ล่ามอดไม้ โค่นมะค่ายักษ์ สมัยพระนเรศวร อายุ 300 ปี-ลอบแปรรูป โจ๋งครึ่มกลางป่า จ.แพร่ ส่งนายทุนกระเป๋าหนัก

โค่นมะค่ายักษ์……เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ชุดพยัคฆ์ไพร สนธิกำลังสำรวจป่าในเขตป่าต้นน้ำแม่น้ำยม พื้นที่ อ.สอง จ.แพร่ และ อ.เวียงสา จ.น่าน เจอต้นมะค่าโมงยักษ์และต้นประดู่ อายุกว่า 300 ปี สมัยพระนเรศวรมหาราช ถูกแปรรูปสดๆ ร้อนๆ กว่า 60 แผ่น ขณะที่แก๊งลักลอบตัดไม้ไหวตัวทัน หลบหนีไปได้ก่อน คาดเตรียมแปรรูปส่งนายทุน

ชุดพยัคฆ์ไพร สนธิกำลังสำรวจป่าเมืองแพร่ ตะลึงเจอต้นมะค่าโมงยักษ์และต้นประดู่ อายุกว่า 300 ปี สมัยพระนเรศวรมหาราช ถูกแปรรูปสดๆ ร้อนๆ กว่า 60 แผ่น ขณะที่มอดไม้ไหวตัวทันเผ่นไปได้ก่อน คาดเตรียมแปรรูปส่งนายทุนกระเป๋าหนัก

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2559 เวลาประมาณ 07.00 น. นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ พร้อมด้วย นายศักรินทร์ ปัญญาใจ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและรักษาป่าภาคเหนือ, นายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและควบคุมไฟป่า, นายชัยรัตน์ แสงปาน ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ที่ 3 สาขาแพร่, นายมนตรี พลภักดิ์ดี หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า น้ำสา ได้สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ นำชุดปฏิบัติการตรวจค้นหาเส้นทางของขบวนการลอบตัดไม้ ในเขตป่าต้นน้ำแม่น้ำยม พื้นที่ อ.สอง จ.แพร่ และ อ.เวียงสา จ.น่าน ซึ่งขบวนการลักลอบตัดไม้จะใช้เส้นทางขนย้ายไม้ผ่านทางหมู่บ้านบ่อหอย ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน มีชาวบ้านในพื้นที่ร่วมขบวนการอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. จนท.ชุดดังกล่าวได้ตรวจสอบพบเส้นทางของขบวนการลักลอบตัดไม้เพิ่มอีกหนึ่งเส้นทาง โดยลักษณะของเส้นทางคือมีการตัดเจาะตัดไม้ทางเข้าไปในป่าลึกเป็นอุโมงค์ ซึ่งไม่สามารถตรวจพบได้ทางอากาศยานและการแปลภาพถ่ายทางอากาศได้ และด้านหน้าของเส้นทางมีการอำพรางไว้ด้วยการติดป้ายห้ามชาวบ้านเข้าไปเก็บหาของป่า เพื่อให้เห็นเป็นเพียงคอกเลี้ยงวัวของชาวบ้านลักษณะแบบเดียวกับเส้นทางที่เพิ่งตัดทำลายไปเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา แต่เมื่อชุดปฏิบัติการขยายผลตรวจสอบลึกเข้าไปในเส้นทางที่แอบเจาะทางเป็นอุโมงค์เข้าไปในป่าลึก พบจุดการตัดไม้ชิงชันพร้อมของกลางไม้ชิงชันเพิ่มจำนวน 2 จุด

