“สมาร์ทท็อป”บุกเหนือ เลือกพีพีเอสทำตลาด

b-1แบรนด์ สมาร์ทท็อปบุกตลาดภาคเหนือแต่งตั้ง พีพีเอส เชียงใหม่ประดับยนต์ เป็นดีลเลอร์ผลิตภัณฑ์หลังคารถกระบะไฟเบอร์กลาส คุมเชียงใหม่และภาคเหนือทั้งหมด หลังมองศักยภาพความพร้อมเต็มกำลัง มั่นใจเป็นตลาดใหญ่ มุ่งตอบโจทย์หากลุ่มเป้าหมายตรงจุด

นายชุมพล มีแสงโสรจ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โพเทนเชียล สมาร์ทท็อป จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายหลังคารถกระบะไฟเบอร์กลาสฝาครอบกระบะและเครื่องเสียงรถยนต์ แบรนด์ สมาร์ทท็อป เปิดเผยว่า ความเป็นมาของแบรนด์สมาร์ทท็อปนั้น ได้เริ่มจากการส่งออกไปที่ต่างประเทศเป็นหลัก คิดเป็น 100%เลยทีเดียว โดยเข้ามาทำตลาดภายในประเทศได้เป็นระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันก็คิดเป็นสัดส่วนตลาดต่างประเทศ 80% และตลาดภายในประเทศ 20% ทั้งนี้การที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์เพื่อมุ่งไปสู่ตลาดต่างประเทศโดยตรงนั้นเนื่องจาก ประเทศไทยมีผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรายใหญ่ที่แข็งแกร่ง การที่จะไปเปิดตัวแล้วต้องมาแข่งขันกันในเบื้องต้นค่อนข้างลำบากเรื่องราคาอาจจะมีการบีบราคากันเกิดขึ้น สมาร์ทท็อป จึงมองว่าต้องสร้างความเชื่อถือให้กับลูกค้าก่อน ด้วยการสร้างธุรกิจให้มั่นคงแข็งแรง สร้างแบรนด์ให้เป็นระดับที่มีมาตรฐานสูง เป็นที่รู้จัก ทำให้ภาพลักษณ์ของสินค้ามีคุณภาพ แต่ราคาต้องตอบโจทย์ลูกค้า จึงจำเป็นต้องทำให้แบรนด์ติดหูอยู่ในตลาดก่อนที่จะมาเปิดตัว

สำหรับกลุ่มลูกค้าส่วนมากเป็นกลุ่มประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย ด้วยตลาดต่างประเทศมองเรื่องคุณภาพของสินค้ามาก่อนมาเป็นอย่างแรก ถ้าคุณภาพของสินค้ามีมาตรฐานพอก็สามารถที่จะส่งออกไปต่างประเทศได้ซึ่งเราทำได้และเป็นที่ยอมรับ ปัจจุบันได้ส่งออกไปที่ต่างประเทศจำนวน 35 ประเทศทั่วโลก การที่ไปทำตลาดต่างประเทศถือว่าค่อนข้างยาก เพราะว่า ลูกค้าต้องการสินค้าที่มีคุณภาพดี ซึ่งต่างประเทศยังมีช่องว่างอยู่ จึงเป็นโอกาสที่จะทำสินค้าที่มีคุณภาพออกมา และที่สำคัญตลาดต่างประเทศจะไม่มีปัญหาเรื่องราคา

นายชุมพล กล่าวว่า ส่วนแบ่งทางการตลาด ถือว่าเติบโตเร็วมาก ตลาดต่างประเทศเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ อยู่ที่ 10-20% ซึ่งเกินจากที่ตั้งเป้าไว้กว่าทุกปีที่ผ่านมา เมื่อปีที่ผ่านมาก็โตกว่า 100% โดยการเปิดตลาดที่ประเทศไทย ให้บริการ 2 ปี ตอนนี้เรามีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 10% และใน 5 ปี ตั้งเป้าไว้ที่ 50% ของตลาดประเทศไทย

“แผนการตลาดเราจะเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าเดิมของเราที่มีอยู่ในมือก่อน เดิมทีฐานธุรกิจได้เริ่มมาจากการทำเครื่องเสียงจึงมีตัวแทนทั่วประเทศอยู่แล้ว ดังนั้น ช่วงแรกจึงได้วางดีลเลอร์เก่าทั้งหมด และเริ่มที่จะคัดว่าใครจะเป็นตัวแทน โดยจังหวัดละ 1 แห่ง เท่านั้น แต่ถ้าเป็นจังหวัดใหญ่ๆ จะให้เป็นศูนย์กลางหลักแทน เพื่อให้จังหวัดเล็กๆ มาเป็นศูนย์ย่อยในการกระจายสินค้า ยกตัวอย่างในครั้งนี้เรามาที่จังหวัดเชียงใหม่และได้เลือก บริษัท พีพีเอส เชียงใหม่ประดับยนต์ PPS เป็นศูนย์กลางการดูแล เพื่อที่ดีลเลอร์จะได้ไม่ชนกัน ทั้งนี้ตลาดของจังหวัดเชียงใหม่เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ คนภาคเหนือใช้รถกระบะเยอะ เนื่องจากสภาพภูมิประเทศในภาคเหนือจะเป็นภูเขา จึงมองว่า PPS มีศักยภาพพอที่จะดูแลลูกค้า พร้อมในการกระจายแบร์นให้ไปสู่ตลาดในภาคเหนือ ส่วนในเรื่องแผนการตลาดทางบริษัทจะกำหนดและสนับสนุนให้ดีลเลอร์ ทั้งเรื่องประชาสัมพันธ์ โปรโมชั่น โบว์ชัว สื่อต่างๆเป็นต้น ” ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โพเทนเชียล สมาร์ทท็อป จำกัด กล่าวและว่า.

ปัจจุบันปัญหาเรื่องเศรษฐกิจซบเซาทำให้ประชาชนชะลอการใช้เงิน หลายแบรนด์ก็ได้ชะลอตัวลงไป แต่ทางบริษัทไม่ได้นิ่งตาม ได้เตรียมความพร้อมในการรับมือและประชาสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ คาดว่าปลายปีนี้เศรษฐกิจน่าจะกระเตื้องขึ้น สิ่งที่ทุกคนอั้นมาทั้งปีถึงเวลาต้องปล่อยออกมาบ้างแล้ว และช่วงนี้เป็นช่วงที่รถกระบะออกมาหลายรุ่น ผู้ที่ออกรถก็น่าจะมองหาร้านประดับยนต์ทำให้คิดว่าปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้าภาวะตลาดต้องดีขึ้นตามลำดับ

ขณะที่นายปณต จันทราสูติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีพีเอส เชียงใหม่ประดับยนต์ จำกัด PPS เปิดเผยถึงการเป็นดีลเลอร์แต่เพียงแห่งเดียวในจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ แบรนด์ สมาร์ทท็อป ว่า PPS ได้วางแผนไว้ว่า ในจังหวัดเชียงใหม่จะต้องเปิดให้บริการ 4 สาขา ภายในจังหวัดตามเส้นทางใหญ่ ซึ่งขณะนี้มี 2 สาขา เช่น เส้นทางในเมือง และเส้นทางหางดง ต่อไปในอนาคต คือ เส้นทางแม่โจ้ และเส้นทางสันกำแพง ดังนั้น การมีเครือข่าย 4 จุด ในจังหวัดเชียงใหม่น่าจะเพียงพอในการที่จะดูแล แบรนด์ สมาร์ทท็อป ลักษณะในการให้บริการของแต่ละสาขา คือ เมื่อลูกค้าซื้อที่ไหนก็ตามสามารถใช้บริการได้ทุกสาขา เพราะมีฐานข้อมูลออนไลน์ที่เป็นลักษณะการบริการของ PPS ที่กำหนดไว้ หลักในการบริการจะมี 2 ส่วน 1.การกระจายพื้นที่บริการ 2.การค้าส่ง ให้พื้นที่ใหญ่เป็นพื้นที่ที่ใช้เก็บสต็อก เพื่อกระจายสินค้าไปอีก 5 จังหวัดใกล้เคียง เพื่อที่จะให้ถึงลูกค้าอย่างรวดเร็ว ส่วนเรื่องการคาดหวังทางยอดขาย PPS ได้ตั้งเป้าไว้ที่ 20 หลัง ต่อ 1 เดือน ซึ่งขณะนี้มีการประชาสัมพันธ์ไปอย่างกว้างขวางแล้ว จากนั้นก็วิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าว่าชอบรูปแบบไหน มีผลตอบรับอย่างไร ก็จะนำมาปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ยอดได้ตามที่กำหนด

ร่วมแสดงความคิดเห็น