขึ้นในภูมิภาคอาเซียน

ที่ห้องประชุมโรงแรมน่านตรึงใจ จังหวัดน่าน สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยสำนักคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์และ สำนักงาน กสทช.ภาค3 ลำปาง จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การคุ้มครองผู้บริโภคสื่อ ไทย – สปป.ลาว ก้ารแรกสู่งานคุ้มครองผู้บริโภคสื่อในอาเซียน โดยมี ผศ.ดร.ภักดี มานะเวศ รองเลขาธิการ กสทช. เป็นประธาน ในการเปิดเวทีและเปลี่ยนความรู้การเข้าสู่ยุดในการหลอมรวมเปรียบเสมือนการมีหน้าต่างบานใหญ่ที่สมารถเปิดโอกาส ให้ผู่บริโภคได้รับข้อมูลข่าวสาร ผ่านสื่อหลากหลากรูปแบบ โดยมีหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งในปัจจุบันมีสื่อเกิดขึ้นหลากหลายทั้งสื่อสังคมออนไลน์ สื่ออินเตอร์เน็ท สื่อวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ส่งผลให้เราสามารถตอบโต้ เชื่อมต่อกันได้อย่างรวดเร็วและไร้พรมแดน ทำให้สามารถรับชมรายการโทร?ศน์และรับฟังรายการวิทยุร่วมกันได้ แต่สิ่งที่เข้ามากับสื่อเหล่านี้อาจมีทั้งประโยชน์และโทษต่อผู้บริโภค โดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

สิ่งสำคัญคือการสร้างภูมิคุ้มกัน สร้างการรู้เท่าทันในการรับและการส่งสื่อในยุคที่มีการหลอมรวมข้ามพรมแดนอย่างทุกวันนี้ กสทช.จึงได้ดำเนินการเปิดเวทีผู้แทนเครือข่ายผู้บริโภคสื่อทั้งจากประเทศไทยและ สปป.ลาว มีเข้าร่วมเวทีในครั้งนี้กว่า 150 คน การจัดเวทีแลกเปลี่ยน เรียนรู้ การคุ้มครองผู้บริโภคสื่อไทย- สปป.ลาว ก้าวแรกสู่อาเซียน ในครั้งนี้ขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้ในสิทธิของผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน และเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านเวทีเสวนาซึ่งได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจาก สปป.ลาว และไทย มาร่วมแลกเปลี่ยนให้ความรู้ในประเด็นต่างๆ อาทิ ภาครัฐกับแนวคิดการคุ้มครองผู้บริโภคสื่อวิทยุ-โทรทัศน์ สื่อกับความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค เป็นต้น ทั้งยังเป็นการร่วมมือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระดับทวิภาคีระหว่าง สปป.ลาว และไทย เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการคุ้มครองผู้บริโภค และหาแนวทางที่ชัดเจนเพื่อใช้เป็นแนวทางต้นแบบในการขยายผลให้เกิดขึ้นในภูมิภาคอาเซียนต่อไปได้ ซึ่งนับเป็นก้าวแรกที่จะขยายผลงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในระดับอาเซียนต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น