หนุนอนุรักษ์ “นกยูงไทย” วัดบ้านปาง เป็นแหล่งเรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ

คณะกรรมการศูนย์อนุรักษ์นกยูงไทย อ.ลี้ ลำพูน เดินหน้าเข้าพบพ่อเมืองลำพูน เพื่อเรียนให้ทราบวัตถุประสงค์ของมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าฯ ป้องกันความไม่เข้าใจของชาวบ้าน โดยพ่อเมืองลำพูนกล่าวยกย่องพร้อมส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวในอนาคต

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 พ.ย. 59 นายพิสิษฐ์ ณ พัทลุง ประธานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ประธานมูลนิธิจุมภฎ-พันธุ์ทิพย์ ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ นายวรพงษ์ หงษ์ทอง ผู้จัดการศูนย์ศึกษาและอนุรักญ์นกยูงไทย และนางสาวไพรรินทร์ ยานะ ตัวแทนเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ เดินทางเข้าพบกับ นายวีระชัย ภู่เพียงใจ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เพื่อเรียนให้ทราบและชี้แจงว่าที่อำเภอลี้ จ.ลำพูน มีโครงการศูนย์อนุรักษ์นกยูงไทย ซึ่งทางคณะกรรมการ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเรียนเพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ที่เพิ่งมาดำรงตำแหน่งใหม่ได้รับรู้ความเป็นมาของสถานที่ตั้ง วัตถุประสงค์การดำเนินการต่อไป และในอนาคตจังหวัดลำพูนจะมีที่เรียนรู้ ศึกษา ท่องเที่ยว ไม่แพ้กับที่อื่นๆ ในประเทศไทย เน้นในเชิงอนุรักษ์ฟื้นฟู รักษาสิ่งแวดล้อมในพื้นท้องถิ่นสืบไป ซึ่งต่อไปนี้ทางโครงการพร้อมที่จะดำเนินการ เปิดให้ประชาชน นักท่องเที่ยว นักศึกษา หน่วยงาน องค์กร ต่างๆ เข้าไปในพื้นที่อย่างสบายใจ ไม่เกิดความเข้าใจผิด กังวลเรื่องที่ผิดๆ และสับสนในเรื่องบางอย่างที่มีบุคคลบางกลุ่มเข้าใจผิดเกี่ยวกับคณะกรรมการดำเนินงานของศูนย์อนุรักษ์ฯ

นายพิสิษฐ์ ณ พัทลุง ประธานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ สมัยที่ นายณรงค์ อ่อนสอาด อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ดำรงตำแหน่งอยู่ ได้ให้เกียรติเดินทางไปเปิดศูนย์ศึกษาและอนุรักษ์นกยูงไทยในถิ่นกำเนิด ที่ศูนย์ศึกษาและอนุรักษ์นกยูงไทยในถิ่นกำเนิด ตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ประธานมูลนิธิจุมภฎ-พันธุ์ทิพย์ ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ให้เกียรติร่วมงานด้วย ซึ่งศูนย์อนุรักษ์นกยูงไทยของเรามีเนื้อที่ ครั้งแรก 40 กว่าไร่ และได้ซื้อเพิ่มเติมเพื่อเป็นที่อยู่ของสัตว์ ในเวลาต่อมา โดยปัจจุบันมีนกยูงไทยที่ยังหลงเหลืออยู่ประมาณ 69 ตัว ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ของมูลนิธิฯ

ทั้งนี้ในอดีตครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนาไทย ได้นำนกยูงมาเลี้ยงยังวัดบ้านปาง พื้นที่ใกล้เคียงของศูนย์ฯ ซึ่งนกยูงเหล่านี้ได้ขยายพันธุ์เพิ่มขึ้น ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่ต่างก็มีการร่วมกันอนุรักษ์โดยการไม่ล่า หรือฆ่านกยูง เพราะเชื่อว่าเป็นนกของครูบาเจ้าศรีวิชัยนำมาเลี้ยงไว้จนมีปริมาณมากขึ้น แต่ที่ผ่านมาขาดการส่งเสริมศึกษาและอนุรักษ์อย่างจริงจัง ทำให้ปัจจุบันมีคณาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้ามาร่วมศึกษาเพื่อสำรวจประชากรของนกยูงไทยที่มีอยู่ว่าปริมาณเท่าไร เป็นตัวผู้กี่ตัว และตัวเมียกี่ตัว ตลอด จนการกินอยู่และอาศัยของนกยูงเป็นอย่างไร ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนักวิจัยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาร่วมกันทำงานด้วย ที่ผ่านมาทางจังหวัดได้ร่วมกับศูนย์อนุรักษ์ฯ ผลักดันส่งเสริมศูนย์ศึกษาและอนุรักษ์นกยูงไทย ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ของอำเภอลี้ ในการเดินทางมาชมนกยูงไทย การศึกษาวิถีชีวิตของนกยูงไทย ที่ปัจจุบันจะหาชมได้ยากในตามแหล่งธรรมชาตินอกจากจะมีตามสวนสัตว์ต่างๆ ที่นำมาจัดแสดงให้ชมเท่านั้น ซึ่งจะเป็นแหล่งใหญ่ ของการชมนกยูงไทยอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย

นายพิสิษฐ์ ณ พัทลุง กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า พวกเราทุกคนมีประสบการณ์ในการทำงานคุ้มครองสัตว์ มากว่า 30 ปี ไม่มีจุดประสงค์อื่นใด นอกเหนือจากการอนุรักษ์นกยูงไทยให้มีการขยายพันธุ์พัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้และผลักดันแหล่งท่องเที่ยวต่อไป ขณะนี้เรามีการพัฒนาสถานที่ทำงานในศูนย์ แบบทรงไทย ล้านนา รวมทั้งได้นำรูปหล่อครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย ขนาดเท่าองค์จริงที่พระธรรมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร มอบให้แก่มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ไปประดิษฐานไว้ ณ ศูนย์ศึกษาและอนุรักษ์นกยูงไทยในถิ่นกำเนิด พื้นที่ อ.ลี้ จ.ลำพูน เพื่อให้ศรัทธาประชาชนได้สักการะอีกด้วย นอกจากนี้เรายังได้ให้เด็กๆ ในพื้นที่เข้ามาศึกษาเรียนรู้ รวมทั้งนำเด็กๆ ไปทัศนศึกษายังต่างจังหวัดมาแล้ว

ทางด้าน นายวีระชัย ภู่เพียงใจ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า เท่าที่คณะกรรมการดำเนินงานเรียนให้ทราบ ตนรับทราบวัตถุประสงค์ของศูนย์อนุรักษ์นกยูงไทยดี สำหรับวัตถุประสงค์และที่เคยดำเนินการไปแล้ว ก็เป็นโครงการที่น่ายกย่องและส่งเสริมเพียงแต่ขอให้ไปปรับความเข้าใจกับกลุ่มบุคคลให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้กับ นายวิวัฒน์ จันทร์โอภาส นายอำเภอลี้ จ.ลำพูน ดำเนินการเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว