ช่วงบ่ายเวลา 14.30 น.วันที่ 18 พ.ย.59 ที่ศูนย์ปฏิบัติการของกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว พ.ต.ต. ศุภกร ตังคะประเสริฐ สารวัตรงานสืบสวน กก.4 บก.ทท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นายมงคล อรุณโชติ อายุ 47 ปี ที่อยู่ 73 ม.1 ต.พังกาญจน์ อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมทั้งแจ้งข้อหากระทำผิดฐาน “เอาไปซึ่งเอกสารของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ผู้อื่นหรือประชาชน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในที่จอดรถสาธารณะหรือในยวดยานสาธารณะ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อประ โยชน์ในการชำระ ค่าสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่น แทนการชำระด้วยเงินสดหรือใช้เบิกถอนเงินสด ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ บริเวณจุดพักรถโดยสารในพืนที่ตัวเมืองเชียงใหม่
ทั้งนี้ทาง พ.ต.ต.ศุภกร ตังคะประเสริฐ เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 17 ก.ย.59 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน กก.4 บก.ทท. ได้รับแจ้งจาก นายซุง คว็อน (Seung Kwon) อายุ 31 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ซึ่งได้เดินทางมาท่องเที่ยวที่ จ.เชียงใหม่ว่า ได้ถูกคนร้ายขโมยบัตร ATM นำไปกดเงินออกจากบัญชี 3-4 ครั้ง ยอดเงินรวม ประมาณ 30,000 บาทเศษ และอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี
ซึ่งเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งแล้ว ก็ได้เริ่มดำเนินการสืบสวนเบาะแสจนกระทั่งทราบว่า คนร้ายนั้นได้กดเงินของผู้เสียหายที่บริเวณภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.ภายในพื้นที่ อ.เถิน จ.ลำปาง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้อำนวยความสะดวกกับทางนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีคนดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้เสียหาย โดยการพาตัวไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เถิน หลังจากนั้นก็ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.4 บก.ทท. สืบหาข้อมูลของคนร้ายจากภาพกล้องวงจรปิดของตู้ ATM รวมถึงข้อมูลการเดินทางของรถที่นักท่องเที่ยวโดยสารมา
กระทั่งในที่สุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทราบเบาะแสว่า คนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้คือ นายมงคล อรุณโชติ ซึ่งเป็นโชเฟอร์ และเจ้าของรถขับรถทัวร์โดยสารไม่ประจำทาง ทะเบียน 32-2403 กทม. หรือที่เรียกกันว่า ทัวร์ 30 ที่นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวโดยสารมา เมื่อทราบดังนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้พยายามติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ จนกระทั่งในที่สุดก็สามารถติดตามตัวได้ และจากการสอบสวน นายมงคล อรุณโชติ ก้ได้ให้การรับสารภาพกับทางเจ้าหน้าที่ว่าได้เป็นคนลงมือก่อเหตุในครั้งนี้จริง โดยอาศัยจังหวะในช่วงที่นักท่องเที่ยวหลับ ทำการล้วงเอากระเป๋าเงินที่นักท่องเที่ยวใส่ไว้ในกระเป๋าเป้หรือกระเป๋าเดินทาง จากนั้นก็จะดูว่ามีทรัพย์สินหรือเงินสดหรือไม่ แต่ช่วงลงมือก่อเหตุปรากฎว่านักท่องเที่ยวผู้เสียหายรายนี้มีบัตร ATM ซึ่งเขียนรหัสติดไว้ด้านหลังบัตร หลังจากนั้นจึงได้นำบัตร ATM ดังกล่าวไปกดเงินสดออกมา จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติของ นายมงคล อรุณโชติ ยังทราบอีกว่าผู้ต้องหารายนี้ ได้เคยถูกจับกุมตัวข้อหาโจรกรรมทรัพย์นักท่องเที่ยว เมื่อปี พ.ศ.2551ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และหลังจากพ้นโทษก็ได้กลับมาก่อเหตุอีกครั้ง อย่างไรก็ตามภายหลังการแถลงข่าวทางเจ้าหน้าที่ จะได้ทำการสืบค้นประวัติของผู้ต้องหาโดยละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งจะได้นำตัวผู้ต้องหารายนี้ส่งให้กับทาง พงส.สภ.เถิน ซึ่งเป็นผู้รับแจ้งลงบันทึกประจำวัน เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนทางผู้เสียหายนั้น ตอนนี้ทราบว่าได้เดินทางกลับประเทศเกาหลีแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว จะได้ทำการติดตามแจ้งให้ทางเจ้าตัวทราบตามขั้นตอนต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น