ภายหลังเมื่อขยายผลเดินทางเท้าลึกเข้าไปในเส้นทางที่เป็นป่าที่ยังมีสภาพที่สมบูรณ์ในป่าลึก ถึงกับตะลึงเมื่อพบจุดพักไม้ 2 จุด เมื่อตรวจบริเวณรอบๆ ดังกล่าวพบต้นมะค่าโมงยักษ์และต้นประดู่ ขนาดใหญ่หลายคนโอบ ถูกแปรรูปในสภาพสด จำนวน 60 แผ่น ขนาด หน้าตั้งประมาณ 2.50 -3 เมตร ถูกตัดแปรรูปได้ไม่นานนักและถูกซุกซ่อนไว้ด้วยวัสดุปิดคลุมอย่างดีเพื่อรักษาเนื้อไม้และป้องกันการตรวจพบทางอากาศยาน

ด้านนายศักดิ์รินทร์ ปัญญาใจ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและรักษาป่าภาคเหนือ กล่าวว่าหลังตรวจสอบขนาด และ อายุไม้ดังกล่าวคร่าวๆ พบว่าเป็นต้นมะค่าโมงที่มีขนาดใหญ่กว่าต้นสักใหญ่ที่สุดในโลกที่จังหวัดอุตรดิตถ์เสียอีก อายุน่าจะมากกว่า 300 ปี และ ตรวจสอบพบว่าส่วนท่อนโคนของลำต้นมะค่าโมงยักษ์ได้ถูกขบวนการขนย้ายออกไปแล้ว
นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ กล่าวว่า ตั้งแต่รับราชการมา 30 ปี ไม่เคยพบต้นมะค่าโมงที่มีขนาดใหญ่และสมบูรณ์ในป่าธรรมชาติแบบนี้มาก่อน เพราะในช่วงเวลาหนึ่งก่อนปี 2525 ประเทศไทยเรายังให้มีการสัมปทานป่าไม้ทั่วประเทศ มีการทำไม้ออกและไม้มะค่าขนาดใหญ่ก็จะถูกตัดออกไปสำหรับนำไปทำเฟอร์นิเจอร์ของกลุ่มคนกระเป๋าหนัก มีการประกวดประชันกันถ้าใครได้ครอบครองไม้หน้าใหญ่ บางรายเหมาซื้อไว้ประดับบารมีเป็นคันรถสิบล้อ ทำให้ต้นมะค่าโมงขนาดใหญ่ในป่าเมืองไทยสูญหายไป จะหาดูได้ก็ที่เป็นเฟอร์นิเจอร์แล้วตามโรงแรม รีสอร์ท ตามวัดวาอาราม หรือ ตามบ้านผู้มีอันจะกิน บางแผ่นเมื่อขนย้ายถึงมือผู้บริโภค ราคาสูงลิบลิ่วถึงแผ่นละหลายแสนบาท เมื่อประมาณการแล้วต้นมะค่าโมงยักษ์ต้นนี้ มูลค่าเมื่อขบวนการขนส่งถึงปลายทางแล้วมูลค่าหลายล้านบาท หากเทียบเคียงอายุแล้วมะค่าโมงยักษ์ต้นนี้น่าจะงอกเกิดขึ้นตอนช่วงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ช่วงกรุงศรีอยุธยาเมื่อ 3 ร้อยกว่าปีมาแล้ว เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ซึ่งเส้นทางนี้ต้องดำเนินการตัดทำลายเพื่อสกัดกั้นขบวนการให้ได้

ด้านนายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้สั่งการให้นายอรรถพล เจริญชันษา ดำเนินการทำแผนงานเชิงรุกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันรักษาป่า ในพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ ที่เป็นลักษณะดังกล่าวโดยเร่งด่วนและการปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และ ภายหลังที่ลงตรวจติดตามการปฏิบัติการของชุดปฏิบัติการๆ ครั้งนี้ทำให้ทราบถึงสภาพปัญหาข้อจำกัดของการปฏิบัติการดูแลพื้นที่ป่าไม้ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ หลายประเด็นเช่นข้อจำกัดของการเดินทางด้วยยานพาหนะของเจ้าหน้าที่ ที่ไม่ทัดเทียมของกลุ่มขบวนการ

ร่วมแสดงความคิดเห็น