นอกเวลา GAME แด่…ชาเปโคเอนเซ่


หนึ่งในข่าวเศร้าที่สุด ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานี้คือ เครื่องบินสายการบิน “ลาเมีย แอร์ไลน์ส” แบบเช่าเหมาลำ แอลเอ็มไอ-2933 ที่มีนักเตะทีมชาเปโคเอนเซ่ ในลีกประเทศบราซิล เดินทางไปด้วย เพื่อไปแข่งขันในประเทศโคลอมเบียเกิดปัญหาระบบไฟฟ้าขัดข้อง จนพุ่งชนภูเขา เป็นเหตุให้เครื่องตกในเมืองเชร์โร่ กอร์โด้ จังหวัดอันติโอเกีย ของโคลอมเบีย
เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 75 ราย เป็นนักเตะของ ชาเปโคเอนเซ่ 18 คน รวมถึง เกลแบร์ ซานตาน่า มิดฟิลด์วัย 35 ปี ซึ่งเคยอยู่ แอตเลติโก มาดริด (2007-08) และ เรอัล มายอร์ก้า (2008-09), มาเธอุส บิเตโก้ มิดฟิลด์วัย 21 ปี ที่เคยอยู่ เทเอสเก 1899 ฮอฟเฟ่นไฮม์ ด้วยสัญญายืมตัว (2016) และ กาโย่ จูเนียร์ กุนซือ วัย 51 ปี ส่วนผู้รอดชีวิต 6 ราย เป็นนักเตะ 3 คน คือ เนโต้ เซนเตอร์แบ๊กวัย 31 ปี, อลัน รุสเชล ฟูลแบ๊กซ้ายวัย 27 ปี กับ โฟลล์มันน์ ผู้รักษาประตูวัย 24 ปี ซึ่งต้องถูกตัดขาขวาทิ้ง
ถ้าไม่เกิดเหตุนี้ หลายคนคงจะไม่เคยได้ยินชื่อ ชาเปโคเอนเซ่ แน่นอน แต่นี่คือทีมฟุตบอลที่มีเส้นทางราวกับ “เทพนิยาย” เลยละครับ… ชาเปโคเอนเซ่ ก่อตั้งเมื่อปี 1973 เป็นแชมป์รัฐซานตา กาตารีน่า 5 สมัย (1977, 1996, 2007, 2011, 2016) เพิ่งเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดครั้งแรกในปี 2014 ซึ่งฤดูกาลแรกจบด้วยอันดับ 15 ปีต่อมาเป็นอันดับ 14 ล่าสุดอยู่อันดับ 9 ของศึก กัมเปโอนาโต้ บราซิเลยโร่ แซรีอีอา หลังเตะไปแล้ว 37 จากทั้งหมด 38 นัด โดยสามารถชนะยักษ์ใหญ่ทั้ง ครูเซโร่ (3-2), ฟลูมิเนนเซ่ (2-1) โบตาโฟโก้ (2-0) และ เซา เปาโล (2-0) เป็นทีมที่เล่นนอกบ้านดีที่สุดอันดับ 5 ขณะที่ บรูโน่ รังเกล หัวหอกของพวกเขา ซัดไปแล้ว 10 ประตู ติดกลุ่มท็อปเทนดาวซัลโวสูงสุดของลีก
ในอดีต เปาโล ริงค์ หัวหอกบราซิเลียน ที่โอนสัญชาติเพื่อเล่นให้กับทีมชาติเยอรมัน (1998-2000) เคยอยู่ ชาเปโคเอนเซ่ เมื่อปี 1994 ก่อนจะไปดังกับ เลเวอร์คูเซ่น ส่วน วิตอริโน่ ฮิลตัน อดีตกองหลัง โอลิมปิก มาร์กเซย (2008-11) กับ โรมูโล่ ซึ่งเคยเล่นให้ ยูเวนตุส (2014-15) ก็เป็นศิษย์เก่าเช่นกัน แต่ตอนนี้พวกเขาเหลือนักเตะ 14 คนรอดชีวิต เพราะไม่ได้เดินทางไปกับเครื่องลำดังกล่าว คือ ราฟาเอล ลิม่า กัปตันทีม, เดแมร์สัน, ลูกัส ลุยซ์ สกาลอน, เกลาดิโอ วิงค์, ไกซินญ่า, มาร์ตินุชโช่, ลูเรนซี่, อันเดร, อีโยรัน, เนเนม, มัวเซส, ลูกัส มิเนยโร่, มาร์เซโล่ และ นิวัลโด้
ส่วนวันเกิดโศกนาฏกรรมนั้น ชาเปโคเอนเซ่ จะไปแข่งขันรายการ โกปา ซูดอเมริกาน่า เป็นรายการชิงแชมป์ระดับสโมสรของอเมริกาใต้ที่สำคัญเป็นอันดับ 2 รองจาก โกปา ลิเบร์ตาดอเรส (ซึ่งเปรียบไปก็เหมือน ยูโรปาลีก) โดยแชมป์รายการนี้จะได้สิทธิ์แข่ง โกปา ลิเบร์ตาดอเรส ฤดูกาลถัดไป โดย ชาเปคเอนเซ่ ซึ่งลงชิงชัยรายการนี้ครั้งแรก ต้องลงเตะตั้งแต่รอบคัดเลือก รอบ 2 สามารถล้มยักษ์อย่าง อินเดเพนเดียนเต้ แชมป์ลีกอาร์เจนตินา 16 สมัย ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย จากการดวลจุดโทษ เดินทางไปเตะที่ โคลอมเบีย มาแล้ว ในการเตะรอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก ที่แพ้ จูเนียร์ บาร์รันกีย่า 0-1 ก่อนกลับมาชนะที่บราซิล 3-0
ขณะที่รอบตัดเชือก ชาเปโคเอนเซ่ ยังเชือด ซาน ลอเรนโซ่ แชมป์โกปา ลิเบร์ตาดอเรส 2014 ด้วยการบุกไปเจ๊า 1-1 ในแมตช์แรกถึงอาร์เจนตินา และกลับมายันเสมอ 0-0 ที่บ้านตัวเอง จนได้เข้าชิงกับ แอตเลติโก นาซิอองนาล แต่สโมสรดังโคลอมเบียเสนอให้ สหพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ (คอนเมบอล) ยกแชมป์ โกปา ซุดอเมริกาน่า 2016 ให้กับ ชาเปโคเอนเซ่ ไปเลย เพื่อจะได้ถูกจดจำตลอดไป
นับเป็นการจบเทพนิยายอันแสนเศร้าของ ชาเปโคเอนเซ่ ซึ่งถูกเปรียบให้เป็น เลสเตอร์ ซิตี้ ของบราซิล
แต่ปรากฏการณ์ และเรื่องราวของพวกเขา จะเป็นที่จดจำไปอีกยาวนานอย่างแน่นอน

————เมทัล มิึคกี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น