ชาวจอมทอง เรียกร้องขยายถนน เส้นทางขึ้นดอยอินทนนท์ ชี้ที่คับแคบ

เรียกร้อง นายณรงค์ ภูอิทธิวงศ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ นายก่อชิ เพชรไพรพนาวัลย์ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านหลวง อ.จอมทอง และคณะ เข้าพบนายจิระเดช บุญมาก ผช.หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ หารือถึงแนวทางในการเสนอขอสำรวจและทำโครงการ ขยายถนนทางขึ้นดอยอินทนนท์เป็น 2 ช่องจราจร ตามข่าววันนี้
เรียกร้อง
นายณรงค์ ภูอิทธิวงศ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ นายก่อชิ เพชรไพรพนาวัลย์ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านหลวง อ.จอมทอง และคณะ เข้าพบนายจิระเดช บุญมาก ผช.หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ หารือถึงแนวทางในการเสนอขอสำรวจและทำโครงการ ขยายถนนทางขึ้นดอยอินทนนท์เป็น 2 ช่องจราจร ตามข่าววันนี้

รถแน่นดอยอินทนนท์ แห่สัมผัสหนาว และสักการะพระบรมธาตุในหลวง-พระบรมราชินีไม่ขาดสาย ชาวจอมทอง ค้นเรื่องเก่า เคยขอขยายถนนขึ้น และลานจอดรถเพิ่ม ยื่นผ่านอดีต ส.ส.ณรงค์ ภูอิทธิวงศ์ เคยมีผลงานเสนอสร้างถนน 4 เลนจนถึงอำเภอฮอด ครั้งนี้สภาเทศบาลบ้านหลวงลงมติใหม่ ยื่นขอกรมทางหลวงอีกครั้ง ขณะที่อุทยานดอยอินทนนท์ไม่ขัดข้อง เพราะไม่ได้ขยายเข้าในเขตป่า แต่ขอให้มาตกลงก่อนสำรวจและเขียนแบบ

ปัญหาการจราจรแออัดบนเส้นทางท่องเที่ยวยอดฮิตของจังหวัดเชียงใหม่ คือเส้นทางสายอำเภอจอมทอง-ดอยอินทนนท์ ระยะทาง 48 กม. จากเดิมในฤดูกาลท่องเที่ยวมีรถยนต์เดินทางขึ้นไปจำนวนมาก แต่ปัจจุบันมียวดยานพาหนะคับคั่งทุกวันทุกฤดูกาล บางครั้งเกิดอุบัติเหตุขึ้น นอกจากนั้นในช่วงปลายปี นักท่องเที่ยวแห่ไปสัมผัสอากาศหนาวเย็น จนกระทั่งจุดชมวิว และลานพระบรมธาตุนภเมทนีดล และนภพลภูมิสิริ แออัดตั้งแต่ลานจอด จนถึงทางผ่านด้านหน้า สองข้างเต็มไปด้วยรถยนต์นักท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน ดังนั้นจึงมีการเรียกร้องให้กรมทางหลวงพิจารณาขยายถนนเพิ่มขึ้นอีก 1 เลนขาขึ้น และขยายพื้นที่จอดรถให้เพียงพอ โดยเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2559 ที่ห้องประชุมสำนักงานอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ นายณรงค์ ภูอิทธิวงศ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ และอดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ร่วมกับนายก่อชิ เพชรไพรพนาวัลย์ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านหลวง นายสมชาย ดวงเดช ประธานสภาเทศบาลตำบลบ้านหลวง พร้อมด้วยตัวแทนเครือข่ายองค์กรพัฒนาในอำเภอจอมทอง เข้าประชุมร่วมกับนายจิระเดช บุญมาก ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เพื่อหารือในเบื้องต้นว่าจะมีแนวทางใดในการเสนอโครงการนี้ให้ได้ผล

นายณรงค์ ภูอิทธิวงศ์ กล่าวว่า เรื่องเดิมเมื่อปี พ.ศ. 2551 กำนันตำบลบ้านหลวงร่วมกับ นายก อบต.บ้านหลวง และนายณรงค์ ภูอิทธิวงศ์ เคยเสนอขอให้กรมทางหลวง ขยายไหล่ทางถนนสายจอมทอง-อินทนนท์ (ทางหลวงหมายเลข 1009) เพิ่มทางขึ้นอีก 1 ช่องจราจร เพื่อความสะดวกในการเดินทางท่องเที่ยว และเป็นเส้นทางความมั่นคง เนื่องจากมีสถานีเรด้าร์ของชาติตั้งอยู่ รวมทั้งมีพระบรมธาตุเจดีย์พระมหาเมทนีดล และพระนภพลภูมิสิริประดิษฐานอยู่ มีประชาชนขึ้นไปสักการะตลอดเวลา นอกจากนั้นยังเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังอำเภอแม่แจ่ม และแม่วาง เป็นเส้นทางขนสินค้าเกษตร พืชผลไม้ และผักเมืองหนาวโครงการหลวงลงไปสู่ตลาด ดังนั้น เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเกิดความปลอดภัย และลดอุบัติเหตุ ตนจึงได้เสนอต่อกรมทางหลวง แต่ต่อมาเรื่องดังกล่าวได้เงียบหายไป ประกอบกับตนไม่ได้เข้ามาทำหน้าที่ ส.ส.อยู่หลายปี

