นอกเวลาเกมส์ ความลับที่ซ่อนอยู่ใต้พรม

ท่ามกลางความสวยงามของถ้วยรางวัล เสียงเชียร์ และสปิริตของนักฟุตบอลในสนาม ใครเลยจะรู้ว่า ที่นักกีฬาคนหนึ่งจะก้าวขึ้นมาอยู่ในชั้นแนวหน้า พวกเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง นอกเหนือจากหยาดเหงื่อ ความขยัน และความทุ่มเทแล้ว เพราะพวกเขาบางคนโดนล่วงละเมิดทางเพศด้วย
ตอนนี้ในวงการฟุตบอลกำลังมีประเด็นร้อนเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ โดยผู้ที่จุดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาคือ เดเร็ค เบลล์ อดีตนักเตะทีม นิวคาสเซิลซึ่งออกมาเผยว่า ตัวเขาเคยอยากฆ่าโค้ชที่ล่วงละเมิดทางเพศเขาสมัยเด็ก
ช่วงที่เบลล์อายุได้ 12-16 ปี และสังกัดอยู่สโมสรมอนแทกูและ นอร์ธ เฟนแฮม เขาถูกจอร์จ ออร์มอนด์ โค้ช ล่วงละเมิดทางเพศ เขาเคยพกมีดยาว 12 นิ้วไปหาโค้ชถึงที่บ้านเพื่อหวังฆ่าล้างแค้นด้วย แต่พอดีโค้ชไม่อยู่ หลังจากนั้น อีกสองสามวันพอเขาใจเย็นลง เขาก็ไปบ้านโค้ชอีกครั้งพร้อมกับซ่อนที่อัดเสียงเพื่อหวังเปิดโปง เขาถามคำถามว่าโค้ชทำแบบนี้กับเขาทำไม แต่โค้ชไม่ขอโทษและไม่มีคำตอบ โค้ชได้แต่พยายามขู่และติดสินบนเขา และกังวลแต่ว่าเขาจะไปบอกตำรวจ สุดท้ายโค้ชคนนี้ก็ถูกตำรวจจับและได้รับโทษจำคุก 6 ปี โทษฐานล่วงละเมิดทางเพศ
เบลล์เผยว่า เขาออกมาเพื่อเรียกร้องให้มีความตระหนักในสังคม และเพื่อช่วยเหลือเหยื่อให้กล้าลุกขึ้นมาต่อสู้ ตัวเขาเองเคยผ่านการขึ้นศาล เจอความลำบากหลายอย่าง เขาพร้อมที่จะเป็นกำลังใจและให้การช่วยเหลือคนอื่นๆ ดังนั้น ขอให้เหยื่อที่โดนกระทำกล้าเข้าไว้ อย่าไปอาย
หลังจากที่เบลล์ลุกขึ้นมาเรียกร้อง ทำให้ มีอดีตนักฟุตบอลหลายคนออกมาฟ้อง หรือยอมรับว่าเขาโดนล่วงละเมิดตอนเด็กอย่าง เดวิด อีท็อค อดีตนักเตะทีมนิวคาสเซิล ก็ยอมรับว่าเขาถูกโค้ชออร์มอนด์ล่วงละเมิดด้วยเช่นกัน ตอนนั้น เขาได้แต่ยืนตะลึง รู้สึกช็อค พูดไม่ออก และไม่นึกว่ามันจะเกิดขึ้นจริง
ด้านตำรวจก็เริ่มมีการสืบสวนในเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ ขณะที่สโมสรฟุตบอลต่างๆ เริ่มเตรียมให้มีการตรวจสอบภายใน ส่วนสายฮอตไลน์รับแจ้งความเรื่องการโดนล่วงละเมิดทางเพศนั้น แว่วมาว่าสถิติรายงานการถูกล่วงละเมิดขณะอยู่ในสโมสรอังกฤษล่าสุดพุ่งไปเป็น 350 เคสแล้ว และศูนย์ฮอตไลน์ได้รับแจ้งเรื่องกว่า 860 สายในสัปดาห์แรก
ด้าน มาร์ติน เกลนน์ หัวหน้าฝ่ายบริหารของเอฟเอเผยต่อคำถามที่ว่า มีบางสโมสรจ่ายเงินค่าปิดปากเหยื่อว่า ถ้าหากมีหลักฐานว่าสโมสรใดมีการกระทำใดที่ฝ่าฝืนต่อระเบียบ รวมทั้งการให้เงินปิดปากเหยื่อ ขอให้รายงานต่อพวกเขาทันที พวกเขาพร้อมที่จะดำเนินการไม่ว่าจะเป็นสโมสรฟุตบอลเล็กหรือใหญ่ก็ตาม เพราะการล่วงละเมิดเด็กเป็นสิ่งที่ควรต้องจัดการ ขอเพียงให้เหยื่อที่ถูกกระทำกล้าพอที่จะแสดงตัวและแจ้งให้พวกเขาทราบ
ส่วน ไซมอน ไบลีย์ หัวหน้าหน่วยงานเอ็นพีซีซีที่ทำงานด้านดูแลเด็กเผยว่า ข้อมูลที่ได้ยังต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง และพวกเขากำลังทำงานใกล้ชิดกับสโมสรฟุตบอลในทุกระดับเพื่อให้แน่ใจว่า มีมาตรการป้องกันอย่างไรต่อเรื่องดังกล่าว และขอเรียกร้องให้เหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดในอดีตได้มารายงานเรื่องที่เกิดขึ้นต่อพวกเขา ไม่ว่าจะเกิดมานานแค่ไหนแล้วก็ตาม
เรื่องแบบนี้ ได้ยินว่าวงการยิมนาสติก หรือกีฬาหลายประเภทก็มีเรื่องโค้ชล่วงละเมิดทางเพศเด็กเหมือนกัน เพราะฉะนั้น เราทุกคนก็ต้องระวังช่วยกันเป็นหูเป็นตา และอย่าปล่อยให้คนผิดลอยนวลนะเจ้าคะ

——ซือเจ๊–