เร่งทดสอบเติมสารเร่งการ ตกตะกอนลงคูเมือง หวังคืนน้ำใสให้กับคูเมือง ก่อนเทศกาลสงกรานต์

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 ม.ค. 60 นายณัฐฐ์ชูเดช วิริยดิลกธรรม รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ พร้อมด้วย ผศ.ดร.ระพีพันธ์ แดงตันกี ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายความร่วมมืออุตสาหกรรม นักวิจัย หลักสูตรวิศวกรรมวัสดุและการผลิต บัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย-เยอรมัน (TGGS) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ได้นำเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังบริเวณคูเมือง หน้าตลาดประตูเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อทำการทดลองเติมสารเร่งการตกตะกอนลงในคูเมือง บำบัดน้ำเสีย ปรับปรุงคุณภาพน้ำก่อนช่วงสงกรานต์ เพื่อให้คุณภาพน้ำในคูเมืองเชียงใหม่ ให้มีความเหมาะสม สามารถใช้เล่นน้ำสงกรานต์ได้อย่างปลอดภัย ให้ทันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้

โดยทางด้าน ผศ. ดร. ระพีพันธ์ แดงตันกี เปิดเผยว่า สำหรับสารเร่งการตกตะกอนนี้ ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ได้ทำการผลิตคิดค้นขึ้น เพื่อใช้บำบัดน้ำเสียและน้ำดีที่มีสารแขวนลอยประเภทต่างๆ ให้ตกตะกอนอย่างรวดเร็ว โดยตัวสารดังกล่าวจะจับตะกอนให้ใหญ่ ทำตะกอนให้มีน้ำหนัก และทำให้ตะกอนติดกัน ซึ่งเมื่อทั้งสามส่วนมารวมกันจะส่งผลทำให้ตะกอนที่อยู่ในน้ำก็จับตัวเป็นก้อนใหญ่และจมด้านล่างอย่างรวดเร็ว ซึ่งสารเร่งการตกตะกอน 1 กิโลกรัม จะสามารถใช้กับน้ำในประมาณ 5,000 – 20,000 ลิตร เป็นการบำบัดน้ำ ปรับคุณภาพน้ำให้กลับมาใส

นอกจากนี้ยังได้มีการส่งสารตัวนี้ ไปทดสอบยังศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ยังพบว่าสารดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสิ่งมีชีวิต จึงมั่นใจว่าสารตัวนี้จะสามารรถช่วย ปรับคุณภาพน้ำในคูเมืองให้ใสสะอาดสามารถนำมาใช้เล่นในช่วงสงกรานต์ ได้อย่างปลอดภัย

ด้านนายณัฐฐ์ชูเดช วิริยดิลกธรรม รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินงานในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการทดลอง ที่ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้ร่วมมือกับทาง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำในคูเมืองโดยที่ผ่านมาก็ได้มีการใช้วิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขุดลอกรอบคูเมือง การเติมปูนขาว หรือเติมคลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรคในน้ำ ทั้งนี้ทางทีมวิจัยจะได้ทำการทดสอบสารดังกล่าว กับสถานที่จริง โดยได้มีการทำพนังกั้นน้ำ และได้เติมสารดังกล่าวลงไปในคูเมืองเชียงใหม่ บริเวณหน้าตลาดประตูเชียงใหม่

ซึ่งหลังจากนี้อีก 2 สัปดาห์ จึงจะมีการเก็บตัวอย่างน้ำไปทดสอบ เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพของน้ำ ทั้งก่อนเติมสาร และหลังเติมสาร เพื่อดูความเปลี่ยนแปลงของคุณภาพน้ำอีกครั้ง ซึ่งถ้าหากได้ผลจริง ในปีนี้คาดว่าจะสามารถทำให้น้ำในคูเมืองมีความใสสะอาด เป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเล่นน้ำในเทศกาลสงกรานต์ หรือปี๋ใหม่เมือง ที่จะมีขึ้นในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ นายณัฐฐ์ชูเดช กล่าวในที่สุด

ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาทางด้าน สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 ได้เคยมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำรอบคูเมืองเชียงใหม่ ก่อนที่จะถึงสงกรานต์ โดยใช้ค่าพารามิเตอร์ที่ตรวจวัดและใช้เป็นตัวบ่งชี้สภาพปัญหาที่สำคัญ ได้แก่ ค่าปริมาณความสกปรกในรูปสารอินทรีย์ (BOD) ปริมาณค่าออกซิเจนละลายน้ำ (DO) แบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์มทั้งหมด (Total Coliform Bacteria : TCB) แบคทีเรียกลุ่มฟีคัลโคลิฟอร์มทั้งหมด (Fecal Coliform Bacteria : FCB) และแอมโมเนีย (NH3) พบว่าบริเวณที่มีคุณภาพน้ำเสื่อมโทรมที่สุด ได้แก่ ด้านทิศตะวันตก บริเวณหน้า รพ.เชียงใหม่ราม (จุดที่ 8) และด้านทิศเหนือ บริเวณหน้าศูนย์คอมพิวเตอร์ซิตี้เชียงใหม่ (จุดที่ 9) และจากการวิเคราะห์ผลในภาพรวม พบว่าคุณภาพน้ำคูเมืองจัดอยู่ในประเภท 3-4 ซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยพอสมควร แต่ต้องระมัดระวังไม่ควรให้น้ำเข้าปาก จมูก ตา หรือสัมผัสกับบาดแผลภายนอกร่างกาย ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความระคายเคืองได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น