1%e0%b8%a3%e0%b8%96%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%94

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังเป็นความหวังและต้องการของประชาชนชาวจอมทอง โดยเฉพาะราษฎรที่อยู่ในตำบลบ้านหลวง และพี่น้องชนเผ่าต่างๆ ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จึงมีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาเทศบาลตำบลบ้านหลวงอีกครั้ง เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2559 ในการประชุมสมัยสามัญสภาเทศบาลตำบลบ้านหลวง สมัยที่ 4 สมาชิกสภาได้นำพิจารณาเห็นชอบให้ยื่นเสนอแนวทางการขยายไหล่ทางถนนสายดังกล่าวอีกครั้ง โดยขอให้เพิ่มช่องทางจราจรขาขึ้นอีก 1 ช่องจราจร กับขอให้เพิ่มพื้นที่จอดรถข้างทางในจุดต่างๆ และยังมีมติขอให้นายณรงค์ ภูอิทธิวงศ์ อดีต ส.ส.ได้ช่วยประสานงานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ เนื่องจากตัวแทนราษฎรในอำเภอจอมทองเห็นว่านายณรงค์ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้ขยายถนนสายเชียงใหม่-ฮอด 88 กม.เป็น 4 ช่องการจราจรตั้งแต่ตอนเป็น สส. ประสบความสำเร็จมาแล้ว จึงมั่นใจว่าจะร่วมกับชาวตำบลบ้านหลวงผลักดันโครงการนี้ให้ถึงเป้าหมายได้

นายจิรเดช บุญมาก ได้รับมอบจากนายรุ่ง หิรัญวงษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ชี้แจงกับคณะที่เข้าร่วมหารือว่า ทางอุทยานฯ เห็นความจำเป็นของพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยว ก็ไม่ได้ขัดข้อง เพราะพบเห็นปัญหาเช่นเดียวกัน จากที่ตนได้อยู่ที่นี่มากว่า 10 ปีก็ทราบดี แต่ถ้าจะเริ่มต้นดำเนินการโดยเสนอกรมทางหลวง หากจะมีการเขียนแบบ ควรมาหารือกันก่อนการออกแบบ เมื่อเสนอมาก็จะได้รายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อตัดสินใจในขั้นตอนต่อไปได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ ความเห็นโดยส่วนตัวแล้วการขยายอีก 1 ช่องจราจรขาขึ้นจะเกิดประโยชน์มาก เมื่อดูถึงผลกระทบต่อการอยู่อาศัยและร้านค้าของชุมชนก็ไม่มี ถ้านับจากด่านน้ำตกแม่กลางขึ้นไป แต่จาก กม.0 ขึ้นมาถึงน้ำตกแม่กลางอาจจะมีปัญหาผู้อยู่อาศัย และทำร้านค้ายื่นออกมา ซึ่งจะต้องมีการทำความเข้าใจกันให้ได้

ทางด้าน นายณรงค์ ภูอิทธิวงศ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ กล่าวว่า ตนทราบดีว่าไม่ได้มีตำแหน่งอะไร แต่เมื่อเป็นเรื่องเดิมที่เคยทำไว้ และเทศบาลตำบลบ้านหลวงได้ขอแรงมา ก็มารับทราบปัญหา พร้อมกับตรวจเส้นทาง 48 กม.จนถึงยอดดอยอินทนนท์ ได้เข้ากราบสักการะกู่พระเจ้าอินทวิชยานนท์ และพระบารมีแห่งองค์พระบรมธาตุทั้งสองของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อขอให้โครงการที่เป็นความต้องการของราษฎรประสบความสำเร็จ ซึ่งจะได้แนะนำให้เทศบาลเสนอเรื่องต่อกรมทางหลวงโดยเร็ว เพื่อให้มาสำรวจ และออกแบบตามขั้นตอน ส่วนงบประมาณนั้นจะได้หรือไม่อยู่ที่การเห็นชอบของสำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

“อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวจะสนับสนุนเรื่องการปรับปรุงจุดแวะพักศูนย์วัฒนธรรมปากะกาญอ เพื่อให้สะอาด สวยงาม มีห้องสุขาสะอาด และปรับพื้นที่จอดรถให้เหมาะสมยิ่งขึ้นก็จะเพิ่มช่องทางการการทำมาค้าขายของชุมชนบนดอยได้เป็นอย่างดี” อดีต ส.ส.เชียงใหม่ สายใต้ กล่าวย้ำท้าย

ทางผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่าเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 29 พ.ย. 59 นายวุฒิพงษ์ ดงคำฟู ผู้ช่วย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ รายงานว่า ที่บริเวณจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน นักท่องเที่ยวแห่กันขึ้นมาสัมผัสอากาศหนาวเนืองแน่น เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น สภาพอากาศปิด วัดได้ต่ำสุด 8 องศาเซลเซียส ที่บริเวณ ยอดดอยอินทนนท์ ส่วนที่บริเวณจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน วัดได้ 12 องศาเซลเซียส ที่ทำการอุทยานวัดได้ 17 องศาฯ

ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบข้อมูลนักท่องเที่ยวที่สนใจเดินชมธรรมชาติกิ่วแม่ปาน เปิดมา 28 วัน มีนักท่องเที่ยวเดินชมธรรมชาติ จำนวนทั้งสิ้น 20,503 คน จะเห็นได้ว่ามีคนสนใจธรรมชาติมากขึ้น แม้ว่าจะต้องเดินเท้าลัดเลาะไปตามป่าถึง 3 กิโลเมตรเศษ ใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง ก็ตาม ก็ยังมีคนสนใจ อย่างไรก็ตาม จุดนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด เพราะจะเหนื่อยง่ายและอากาศเย็นมาก

ร่วมแสดงความคิดเห็น