หนุนชาวม้งปลูก “ข้าวหัวปี” ขายทำเงินหลังกระแสแรง

b2เมืองพ่อขุนฯ เล็งหนุนกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ผลิต “ข้าวหัวปี” ตามวิถีพื้นถิ่น ทำรายได้เสริม หนุนการท่องเที่ยว หลังพบคนนิยมบริโภคเพื่อสุขภาพ ขายได้ราคาแพงถึง 50 บาท/กก.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ผลผลิตข้าวชาวนาไทยกำลังเผชิญวิกฤตราคาตกต่ำอยู่นั้น แต่ผลผลิตข้าวไร่ของเกษตรกรกลุ่มชาติพันธุ์บนพื้นที่สูง กลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งยังมีราคาสูงกว่าข้าวชาวนาพื้นราบอย่างเห็นได้ชัด เช่น ข้าวของกลุ่มชาติพันธุ์ม้งขุนห้วยแม่เปา 3 หมู่บ้านใน ต.แม่เปา อ.พญางเม็งราย ที่นำข้าวเปลือกมาผลิตเป็นข้าวกล้อง ตามภูมิปัญหาพื้นถิ่นที่สืบทอดกันมายาวนาน สามารถขายได้แพงถึง 50 บาท/กก. และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคข้าวเพื่อสุขภาพ

นายประพันธ์ เด่นศิริโยธา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านใหม่สุขสันต์ กล่าวว่า ข้าวพันธุ์ที่ชาวม้งปลูกส่วนใหญ่เป็นข้าวพันธุ์มูเซอ และข้าวพันธุ์เกษตร ซึ่งมีความนุ่ม ไม่แข็ง ใช้วิธีการปลูกเหมือนข้าวไร่ทั่วไปที่ใช้น้ำจากน้ำฝนบนภูเขา ปลูกตั้งแต่เดือนมิถุนายน เก็บเกี่ยวได้ในพฤศจิกายน ได้ผลผลิตไร่ละประมาณ 20 ถัง ส่วนข้าวหัวปีดังกล่าวก็จะเก็บเกี่ยวเพียงบางส่วนเพื่อนำไปบูชาบรรพบุรุษ ผู้เฒ่าผู้แก่ ญาติมิตร ผู้อาวุโส และเด็กๆ ให้ได้กินเพื่อสุขภาพ

นายภูเบศร์ จูละยานนท์ นายอำเภอพญาเม็งราย จ.เชียงราย กล่าวว่า ชาวม้ง มีประเพณีเกี่ยวกับข้าวที่เรียกว่า “เกี่ยวข้าวใหม่” โดยช่วงต้นฤดูก็จะพากันเกี่ยวข้าวด้วยเครื่องมือเกี่ยวที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ นำรวงข้าวมานวด จากนั้นนำข้าวเปลือกมาคั่วให้หอม ซึ่งกรรมวิธีนี้ทำให้ได้ข้าวที่บริสุทธิ์ ใหม่ ได้วิตามิน แร่ธาตุสูง ช่วยบำรุงสมอง สายตา หัวเข่า ข้าวที่ได้นำมาประกอบพิธีกรรมต่างๆ และเลี้ยงผู้อาวุโส รวมทั้งญาติมิตรเพื่อแสดงความเคารพ

ข้าวชนิดนี้กำลังได้รับความนิยมมาก ขายกันในพื้นที่ได้ราคาแพงถึงกิโลกรัมละ 50 บาท แต่เนื่องจากชาวม้งไม่ได้นำข้าวมาทำตามกรรมวิธีนี้ทั้งหมด แต่จะนำมาทำเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น ส่วนที่เหลือก็จะใช้วิธีการเกี่ยว ตาก นวด และสีตามปกติ

ดังนั้น ทางอำเภอจึงส่งเสริมให้ชาวม้งได้ผลิตข้าวชนิดนี้เพื่อสร้างรายได้ และส่งเสริมการท่องเที่ยว และหากผลิตเพียงพอแล้วนำไปขายนอกพื้นที่ก็เพิ่มมูลค่ามากกว่านี้ได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น