จับเสือโคร่ง ถูกยิงเจ็บ หลบซ่อนไร่มัน บาดแผลเต็มตัว หนีตายถูกตามล่า

เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายสนธิกำลังเข้าปิดล้อมไร่มันสำปะหลัง หลังจากรับแจ้งจากชาวบ้านได้ยินเสือโคร่งร้องคำราม พบนอนซมอยู่จึงใช้ปืนยิงยาสลบ เป็นเสือโคร่งเพศผู้ขนาดใหญ่ มีบาดแผลใกล้เน่าถูกยิงที่บริเวณปากและลำตัวหลายแห่ง คาดว่าถูกนายพรานยิงแล้วหนีเตลิดมาหลบซ่อนตัว ด้วยความเหนื่อยล้า โชดดีที่เจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตได้ทัน

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 9 ม.ค. เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง นำโดยนายชนมภูมิ จอมทัน ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง และเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.32 ตำรวจ สภ.เถิน ฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ ต.แม่ถอด อ.เถิน จ.ลำปาง กว่า 100 คน ร่วมกันให้ความช่วยเหลือเสือลายพาดกลอน หรือเสือโคร่ง ตัวขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าได้รับบาดเจ็บและเข้ามาอาศัยในหมู่บ้านสบเติ๋น ต.แม่ถอด อ.เถิน โดยชาวบ้านในพื้นที่ได้ยินเสียงคำรามของเสือ กระทั่งล่าสุดวันที่ 8 ม.ค. พบเห็นเสือโคร่งขนาดใหญ่ นอนอยู่ภายในไร่มันสำปะหลังของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่จึงวางแผนจับเสือเพื่อเคลื่อนย้ายเสือออกจากพื้นที่ไปยังที่ปลอดภัย

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงพบเสือโคร่งนอนอยู่ใกล้จุดเดิมในไร่มันสำปะหลัง ห่างจากถนนสายหลัก ลำปาง-กรุงเทพ ประมาณ 50 เมตร ทางสัตวแพทย์จากกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชดอยจง ดอยผาเมือง จึงได้ยิงยาสลบใส่เสือโคร่งและใช้เวลาระยะหนึ่ง เสือจึงค่อยๆ ซึมและสลบลง จากนั้นจึงเคลื่อนย้ายเข้าในกรง จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเสือเพศผู้ ความสูง 1.2 เมตร ลำตัวยาว 1.6 เมตร น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 200 กิโลกรัม ยังไม่ทราบอายุชัดเจน ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลคล้ายถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ริมฝีปากล่างด้านซ้าย จนแผลเริ่มเน่า นอกจากนี้ยังมีแผลตามลำตัวอีกหลายแห่ง

นายชนมภูมิ เปิดเผยว่า คาดว่าเสือตัวนี้ได้เข้ามาวนเวียนอยู่ในพื้นที่ ต.แม่ถอด อ.เถิน นานร่วม 3 เดือนแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาชาวบ้านได้เข้าไปหาของป่าในพื้นที่พบรอยเท้าเสือขนาดใหญ่อยู่หลายครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ได้ออกตามหาก็ไม่พบตัว เสือตัวนี้น่าจะได้รับบาดเจ็บจากการถูกล่าจากป่าลึกและได้หลบหนีมาจนเข้ามาในเขตของหมู่บ้าน และเริ่มอ่อนล้าเพราะมีบาดแผลจึงไปไหนไม่ได้ไกลนัก จึงมานอนหลบอยู่ในไร่มันดังกล่าว หลังจากนี้จะนำตัวเสือไปพักรักษาที่ศูนย์อนุรักษ์ห้วยยางปาน อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ก่อนจะปล่อยคืนสู่ป่าธรรมชาติต่อไป