สืบสวนเชียงใหม่ รวบหนุ่มสวีเดน แจ้งความเท็จ

ตำรวจสืบสวนรวบหนุ่มสวีเดนแสบ วางแผนแจ้งความเท็จ หลังทำโน๊ตบุ๊คหาย หวังนำเอาเอกสารแจ้งความจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปเบิกเงินกับบริษัทประกันที่ประเทศ โดยกุเรื่องถูกโจรปล้นทรัพย์ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจกล้องไม่เจอเหตุ สอบสวนสุดท้ายสารภาพวางแผนแจ้งความเท็จ โดนจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย

การจับกุมตัวชาวต่างชาติครั้งนี้ ถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. วันที่ 21 ม.ค.60 โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ นำโดย พ.ต.ท.ฐนศกณ ประมาณ สว.สส. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว MR.KENY ANDRES PARRA BOBADILLA อายุ 35 ปี ชาวสัญชาติสวีเดน พร้อมทั้งทำการตรวจยึดของกลางทรัพย์สิน ซึ่งประกอบด้วย แหวนสีเหล็กสีเงิน จำนวน 4 วง , โทรศัพท์มือถือยี่ห้อวันพลัส 2 จำนวน 1 เครื่อง , กระเป๋าสะพายสีน้ำตาล (แบบหนัง) จำนวน 1 ใบ และ หูฟังแบบครอบศีรษะ ยี่ห้อมาแชล จำนวน 1 อัน

โดยกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐาน “รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทำความผิด เกิดขึ้น หรือแจ้งความเท็จ” โดยทางเจ้าหน้าที่ สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ บริเวณถนนราชดำเนิน ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.ชยกร ไชยพรม พงส.เวร ว่ามีนักท่องเที่ยวชาวสวีเดน เดินทางเข้าแจ้งความว่าถูกคนร้ายชิงเอาทรัพย์สินไป เมื่อทราบดังนั้นจึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ดำเนินการสอบสวนรับฟังข้อมูลจากผู้เสียหาย โดยทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ MR.KENY ANDRES PARRA BOBADILLA อายุ 35 ปี สัญชาติ สวีเดน

ซึ่งทางเจ้าตัวแจ้งว่า เมื่อช่วงสายเวลาประมาณ 11.00 น. ขณะที่กำลังเดินอยู่ริมถนนช้างคลาน มุ่งหน้าจะไปแยกแสงตะวัน ได้เดินสวนกับชายไทยจำนวน 3 คน ขณะเดินสวนกัน 1 ในชายไทยจำนวน 3 คน ได้ใช้อาวุธมีดจี้ที่เอว โดยมีชายไทยอีก 2 คนที่เดินมาด้วยกันยืนล้อม แล้วขู่บังคับเอาทรัพย์สินไป ประกอบด้วยเงินไทย รวมจำนวน 25,000 บาท เพาเวอร์แบ้งค์ สีขาว จำนวน 1 อันบัตรเครดิดการ์ด 1 ใบ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คยี่ห้อ HP จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อวันพลัส จำนวน 1 เครื่อง กระเป๋าหนังสีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ หูฟังแบบครอบศีรษะ จำนวน 1 อัน และแหวนเหล็กจำนวน 4 วง ก่อนจะหลบหนีไป

เมื่อทราบข้อมูลดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน พร้อมทั้งตำรวจท่องเที่ยว จึงได้ให้ทางเจ้าตัวพาไปดูสถานที่เกิดเหตุ ตามที่แจ้งมา แต่จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ตามสถานที่ต่างๆ ที่ MR.KENY ANDRES PARRA BOBADILLA กล่าวอ้าง ไม่พบว่าเจ้าตัวไปสถานที่ดังกล่าว และไม่พบชายไทยอีก 3 คน ที่อ้างว่าเป็นคนร้ายเดินสวนทางมาแต่อย่างใด จากทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขอเข้าทำการตรวจสอบห้องพักของ MR.KENY ANDRES PARRA BOBADILLA ที่เอราวัณอพาร์ทเมนท์ ห้อง 204 เลขที่ 17/3 ถ.ช้างเผือก ซอย 4 ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียง ใหม่

ซึ่งผลการตรวจสอบพบทรัพย์สินที่แจ้งหาย ยังอยู่ครบในห้องพักของเจ้าตัว และพบว่าทาง MR.KENY ANDRES PARRA BOBADILLA เริ่มมีอาการน่าสงสัย จึงได้ทำการเชิญตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองเชียงใหม่อีกครั้ง พร้อมกับนำภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดให้ดู เมื่อ MR.KENY ANDRES PARRA BOBADILLA รู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ว่าไม่มีเหตุเกิดขึ้นจริง จึงได้ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้กระทำการแจ้งความเท็จ และไม่ได้มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแต่อย่างใด พร้อมทั้งอ้างว่า ตนเองนำคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คลืมไว้ที่ใด จึงเดินทางมาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตั้งใจจะนำเอาเอกสารแจ้งความจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปเบิกเงินกับบริษัทประกันที่ประเทศของตนเอง ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวพร้อมด้วยของกลาง นำส่ง พงส.สภ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินการตามกฎหมาย

ร่วมแสดงความคิดเห็น