ประเพณีของชาวบ้านปิน ตานหลัวหิงหนาวพระเจ้าตานข้าวใหม่

ในช่วงนี้กำลังอยู่ในช่วงของฤดูหนาว หลายพื้นที่ก็คงจะประสบภัยหนาวกันอยู่ บางท้องที่ขาดผ้าห่ม เสื้อกันหนาว บางแห่งก็ต้องก่อฟืนผิงไฟแก้หนาวตามวิถีที่สืบทอดกันมา มีประเพณีหนึ่งที่บรรพบุรุษได้ทิ้งไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้สืบต่อกันมาก็คือ “ตานหลัวหิงหนาวพระเจ้าตานข้าวใหม่”

“ประเพณีตานหลัวหิงหนาวพระเจ้าตานข้าวใหม่” ที่คณะศรัทธาชาวบ้านได้ปฏิบัติกันมาหลายชั่วอายุคนที่เด่นชัด คือ คณะศรัทธาวัดโพธิบุปผาราม ตำบลบ้านปิน อำเภอลอง จังหวัดแพร่ โดยพระครูโสภิตโพธานุรักษ์ รองเจ้าอาวาสวัดโพธิบุปผาราม กล่าวถึงประเพณีนี้ว่า

“ประเพณีตานหลัวหิงหนาวพระเจ้าตานข้าวใหม่” กำลังจะเป็นประเพณีจะเลือนลางจางหายไป ในประเพณีท้องถิ่นสิ่งที่สืบทอดมา นับเป็นเวลาหลายสิบปีสิ่งที่เป็นมรดกของบรรพบุรุษ ไม่รู้จะสิ้นสุดหมดวันไหนประเพณี “ตานหลัวหิงหนาวพระเจ้าตานข้าวใหม่ “ปีนี้จะตรงกับวันที่ 12 มกราคม 2560 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 เหนือ โดยมีพระภิกษุสามเณรวัดโพธิบุปผาราม เตรียมงานวันที่ 10 มกราคม 2560 เป็นต้นไป

ก่อนจะถึงวันงานอาตมาจำได้ตั้งแต่สมัยเป็นสามเณร ส่วนมากชาวบ้านจะพากันมาช่วยจัดงานอย่างมากมาย พูดได้ว่าพระเณรแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแต่คอยอยู่และบริการต้อนรับให้กำลังใจ จัดหาน้ำท่าบริการชาวบ้านมากมายที่มาช่วยงานร่วมเตรียมงานบุญ

แต่ทุกวันนี้เปลี่ยนไปมาก หลายเหตุปัจจัยที่มีคนสนใจน้อยในประเพณีทางพระพุทธศาสนา บางอย่างคนเราไม่แยกแยะสังคมโลกภายนอกกลายเป็นแบ่งพรรคแบ่งพวก วัดจึงมีผลกระทบ เช่น ไม่ใช่พวกเขา ไม่ใช่พวกเรา ฉันไม่ไปละ อยากทำก็ทำกันไป ในเมื่อไม่ได้ดังสมใจบางอย่างในโลกภายนอกที่แข่งขันกัน จึงเกิดความเหมารวมไม่แยกแยะว่าสิ่งไหนส่วนรวม สิ่งไหนความดีที่ควรทำแห่งการคำว่า บริสุทธิ์ใจ หวงแหนอนุรักษ์

ยอมรับว่าน้อยคนที่จะพูดหรืออาจเสี่ยงในการพูดบางอย่างถ้าคนเราไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ อาตมาอาจจะพูดหรือถ้าแนวคิดอาจไม่ถูกต้องเสมอไป แต่ขออภัยด้วยความบริสุทธิ์ใจ อยากให้มันเกิดประโยชน์อันสูงสุด และให้เห็นมุมมองที่อาตมาพร้อมพระเณรในวัดกำลังประสบอยู่ในสิ่งที่ผ่านมา จึงมีข้อคิดวิเคราะห์ ออกมาแบบนี้ ถ้าไม่ถูกต้องก็ขออภัยเป็นอย่างยิ่ง หรือแทบอาจจะไม่มีใครนำกล้าพูด แต่นี่คือ ความจริงที่กำลังประสบปัญหาอยู่ ตลอดที่ปฏิบัติมาในเรื่องของการรักษาหวงแห่งขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น

