12 ปี เหยื่อสึนามิได้กลับบ้านเกิดแล้ว สพฐ. นำอัฐิสาวฝางส่งคืนญาติ เนื่องจากมีฐานะยากจน ไม่สามารถรับศพกลับไปได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 59 รถยนต์ของสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน นำกล่องบรรจุอัฐิของ น.ส.นงคราญ คำฉาย ผู้เสียชีวิตจากเหตุสึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 หรือเมื่อ 12 ปีที่ผ่านมา เตรียมเดินทางไปยัง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เพื่อมอบให้ญาติ โดยมี พล.ต.ต.สันต์ สุขวัจน์ ผบก.ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5 ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามูข รรท.ผบช.สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ให้นำอัฐิของศพผู้เสียชีวิตจากเหตุสึนามิ ที่ญาติไม่มีทุนทรัพย์ส่งกลับภูมิลำเนา

พล.ต.ต.สันต์ สุขวัจน์ ผบก.ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5 กล่าวว่า มีศพที่ได้รับการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลเสร็จแล้วจำนวน 43 ศพ แยกเป็นศพชาวไทย 18 ศพ และพม่า 25 ศพ โดยศพเหล่านี้รอให้ญาติมารับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามภูมิลำ เนา ซึ่งสำนักงานพิสูจน์หลักฐานได้ประสานไปยังญาติของศพเหล่านี้แล้ว โดยสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน และจิตอาสาพร้อมจะอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือการนำศพผู้เสียชีวิต กลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ซึ่งญาติสามารถติดต่อได้ที่ สภ.ตะกั่วป่า จ.พังงา 076-421113

สำหรับอัฐิของ น.ส.นงคราญ คำฉาย ถูกขุดขึ้นมาพร้อมกับผู้เสียชีวิตอื่นๆรวม 5 ศพ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา โดย 4 ศพนั้น มีญาติติดต่อมาขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลแล้ว แต่ในส่วนของศพ น.ส.นงคราญ ญาติแจ้งว่าไม่สะดวกเดินทางมารับศพเพราะมีฐานะยากจน รรท.ผบช. สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน จึงบริจาคเงินส่วนตัวจำนวน 1 หมื่นบาทช่วยเหลือในการขุดศพ และจัดการฌาปนกิจและนำอัฐิส่งไปให้ญาติที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

ทั้งนี้ศพที่ได้รับการพิสูจน์ทราบแล้ว 43 ศพ เจ้าหน้าที่มีความประสงค์จะส่งทั้งหมดกลับไปยังภูมิลำเนา จึงอยากขอความช่วยเหลือจากผู้มีจิตศัทธาร่วมบริจาคปัจจัยช่วยเหลือ ค่าขุดศพ ค่าซื้อโรงศพ และค่าเผา ร่วมทั้งค่าขนส่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่มีความเชื่อว่า หากนำศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดส่งกลับภูมิลำเนาได้ จะทำให้วิญญาณไปสู่สุคติ และทำให้ญาติได้คลายความกังวลและความทุกข์โศก

อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีศพเหยื่อสึนามิ ที่ไม่สามารถพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลได้กว่า 369 ราย เนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงข้อมูล และไม่สามารถติดต่อญาติให้มาตรวจสอบได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น