เวลา 01.00 น.วันที่ 3 ธ.ค.59 พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตระไคร้ ผกก.สภ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้รับรายงานจากการข่าวว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจากชายแดนเข้าสู่ชั้นในของประเทศ โดยใช้เส้นทางสายดอยตุง-ห้วยไคร้ จึงได้กำชับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่เข้มงวด ในการตั้งจุดตรวจร่วมกับ มว.ลาดตระเวณ ฉก.3 กองกำลังผาเมือง จนกระทั่งเวลา 02.45 น.เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีบอร์น เลขทะเบียน บน 9115 พะเยา ขับผ่านมาทางถนนสายดอยตุง-ห้วยไคร้ ตรงกับที่ได้รับแจ้งจึงได้ทำการสกัดกั้น
แต่ปรากฎว่ารถคันดังกล่าวกลับเร่งเครื่องขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางบ้านศาลาเชิงดอย ต.ห้วยไคร้ ที่อยู่ใกล้กับถนนพหลโยธิน เจ้าหน้าที่จึงต้องนำรถออกสกัดขวางหน้าเอาไว้ ปรากฎว่าเมื่อขับหลบหนีไปถึงบ้านห้วยไคร้พัฒนา ม.10 ต.ห้วยไคร้ คนในรถกลับขับรถชนกับรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ จนเสียหายไปจำนวน 4 คัน ก่อนจะมีการยิงปะทะกันขึ้นแต่รถคนร้ายยังสามารถแหวกวงล้อมของเจ้าหน้าที่ไป โดยมีเจ้าหน้าที่ติดตามอย่างใกล้ชิด
แต่ผลจากการปะทะและการชนทำให้รถคันดังกล่าว เสียหายและคนในรถก็ได้รับบาดเจ็บ ทั้งจากกระสุนปืนและการชนของรถ จึงถูกเจ้าหน้าที่สามารถล้อมจับกุมเอาไว้ได้ทั้งหมด โดยตรวจพบว่าคนในรถมีจำนวน 3 คน เป็นชาย 1 คน คือ นายวราเทพ ใจมา อายุ 33 ปี และหญิง 2 คน คือ น.ส.พิมพิศา สมศรี อายุ 27 ปี และ น.ส.วรรณิศา เงินมูล อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่นำทั้งหมด ส่งโรงพยาบาลแม่สายอย่างเร่งด่วน
อย่างไรก็ตามล่าสุดมีรายงานว่าผู้ต้องหา 1 คน ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและได้เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาล คือน.ส.พิมพิศา สมศรี และจากตรวจสอบภายในรถพบกระสอบฟางดัดแปลงเป็นเป้สะพาย วางอยู่ในที่นั่งด้านหลังจำนวน 4 ใบ ภายในมียาบ้าประมาณ 480,000 เม็ด จึงได้ยึดไว้เป็นของกลางและเร่งขยายผลต่อไป สำหรับในวันนี้ พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.มีกำหนดเดินทางไปดูคดีดังกล่าวที่ สภ.แม่สาย และจะร่วมประชุมเร่งรัดติดตามการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในพื้นที่ ภ.5 และประชุมติดตามความคืบหน้าคดียึดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ โดยมีรายงานว่า รอง ผบ.ตร.จะแถลงข่าวกรณีสกัดกั้นยาเสพติดในคดีนี้ด้วย ในเวลา 10.00 น.
ร่วมแสดงความคิดเห็น