ช่วงค่ำวันที่ 23 ธ.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในช่วงนี้ส่งผลให้ประชาชนในหลายพื้นที่เริ่มหันมาสวมใส่เสื้อกันหนาวกันมากขึ้น เนื่องจากต้องทนกับอากาศที่หนาวเย็น โดยเฉพาะในช่วงเช้าและช่วงค่ำ ขณะเดียวกัน จากการลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศการซื้อขายเสื้อกันหนาว และเครื่องนุ่งห่มในช่วงนี้ของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าพบว่า บรรยากาศเริ่มกลับมาคึกคัก มีประชาชนทั้งกลุ่มวัยทำงานและกลุ่มวัยรุ่นเริ่มให้ความสนใจ ออกมาจับจ่ายซื้อเสื้อกันหนาวกันมากขึ้นกว่าช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นขึ้นอีก ในช่วงประมาณต้นเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ รวมทั้งยังมีนักท่องเที่ยวบางรายที่เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ หาซื้อเสื้อกันหนาวหนาๆ เพื่อเตรียมที่จะเดินทางขึ้นไปท่องเที่ยวบนยอดดอย และค้างแรม ซึ่งสภาพอากาศนั้นหนาวเย็นต่ำ กว่า 5 องศา อย่างแน่นอนในช่วงนี้
โดยทางผู้สื่อข่าวได้ทำการสำรวจที่บริเวณภายในตลาดวโรรส (กาดหลวง) ซึ่งถือเป็นตลาดจับจ่ายซื้อของขนาดใหญ่ภายในตัวเมืองเชียงใหม่ พบว่ามีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่อาศัยช่วงสภาพอากาศหนาวเย็นในช่วงนี้ นำเสื้อกันหนาวทั้งเสื้อกันหนาวสภาพใหม่เอี่ยม และเสื้อกันหนาวมือสอง มาวางขายกันหลายร้านจนเต็นพื้นที่ทางเดินภายในตลาด นอกจากนี้ยังพบว่าสินค้าเสื้อกันหนาวที่นำมาขายนั้น ส่วนใหญ่มีราคาอยู่ตั้งแต่ 100 บาท ไปจนถึง 300 บาท โดยเสื้อกันหนาวที่นำมาวางขายนั้นมีทั้งเสื้อหนัง เสื้อไหมพรม รวมไปถึงเสื้อกันหนาวสีสันสวยงาม และลายการ์ตูนที่เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ
ส่วนราคานั้นก็จะแตกต่างกันออกไป หากเป็นเสื้อกันหนาวของเด็กเล็ก ราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 50-100 บาท โดยขึ้นอยู่กับคุณภาพของเนื้อผ้า ส่วนเสื้อกันหนาวสำหรับกลุ่มวัยรุ่น ก็จะมีราคาแพงขึ้นมาหน่อยอยู่ที่ประมาณ 200-300 บาทขึ้นไป ซึ่งหลังจากที่นำมาวางขายก็พบว่ามีประชาชนทั้งหญิง-ชาย ต่างมาเลือกซื้อกันเป็นจำนวนมาก บางรายถึงกับซื้อไป 2-3 ตัวในครั้งเดียว
ทั้งนี้จากการสอบถาม นางบุญศรี คำภีระ อายุ 54 ปี ชาว อ.ดอยสะเก็ด ซึ่งเป็นแม่ค้าที่นำเสื้อกันหนาวมาวางขายภายในตลาดแห่งนี้ทุกปีในช่วงฤดูหนาว เล่าว่า ได้เริ่มนำเสื้อกันหนาวทั้งสภาพใหม่เอี่ยมและเสื้อกันหนาวมือสองมาวางขายในตลาดแห่งนี้ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยในช่วงแรกๆ จะเป็นเสื้อกันหนาวแบบธรรมดาที่วางขายในราคตัวละ 60-100 บาท แต่พอประมาณช่วงกลางๆ เดือนพฤศจิกายน ที่สภาพอากาศเริ่มหนาวเย็นลงก็ได้นำเสื้อโค้ทที่มีความหนากว่าเสื้อกันหนาวปกติมาวางขาย โดยจะขายในราคาตัวละ 280 บาท ทุกสี ทุกชิ้น ซึ่งจะนำมาวางกองให้ลูกค้าได้เลือกซื้อกันเอง แล้วแต่ใครจะถูกใจแบบไหน
