“ปวิณ” รับเอง “ภาพรวมไม่เป็นที่น่าพอใจ” จำนวนครั้งอุบัติเหตุ และยอดผู้ได้รับบาดเจ็บเชียงใหม่ยังครองแชมป์ของประเทศ ส่วนยอดตายทะลุสูงกว่าปีใหม่ 2559 แล้ว 2 ราย ชี้หลายรายเป็นคนในชุมชนที่กลับจากทำงานต่างจังหวัดต้องสังเวยชีวิต คาดไม่ชินทางและจากบ้านไปหลายปี ย้ำจุดเริ่มต้นการป้องกันอุบัติเหตุที่ดีต้องมาจากครอบครัวและชุมชน พบหลายรายไม่มีประกัน พ.ร.บ. เตรียมสร้างความเข้าใจถึงประโยชน์ เผยเครื่องตรวจจับความเร็วถนนดอยสะเก็ดถึงดอยนางแก้วประสบความสำเร็จดีเยี่ยมอุบัติเหตุเกิดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ย้ำด่านชุมชนมีความสำคัญเตรียมผลัดดันให้มีปัจจัยมา สนับสนุน เตือนช่วงท้ายเทศกาลในท้องถิ่นฉลองขอให้งดออกจากพื้นที่
วันที่ 2 ม.ค.60 ที่ห้องปฏิบัติการจังหวัดเชียงใหม่ (POC) ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายกฤษณ์ ธนาวณิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ปภ.เชียงใหม่ ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ตำรวจ ทหาร ฝ่าย ปกครอง แขวงทางหลวงเชียงใหม่ แขวงทางหลวงชนบทเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ประจำปี 2560 ที่กรุงเทพมหานคร โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมฯ พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง เพื่อทบทวนและซักซ้อมถึงมาตรการปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในห้วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ที่ผ่านมาและการเฝ้าระวังในห้วงเวลาที่เหลือ
นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยหลังการประชุมว่า ในห้วงของการรณรงค์อุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้ ภาพรวมไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะจังหวัดเชียงใหม่ยังรักษาแชมป์ทั้งเรื่องของการเกิดอุบัติทั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บสูงสุดจากอุบัติเหตุอยู่ นอกจากนี้ยังมียอดผู้เสียชีวิตสะสมรวมสูงกว่ายอด ผู้เสียชีวิตสะสมรวมทั้ง 7 วันในช่วงเทศกาลปีใหม่ปีที่ผ่านมาด้วย ซึ่งทีมงานทุกคนรู้สึกไม่พอใจ ปีนี้พบว่าจำนวนครั้งที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดเป็นห้วงกลางคืนวันที่ 31 ธ.ค.59 ต่อเนื่องวันที่ 1 ม.ค.60 สองวันนี้เกิดวันละ 33 ครั้ง รวมกัน 66 ครั้ง เกินกว่าครึ่งของการเกิดอุบัติเหตุทั้งหมด ซึ่งน่าจะมาจากห้วงเวลาของการเฉลิมฉลอง เพราะวันหยุดปีนี้มีแค่ 4 วัน และเกิดเหตุในห้วงเวลาตั้งแต่ช่วงเที่ยงวันจนถึงเที่ยงคืนเป็นหลัก ดังนั้นสิ่งที่ต้องปรับก็คือห้วงเวลา เพราะช่วงเช้าไม่ค่อยเกิดอุบัติเหตุเลย ก็จำเป็นต้องเน้นย้ำไปทุกอำเภอที่จะเข้าไปดูแลประชาชน
“ต่อจากนี้ก็เป็นห้วงเวลาที่ทางท้องถิ่นต่างๆ จะจัดงานเฉลิมฉลองของท้องถิ่นเอง ก็น่าจะเป็นช่วงวันที่ 2 – 3 ม.ค.60 คนในชุมชนน่าจะไปร่วมด้วย และจำนวนผู้ที่ประสบอุบัติเหตุก็เป็นคนในชุมชนมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ คนจากต่างจังหวัดเพียง แค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งต้องขอบคุณที่เขาเดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่และรักษากฎระเบียบวินัยการจราจรเป็นอย่างดี สำหรับคนในชุมชนที่ประสบอุบัติเหตุจะพบว่าเป็นคนที่ไปทำงานต่างจังหวัดและเดินทางกลับมา พอถึงเวลาก็ได้ขับรถออกมาจากงานเลี้ยงฉลองเพื่อไปต่อในสถานที่ต่างๆ ซึ่งจากการไม่ได้กลับมานาน หรืออาจจะไม่ชินเส้นทางเหมือนเมื่อก่อนทำให้ประสบอุบัติเหตุได้ รวมถึงเด็กวัยรุ่นที่คึกคะนอง ที่ดื่มสุราแล้วพ่อกับแม่ห้ามแล้วไม่ฟัง ขับขี่รถออกจากบ้านแล้วประสบอุบัติเหตุ นอกจากนี้ยังพบอีกว่า มีรถจักรยานยนต์ที่ไม่ได้ทำประกันภัยตาม พ.ร.บ.อีกมากพอสมควร จึงจำเป็นที่ทางครอบครัวต้องมาพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะการทำประกันภัยรถจะได้เกิดผลดีต่อเจ้าของรถและผู้ขับขี่ด้วย ซึ่งความสำเร็จในการจะป้องกันอุบัติเหตุที่สำคัญต้องมาจากจุดเริ่มต้น โดยครอบครัว ชุมชนต้องดูแลกันเองให้เพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง” นายปวิณฯ กล่าว
