ก้าวสู่ความสำเร็จจากเมล็ดงาสู่เม็ดเงิน

ก้าวสู่ความสำเร็จจากเมล็ดงาสู่เม็ดเงินหวังสร้างรายได้ให้มช. กว่า 30 ล้านบาท
อาจารย์ประจำภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค้นคว้า สารเซซามินจากงาดำ ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง ที่เป็นต้นกำเนิดของโรคต่างๆ ปัจจุบันได้ทำการจดสิทธิบัตรไปแล้วทั้งหมด 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย สหรัฐอเมริกา และมาเลเซีย ในอนาคตพร้อมก้าวสู่เชิงพาณิชย์สร้างรายได้กว่า 30 ล้านบาท เร่งสนับสนุนทุนวิจัย สามารถนำ นวัตกรรม งานวิจัย มาผลิตและสร้างรายได้ ตอบแทนให้กับมหาวิทยาลัยในอนาคต

ศ. ดร. ปรัชญา คงทวีเลิศหน่วยวิจัยที่มีความเป็นเลิศทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อ และเซลล์ต้นกำเนิดภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับสารสกัดงาดำ “เซซามิน” เปิดเผยว่า ตนได้เล็งเห็นถึงการใช้โภชนบำบัดเป็นอย่างมาก คือการทานอาหารให้เป็นยาการใช้อาหารช่วยในการรักษาโรคโดยการดัดแปลงอาหารธรรมดาให้เป็นอาหารที่เหมาะสมกับโรคที่เป็นอยู่จึงได้ทำการศึกษาวิจัยงาดำขึ้น พบว่า งาดำมีสารเซซามิน ที่ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งและช่วยฟื้นฟูสภาพเซลล์ที่เสื่อมไปให้กลับมาทำงานเป็นปกติได้ นอกจากนี้ยังพบว่าเซซามินช่วยทำให้ แคลเซียมประสานกับกระดูกเพิ่มมากขึ้น สามารถป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อม โรคกระดูกพรุน และยังสามารถปกป้องเซลล์ประสาทที่เสื่อมสภาพให้สามารถกลับมาทำงานเป็นปกติได้

สรุปได้ว่าสารสกัดเซซามินจากงาดำ สามารถต้านเซลล์ต่างๆที่เสื่อมสภาพแล้ว ยังสามารถฟื้นฟูและป้องกันเซลล์ที่ถูกทำลายลงได้ทั้งนี้เริ่มทำการศึกษาวิจัยตั้งแต่ปี 2553 ได้พัฒนาสารเซซามินจากงาดำในรูปแบบแคปซูลอาหารเสริม และให้ผู้ป่วยโรคสมองและโรคมะเร็งทานสารเซซามินจากงาดำแคปซูลควบคู่กับยาที่แพทย์สั่ง พบว่าผ่านไป 6 เดือน ผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นเจ้าชายนิทรา พูดไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ กลับมาพูดได้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยคีโม มีอาการผมร่วงหมด เมื่อทานสารเซซามินจากงาดำ แคปซูลควบคู่ยาที่ทานปกติ พบว่าผมได้งอกขึ้นเป็นปกติและผู้ป่วยอีกหลายรายที่ได้ทำการทดสอบ ด้วยวิธีการทานสารเซซามินจากงาดำ แคปซูลควบคู่ไปกับยาที่รักษา กลับได้ผลเป็นปกติถึง 90 เปอร์เซ็นต์

ที่ผ่านมา ได้รับทุนสนับสนุนจาก “ทุนวิจัยรางวัลเซเรบอส” (Cerebos Awards) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาโครงการวิจัยนวัตกรรมทางเคมี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะแพทยศาสตร์จนกระทั่งในปี 2559 นี้ มีผู้ป่วยทั่วโลกให้ความสนใจสารเซซามิน จากงาดำที่สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ ซึ่งปัจจุบันได้ทำการจดสิทธิบัตรไปแล้วทั้งหมด 3 ประเทศเนื่องจากเป็นงานวิจัยที่จับต้องได้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง และเป็นประโยชน์กับคนทั่วโลก สร้างรายได้ตอบแทนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กว่า 7 ล้านบาท คาดว่าปี 2564 จะสร้างรายได้เข้ามหาวิทยาลัยได้ถึง 30 ล้านบาท

ศ. ดร. ปรัชญา กล่าวว่า “หวังว่ามหาวิทยาลัยต้องลดการพึ่งพารายได้จากการเรียนการสอนลงไปแต่เน้นไปที่การทำงานวิจัยที่นำไปสู่การพัฒนาประเทศและสามารถนำนวัตกรรม งานวิจัย มาผลิตและสร้างรายได้ มหาวิทยาลัยต้องเน้นรายได้จากการวิจัยที่สร้างนวัตกรรมและนำไปสู่เชิงพาณิชย์ ออกมาทำใช้ได้จริง ส่งออกได้จริง ลดต้นทุนได้จริง นำพาประเทศก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งรายได้สำคัญของมหาวิทยาลัยด้วย มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะในระดับบัณฑิตศึกษาต้องรับนักศึกษาให้ลดลงแต่มีคุณภาพเข้มข้น ขณะเดียวกันอาจารย์มหาวิทยาลัยต้องหาเงินทุนวิจัยได้มากจากภาคเอกชนเพื่อนำมาจ้างนักศึกษาระดับบัณฑิต..”

ร่วมแสดงความคิดเห็น