อาตมาก็พยายามต่อสู้มาหลายสิบปี เพื่อให้รักษาไว้ในประเพณี เอกลักษณ์ ที่บรรพบุรษสืบทอดมา น่าเสียดายถ้ามันจะเลือนลางจางหายไปเมื่อถึงเวลาใกล้งาน สิ่งที่ทำได้ ก็คงให้กำลังใจพระเณรในการทำงาน ยิ่งมีพระเณรน้อยยิ่งเหนื่อยหลายเท่าตัว พร้อมคอยประสานติดต่อญาติโยมบางท่านขอเมตตามาร่วมด้วยช่วยกันตั้งแต่ ช่างที่มีเครื่องไม้เครื่องมือมาทุ่นแรง บางครั้งก็เหนื่อยล้า ในปัญหา พร้อมโรคาที่อาตมาเป็นอยู่ แต่ก็ต้องสู้กันไป พร้อมพยายามชักจูง เชิญชวนให้มีแนวร่วมได้มากที่สุดในการร่วมงาน เตรียมงานให้สำเร็จและดีที่สุดเท่าที่ลมหายใจมีอยู่จะทำได้และควรทำ

ปีนี้งานประเพณี ตานหลัวหิงหนาวพระเจ้า ตานข้าวใหม่เดือนสี่เป็ง ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 เหนือ ปีนี้ตรงกับ วันที่ 12มกราคม 2560 เป็นประเพณีที่ยึดถือปฏิบัติมาอย่างยาวนาน คือเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จประจวบกับเข้าสู่ฤดูหนาว ชาวบ้านจะหาไม้จี่ คือไม้ชนิดหนึ่งที่มีหนามแล้วจะนำมาปอกเปลือกและเอาหนามออกทาด้วยขมิ้นเท่ากับจำนวนครอบครัวสมาชิกในบ้านว่าจะเอากี่เล่มเพื่อนำไปถวายวัด (ไม้ชนิดนี้อีกอย่างนิยมมาทำเป็นเชื้อเพลิงในการเผาศพพระเณร) เรียกว่าตานหลัวหิงหนาวพระเจ้า พระเจ้าก็คือพระพุทธเจ้า พร้อมกับข้าวเปลือกข้าวสารและนำอาหารคาวหวานไปถวายวัดเพื่อทำบุญอุทิศถือเป็นการทดแทนบุญคุณบรรพบุรุษ ที่ล่วงลับไปหรือผู้ที่เคยเป็นเจ้าของไร่นาสาโท

ปัจจุบันนับวันถ้าไม่ช่วยกันอนุรักษ์ส่งเสริมยึดถือปฏิบัติ ก็ยิ่งจะเลือนลางจางหาย ดังนั้นขอเจริญพรเรียนเชิญทุกๆท่านร่วมอนุรักษ์ดูแลรักษา ร่วมด้วยช่วยกันแห่งความสามัคคี

โดยจะเริ่มก่อหลัว (ก่อฟืน) เตรียมงานในวันที่ 10 มกราคม 2560 จึงขอเจริญพรเชิญชวนทั้งหญิงชายหนุ่มสาว ผู้เฒ่าผู้แก่นักเรียนญาติโยม ร่วมเตรียมงานบุญโดยพร้อมเพรียงกันกับงาน” ประเพณีของชาวบ้านปิน ตานหลัวหิงหนาวพระเจ้าตานข้าวใหม่” โดยพร้อมเพรียงกัน

…..สมฤทธิ์ ชัยพลังฤทธิ์ / รายงาน …..

ร่วมแสดงความคิดเห็น