ทั้งนี้จำนวนที่เกิดเหตุอุบัติเหตุในช่วง 5 วัน จำนวนอุบัติเหตุเกิดขึ้น 129 ครั้ง มากกว่าปี 59 จำนวน 21 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 16.22 จำนวนอำเภอที่เกิดอุบัติเหตุสูงที่สุด คือ อ.สันป่าตอง รองลงมาเป็น อ.ฝาง และสันทราย ตามลำดับ ซึ่งปีที่แล้วเกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 139 ครั้งในห้วงเวลา 7 วัน ดังนั้นก็เหลืออีกแค่ 10 ครั้งยอดสะสมจะเท่ากัน ส่วนจำนวนผู้บาดเจ็บปี 60 มียอดสะสมแล้วจำนวน 137 ราย มากกว่าปี 59 แล้ว 32 ราย อำเภอที่บาดเจ็บมากที่สุด อ.สันป่าตอง อ.ฝาง อ.สันทราย อ.เมืองเชียงใหม่ อ.จอมทอง และ อ.แม่อาย ตามลำดับ ปีนี้คาดว่าจำนวน ครั้งที่เกิดอุบัติเหตุและจำนวนผู้บาดเจ็บน่าจะมีมากกว่าปี 59 แน่นอน เพราะเหลือเวลาอีก 2 วันของการรณรงค์และการเก็บสถิติ ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตในปี 59 ห้วง 7 วันอันตราย จำนวน 7 ราย ส่วนปีใหม่ 60 นี้ผ่านมาแค่ 5 วัน มีจำนวน 9 รายแล้ว
“ที่เชียงใหม่มองเห็นว่า เป็นปีที่เราประสบความสำคัญคือ ในปี 2559 เส้นทาง อ.ดอยสะเก็ด สายที่จะมุ่งหน้าจากจังหวัดเชียงใหม่ไปเชียงราย จะเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และบางครั้งก็เป็นอุบัติเหตุใหญ่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งการที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากมูลนิธิเซฟเฟอร์โรด ฟาวเดชั่น ของ มร.ไมเคิล วู๊ดฟอร์ด นำเครื่องตรวจจับความเร็ว และป้ายเตือนความเร็วมาติดตั้งไว้ บนทางหลวง 118 ช่วงเส้นทางดังกล่าวทำให้การเกิดอุบัติเหตุลดลง การเน้นเรื่องป้ายไฟสัญญาณเตือนเรื่องความเร็วก่อนว่าขับเร็วหรือไม่ ทำให้คนขับรถส่วนใหญ่ลดความเร็วลง ซึ่งมีเตือนเป็นระยะจนกว่าจะถึงด่านตรวจ ทำให้ลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้การกระทำผิดยังลดลงด้วย จากที่เคยมีการทำความผิดในระยะเริ่มต้นมากว่า 30 ครั้ง เหลือพบผู้กระทำผิดขับรถเร็วเกินกว่ากำหนดแค่ 1 ราย ในช่วงเทศกาลที่ผ่านมา หากในอนาคตได้รับการสนับสนุนเพิ่มอีก สามารถขยายไปตามจุดเสี่ยงต่างๆ ใน พื้นที่เชียงใหม่ เชื่อว่าจะช่วยให้การเกิดอุบัติเหตุ ลดลงได้อีกมาก” ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว
นายปวิณฯ กล่าวต่อว่า ที่อยากจะฝากในช่วงที่เหลือคือ อยากให้ท้องถิ่นดูด้วยว่าการเฉลิมฉลองในท้องถิ่นในห้วงนี้ที่ยังคงมีอยู่ ก็อยากให้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปดูและขอความร่วมมือจากประชาชนในการดื่มกินและการจะออกจากพื้นที่ชุมชน หากจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในหมู่บ้าน ก็อาจจะหาที่จอดรถและให้ประชาชนนำรถมาฝาก เมื่อจะมานำรถกลับคืน ก็ให้เจ้าหน้าที่ดูว่ามีอาการเมาหรือไม่ หากพบว่าเมาก็ให้ยึดรถไว้ แล้วให้เจ้าหน้าที่ไปส่ง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยไม่ต้องประสบอุบัติเหตุ และผู้ร่วมทางก็จะเกิดความปลอดภัยด้วย ในส่วนของผู้คนที่จะเดินทางกลับในห้วงนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเพิ่งเสร็จจากการเฉลิมฉลองอาจจะรู้สึกเพลีย ก็ขอให้เน้นเรื่องของการดูแลขากลับเป็นพิเศษ หากไม่ไหวก็ขอให้พักและค่อยเดินทางต่อ
“หลายคนเน้นเรื่องของด่านชุมชนว่ามีความสำคัญมาก แต่แท้จริงแล้วด่านชุมชนเป็นด่านที่มีกลุ่มชาวบ้าน อสม. มาเป็นจิตอาสาให้ ซึ่งการเป็นจิตอาสาก็จะได้เฉพาะบางเวลาเท่านั้น แต่หากเรามีปัจจัยให้ความอำนวยอะไรให้เขาบ้าง ก็อาจจะเป็นการเข้ามาช่วยเหลือได้มากขึ้น ซึ่งก็ได้นำเสนอผู้ใหญ่ไปเรื่องนี้แล้ว และยังเหลือเวลาอีก 2 วัน ที่อยู่ในห้วง 7 วันอันตราย ก็อยากจะฝากไปถึงพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ก็อยากให้ทุกคนไม่อยู่ในความประมาท ตระหนักรู้ รู้ตัวตลอดเวลา และปฏิบัติตามกฎจราจร ก็จะทำให้ป้องกันอุบัติเหตุได้” นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวในที่สุด
ร่วมแสดงความคิดเห็น