สธ.ลำพูนชี้ อันตรายจากแร่ใยหิน

thumbnail_s9270446

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำพูน รณรงค์ให้ประชาชนเกิดการตื่นตัวและตระหนักถึงอันตรายจากแร่ใยหิน ซึ่งเป็นภัยคุกคาม สาเหตุหนึ่งของมะเร็งปอดที่เป็นอันตรายถึงชีวิต วันนี้ (7 ธันวาคม 2559) ที่ห้องประชุมสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 1 ต.ต้นธง อ.เมือง จ.ลำพูน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำพูน โดยการสนับสนุนจากแผนงานพัฒนาวิชาการและกลไกคุ้มครองผู้บริโภค คณะเภสัชศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (คคส.) จัดประชุมสร้างเครือข่ายป้องกันภัยจากใยแร่หินจังหวัดลำพูน “หละปูนฮ่วมใจ๋ ไร้แร่ใยหิน” โดยมี นายมนัส อํ่าทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานในพิธี มีหัวหน้าส่วนราชการ ทั้งภาครัฐและเอกชน นายกเทศมนตรีเทศบาลทุกแห่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) นักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่สนใจเข้าร่วม จำนวน 300 คน ในการประชุมครั้งนี้มีวิทยากรจากหลายหน่วยงานมาให้ความรู้ แก่ผู้ร่วมงานนอกจากนี้ยังมีการจัดให้บริการตรวจสุขภาพปอด จากโรงพยาบาลลำพูน การจัดแสดงสินค้าวัสดุก่อสร้างที่ปลอดแร่ใยหิน จากบริษัทเอสซีจี (SCG) จำกัด และ บริษัทดูโฮม สาขาลำพูน และมีกลุ่มลำพูนออร์แกนิค Love Poon Poon มาจัดจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ร่วมด้วย
แร่ใยหินเป็นสารที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ คนที่สูดเอาแร่ใยหินเข้าไปในร่างกาย อาจเกิดมะเร็งปอด มะเร็งเยื่อหุ้มปอด ปัจจุบันยังคงมีการนำแร่ใยหินมาใช้เป็นวัสดุทำกระเบื้องมุงหลังคา แม้ว่าหลายบริษัทที่ผลิตกระเบื้องมุงหลังคา จะเล็งเห็นปัญหาและยกเลิกการใช้แร่ใยหิน หันมาใช้วัสดุอื่นมาทดแทนแล้ว แต่ยังมีวัสดุและอุปกรณ์อีกหลายอย่างที่มีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบอยู่ภายใน เช่น ผ้าเบรก ผ้าคลัทช์ ฝ้าเพดาน ผนังกั้นห้อง เครื่องปิ้งขนมปัง ไดร์เป่าผม ปลั๊กไฟ เป็นต้น ด้วยภัยคุกคามจากแร่ใยหินที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพมนุษย์ ทำให้ประเทศที่พัฒนาแล้วกว่า 50 ประเทศในโลก ได้ประกาศห้ามมิให้การผลิต การนำเข้า และการส่งออกแร่ใยหิน รวมทั้งสินค้าที่มีส่วนผสมของแร่ใยหิน รวมถึงกำหนดมาตรการป้องกันความเสี่ยงควบคู่กันด้วย ในประเทศไทย มติสมัชชาสุขภาพ ปี พ.ศ. 2553 ได้เสนอให้รัฐบาลยกเลิกการนำเข้าแร่ใยหินเข้ามาในประเทศไทย และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้มีการยกเลิกการใช้แร่ใยหิน เมื่อปี พ.ศ.2554 แต่มติดังกล่าวยังไม่ได้ถูกนำไปดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

ร่วมแสดงความคิดเห็น