เชียงใหม่วางมาตรการควบคุมเข้มข้น ตรวจจับ ผู้ฝ่าฝืนกฎหมายจราจร – ขับรถเร็ว – เมาแล้วขับ เริ่มก่อนช่วงเฝ้าระวัง 7 วันอันตราย รณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” ตั้งเป้าลดจำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ และเสียชีวิตให้น้อยลงกว่าปี 2559 ที่เชียงใหม่เคยเป็นแชมป์ระดับประเทศ
นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงใหม่ ได้สรุปสถิติการเกิดอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตในเดือนตุลาคม 2559 สูงถึง 74 ราย มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากช่วงเดือนมกราคม-กันยายน 2559 ที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 30 – 50 ราย จากการวิเคราะห์การเกิดอุบัติเหตุ พบว่า มักจะเกิดในถนนที่สามารถใช้ความเร็วได้ และเป็นทางตรงเป็นหลัก มากถึง 130 ครั้ง ทางแยก 26 ครั้ง ทางโค้ง 20 ครั้ง อื่นๆ 6 ครั้ง พฤติกรรมของผู้ขับขี่ในเรื่อง ตัดหน้ากระชั้นชิด ใช้ความเร็วสูง เมาแล้วขับ และไม่สวมหมวกนิรภัย ยานพาหนะที่ใช้ จะเป็นรถจักรยานยนต์ 171 ครั้ง นอกนั้น เป็นรถกระบะ 9 คัน รถยนต์นั่ง 5 คัน ส่วนถนนที่เกิดอุบัติเหตุ ทางหลวงแผ่นดิน 81 ครั้ง ทางหลวงชนบท 59 ครั้ง ถนนใน อบต./ หมู่บ้าน 53 ครั้ง ถนนเทศบาล 9 ครั้ง
จังหวัดเชียงใหม่จึงได้กำหนดเป้าหมายให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางสัญจรอย่างปลอดภัย ให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ และเสียชีวิตลดน้อยลงกว่าปี 2559 ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่มีตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุและผู้บาดเจ็บสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ และมีผู้เสียชีวิตอยู่ในอันดับที่ 16 ของประเทศ โดยได้เร่งรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” ในช่วงก่อนการเฝ้าระวัง ระหว่างวันที่ 15 – 28 ธันวาคม 2559 ส่วนช่วงควบคุมเข้มข้นเฝ้าระวัง 7 วัน อันตราย ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2559 – 4 มกราคม 2560 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเข้มงวดและจริงจัง
“ในระดับชุมชนหมู่บ้าน ผู้นำชุมชนทั้งท้องที่ ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูกบ้าน ผมได้กำชับไปทางนายอำเภอทุกอำเภอ ถ้ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน พื้นที่ใดประสบอุบัติเหตุในห้วงปีใหม่ ที่สาเหตุมาจากความมึนเมา ดื่มสุรา ให้นายอำเภอรายงานมาที่ผมโดยตรง เพราะเป็นผู้นำต้องเป็นตัวอย่างที่ดี เมาไม่ขับ สวมหมวกกันน็อค โดยจะให้ปกครองจังหวัดหนังสือข้อสั่งการลงไปให้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดรวมถึงมาตรการที่จะช่วยสนับสนุนทุกฝ่ายในการป้องกันอุบัติเหตุช่วงปีใหม่” นายพุฒิพงศ์กล่าว
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ในปีนี้ จังหวัดเชียงใหม่ ยังจะได้เข้มงวดกับผู้ที่อยู่ระหว่างฟ้องดำเนินคดีในข้อหารับรถเร็วเกิดกำหนด เมาสุรา ทั้งที่อยู่ระหว่างถูกคุมความประพฤติ โดยสำนักคุมประพฤติจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1,500 กว่าราย และผู้ที่เคยถูกศาลสั่งปรับไปแล้ว โดยส่งหนังสือแจ้งเตือนไปที่บ้าน หากกระทำผิดซ้ำอีกจะไม่รอลงอาญา และขอความกรุณาจากอัยการเสนอให้ศาลพิจารณาโทษสูงสุด เพื่อให้เข็ดหลาบในการใช้ความเร็ว เพราะปีนี้จังหวัดเชียงใหม่ถือว่าความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวเชียงใหม่ล้วนต้องการความปลอดภัย
นายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการประชุมเตรียมความพร้อมของหน่วยงานทหาร ที่ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมหารือ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้มีตั้งด่านพิเศษเพื่อชะลอความเร็วของรถ 6 ด่าน บริเวณทางเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ ที่อำเภอแม่ริม พร้าว ดอยสะเก็ด สันกำแพง ดอยหล่อ และถนนจากลำปางมาเชียงใหม่ และจะพิจารณานำคำสั่ง คสช.ที่ 46/2558 กลับมาใช้อีกในปีนี้
ในส่วนของตำรวจจะได้มีการออกประกาศเจ้าพนักงานจราจรจังหวัดเชียงใหม่ กำหนดระยะเวลาขึ้น และลงของรถโดยสารขนาดใหญ่ และรถบัส 2 ชั้น ห้ามขึ้นดอยเป็นการชั่วคราว ประกอบด้วย ดอยสุเทพ ดอยอ่างขาง ดอยคำ และดอยอินทนนท์ ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2559 – 4 มกราคม 2560 ขณะเดียวกัน สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่จัดรถโมบายออกไปสุ่มตรวจตรวจจับความเร็วรถบรรทุกและรถโดยสารขนาด ใหญ่ตาม พรบ.จราจร
นอกจากนี้ ในจุดเสี่ยงเส้นทางหลวง 118 (ดอยนางแก้ว-ดอยสะเก็ด) ตามแผนจะติดตั้งกล้องจับความเร็วอัตโนมัติ ทั้งหมด 5 จุด ตอนนี้ดำเนินการไปแล้ว 3 จุด และยังมีจุดอื่นที่ตำรวจทางหลวงใช้รถโมบายเคลื่อนที่สุ่มตรวจเป็นระยะๆ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้ตั้งเป้าหมายลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างน้อยไม่เกิดอันดับที่ 20 เพื่อหนีการเป็นแชมป์ด้านการเกิดอุบัติเหตุของประเทศจากปีที่ผ่านมา
ร่วมแสดงความคิดเห็น