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับปีก่อนนั้น ตอนนี้ยังขายได้น้อยกว่ามาก ซึ่งคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากสภาพอากาศที่ยังไม่หนาวเย็นเท่าที่ควร ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านนมา ทำให้ประชาชนไม่ค่อยกล้าที่จะมาจับจ่ายซื้อของ ซึ่งตนก็คาดหวังว่าในช่วงปีใหม่นี้ น่าจะขายดีขึ้นกว่าช่วงนี้ แต่ทางตนก็จะไม่ปรับราคาขึ้นแต่อย่างใดและยังคงขายในราคาที่วางขายอย่างเดิมในช่วงนี้ ขณะเดียวกันช่วงนี้พบว่าเสื้อผ้าที่มีลายสวยงามหรือเสื้อกันหนาวแฟร์ชั่น จะขายดีมากเนื่องจากมีกลุ่มวัยรุ่นนิยมซื้อไปสวมใส่กันทั้งเสื้อใหม่และเสื้อมือสอง ส่วนมากลูกค้าที่เป็นกลุ่มวัยทำงานมาหาซื้อเสื้อกันหนาวไปใส่เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่ราคาเสื้อกันหนาวที่นำมาวางขายที่ร้านราคาก็จะอยู่ที่ 100 บาท ไปจนถึงเสื้อที่มีเนื้อผ้าดีหน่อย ราคาก็จะประมาณ 200 บาทขึ้นไป
โดยเจ้าของร้านขายเสื้อกันหนาวบอกกับทางผู้สื่อข่าวอีกว่า ช่วงสัปดาห์นี้เป็นช่วงที่ยังพอขายได้ แต่ก็ยังไม่ถึงกับคึกคักมาก และยังพอมีกำไรอยู่บ้าง โดยในส่วนของเสื้อโค้ท ราคาตัวละ 280 บาทนั้น จากการที่วางขายมาตลอดช่วงนี้ก็พบว่าขายได้วันละไม่ต่ำกว่า 5 ตัว และวันนี้โชคดีมีคนมาเดินตลาดเยอะหน่อย ก็อาจจะขายได้ถึง 10 ตัว และเมื่อรวมกับเสื้อกันหนาวแบบธรรมดาที่วางขายด้วยนั้น ก็มีรายได้วันละประมาณ 2,000-3,000 ส่วนเสื้อผ้าที่นำมาวางขายหากเป็นเสื้อใหม่ก็จะไปรับมาจากโรงงาน แต่ถ้าเป็นเสื้อมือสองก็จะไปรับมาจากตลาดโรงเกลือ ซึ่งก็ไม่ได้เก็งกำไรสูงจนเกินไป เพื่อให้ลูกค้าทั่วไปสามารถซื้อไปสวมใส่และยังสามารถต่อรองราคาได้ หากลดได้ก็จะลด แต่ถ้าลดไม่ได้ก็จะบอกเหตุผลให้ลูกค้าฟัง ซึ่งหากลูกค้าพอใจเขาก็จะซื้อในราคาที่ตกลงกัน
สำหรับเสื้อกันหนาวมือสองนั้น ทางแพทย์สาธารณสุขก็ได้มีการแจ้งเตือนในเรื่องของการป้องกัน ก่อนจะนำมาสวมใส่แล้วก่อนหน้านี้ เนื่องจากผลสำรวจนั้น พบว่าร้านค้าส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยได้นำเสื้อผ้ามือสองมาทำความสะอาด ก่อนวางจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค ดังนั้น ประชาชนที่ซื้อเสื้อผ้ามือสองมาใช้ จึงมีความเสี่ยงที่อาจจะติดเชื้อโรคต่างๆ ที่มากับเสื้อกันหนาวมือสองได้ แต่ก็ยังสามารถป้องกันได้ด้วยวิธีการทำความสะอาดก่อนใช้หลายๆ ครั้ง ด้วยการนำมาต้มในน้ำเดือดจัดและซักด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้า ก่อนที่จะนำไปตากแดดจัด เพื่อให้แสงอุลตร้าไวโอเล็ตช่วยฆ่าเชื้อโรคอีกครั้งหนึ่ง ก็จะสามารถทำให้ผู้บริโภคปลอดภัยและไม่ติดเชื้อโรคติดต่อ ที่อาจมากับเสื้อผ้ามือสองได้
ร่วมแสดงความคิดเห็น