ชวนเที่ยวศูนย์พัฒนา..!! “โครงการหลวงวัดจันทร์”

1%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%b8%e0%b9%8a%e0%b8%9b บ้านวัดจันทร์ และศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ ซึ่งตั้งอยู่ใน อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันมีนายอภิศักดิ์ คำมาบุตร์ เป็นหัวหน้าศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม มีป่าสนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

โดยศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ ได้จัดตั้งขึ้นหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จมาเยี่ยมเยือนราษฎรชาวเขาในเขตหมู่บ้านวัดจันทร์ และหมู่บ้านใกล้เคียง เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2522 โดยมีภาพทรงเสด็จประทับ ณ ต้นไทรสหมิตร (ต้นไม้ที่ประทับ) ซึ่งเป็นต้นไทรขนาดใหญ่อยู่ในเขตโรงเรียนสหมิตรวิทยา บ้านหนองเจ็ดหน่วย โดยเสด็จทรงเยี่ยมเยือนราษฎรในพื้นที่และทรงพระราชดำเนินโดยพระบาท จากจุดที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ณ โรงเรียนบ้านวัดจันทร์ ผ่านทุ่งนาของเกษตรกร มาทางด้านหลังของโครงการหลวงในปัจจุบันซึ่งขณะนั้นเป็นป่าสนเขาขนาดใหญ่ ลัดเลาะมาจนถึงบริเวณโรงเรียนเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร แล้วประทับอยู่ ณบริเวณนี้ โดยมีพสกนิกร ครู นักเรียนเฝ้ารับเสด็จในครั้งนั้น ทรงพบว่าราษฎรที่นี่ มีความเป็นอยู่ที่แร้นแค้น ไม่มีเส้นทางคมนาคมส่งเชื่อมกับตัวอำเภอ ด้อยโอกาสทางการศึกษาและสุขภาพอนามัย ผลผลิตข้าวสำหรับบริโภคก็ไม่เพียงพอตลอดทั้งปี แต่หมู่บ้านตั้งอยู่ในบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ จึงมีพระราชดำริให้มีการพัฒนาบ้านวัดจันทร์และหมู่บ้านใกล้เคียงเพื่อก่อตั้ง “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์” ขึ้น เพื่อช่วยให้สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้ราษฎร เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

แหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์มีทิวทัศน์ ธรรมชาติสวยงาม ของป่าสนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยพื้นที่โครงการหลวงวัดจันทร์ ที่คุ้นเคยของนักท่องเที่ยวคือ ที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อปป.) และอีกหนึ่งจุดคือ ที่ตั้งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ จะตั้งอยู่คนละพื้นที่ แต่ทั้งสองแห่งอยู่ในพื้นที่ดูแลของโครงการหลวงเช่นกัน มีทั้งสนสองใบและสนสามใบ ซึ่งเป็นป่าสนธรรมชาติที่ผืนใหญ่ที่สุดของประเทศ

2%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%b8%e0%b9%8a%e0%b8%9b

ในช่วงนี้ผลผลิตที่ทางศูนย์พัฒนาโครงการหลวงได้นำออกมาจำหน่าย มีผักกาดหวาน ฟักญี่ปุ่นและผักตามฤดูกาลอื่นๆ ผลไม้ มี องุ่นไร้เมล็ดปลอดสารพิษ ส้มคัมคอท ส้มพองกัน พลับ พลัม

สำหรับบรรยากาศภายในหมู่บ้านวัดจันทร์วันนี้ จะมีดอกบัวตองบานอยู่สองข้างทาง หมู่บ้านอยู่หุบเขา จะถูกปกคลุมไปด้วยม่านหมอกและสายลมอันหนาวเย็น ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้มาเยือนสถานที่แห่งนี้ จะหลงเสน่ห์กับความงามที่มองเห็นอยู่ตรงหน้า กับภาพสายหมอกลอยพริ้วปกคลุม ทิวสน และอ่างเก็บน้ำต่างๆ รวมทั้งสีสันสดสวยของใบเมเปิ้ลที่พร้อมใจกันผลัด เปลี่ยนสีในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือน ธ.ค.ถึง ก.พ.

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม มีวัดบ้านจันทร์ ซึ่งคาดว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยละว้า (ลัวะ) ที่อพยพมาจากเชียงใหม่ ประมาณ 300 ปี ซึ่งชื่อของวัดบ้านจันทร์ บ้านจันทร์นั้น ตามตำนานเชื่อว่ามาจากชื่อของ “นายจันทร์” (ตำนานหนึ่งว่าเป็นคนจากล้านนา อีกตำนานหนึ่งว่าเป็นคนพื้นที่นี้) วัดจันทร์เป็นที่ประดิษฐานของพระธาตุวัดจันทร์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน ขณะที่วิหารของที่นี่นับว่าดูแปลกจากวิหารทั่วๆ ไป หลายคนเรียกวิหารหลังนี้ว่า “วิหารแว่นตาดำ” หรือ “วิหารเรย์แบน” เพราะเมื่อมองจากด้านหน้าแล้วดูคล้ายมีแว่นตาขนาดใหญ่ สวมอยู่ ซึ่งเกิดจาการเจาะช่องแสงเหมือนรูปแว่นตา แวดล้อมไปด้วยวัฒนธรรมของชาวบ้านที่เป็นชาวเขาเผ่าปกาเกอะญอ

การเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่สามารถเดินทางไปยังศูนย์ฯ วัดจันทร์ ได้สองเส้นทางคือ เส้นทางที่ 1 จากตัวเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ ผ่านตลาดแม่มาลัย ไปทาง อำเภอปายก่อนถึงอำเภอปาย แล้วเลี้ยวซ้าย ไปวัดจันทร์ ระยะทาง 157 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ในช่วงกิโลเมตรที่ 13 มีน้ำพุร้อนเกิดขึ้นใหม่ตามธรรมชาติ สามารถแวะชมได้ สำหรับผู้ที่ใช้เส้นทางนี้ ให้ระมัดระวังสัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน เช่นวัว ควาย ที่เลี้ยงแบบปล่อยไว้ด้วย
เส้นทางที่ 2 จากตัวเมืองเชียงใหม่ ไปตามเส้นทางแม่ริม 1096 แล้วต่อยังอำเภอสะเมิง ผ่านทางอำเภอสะเมิง-วัดจันทร์ ระยะทาง 154 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง มีรถประจำทางผ่าน

บริการที่พักและอาหารในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ มีอย่างสะดวกสบาย ทั้งห้องพักและห้องประชุมท่ามกลางบรรยากาศป่าสนเขา และบริเวณลานกางเต็นท์ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 084-3655405 ได้ทุกวัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น