โหร คมช. วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 5 เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ตรวจสอบบ้านจัดสรร และร้านอาหาร

โหร คมช. วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ นำ เจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 5 เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าตรวจสอบบ้านจัดสรร และร้านอาหารของตนเอง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ ไม่ได้ไปมีส่วนพัวพันกับการตัดไม้ทำลายป่านำไม้มาสร้าง ที่เชียงใหม่ โดยดำเนินการสร้างบ้านจัดสรร หรู กลางเมืองเชียงใหม่ โดยผ่านผุ้รับเหมา ไม่รู้เรื่องการทำลายป่าที่ จ.น่าน และไม่ได้ไปขนไม้สักมาแต่อย่างใด ตามที่ถูกร้องเรียน

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 28 มค 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือโหร คมช. ได้เชิญ เจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 5 นำโดย พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบช.ภ.5 . เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ นำโดย นายผณินทร์ ทับกล่ำ. หน.สปป3(ภาคเหนือ) หรือหัวหน้าสำนักงานการป้องกันและปราบปรามที่3 ภาคเหนือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช 17 จังหวัด รวมทั้งสื่อมวลชน ได้เข้าตรวจสอบ บ้านจัดสรรกลางเมืองเชียงใหม่ ชื่อหมู่บ้านฮิมมา หรือบริษัท ฮิมมา เพรสทีจ ลีฟวิ่ง จำกัด เลขที่ 68/6 ถ.โชตนา ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นของ นายวารินทร์ รวมทั้งโรงแรมและร้านอาหารกลางเมืองเชียงใหม่อีกแห่งตั้งอยู่บริเวณถนนพระปกเกล้า อ.เมืองเชียงใหม่ ชื่อโรงแรม ซอมพอรต์ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ ว่าบ้านที่นำมาประกอบสร้างบ้านจัดสรรและโรงแรมรวมทั้งร้านอาหารนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการไปทำลายป่าไม้ที่ จ.น่าน แต่อย่างใด โดยบ้านจัดสรร นั้นทางนายวารินทร์ ได้นำเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขาย กับบริษัทค้าไม้และผู้รับเหมา การก่อสร้างมายืนยัน อย่างถูกต้อง รวมทั้งโรงแรมและห้องอาหาร ก็ไม่ได้นำไม้มาทำแต่เป็นการนำไม้ฝาเชอรล่า มาทำ และวิหารสุขิโต ในหมู่บ้านสุขิโต ก็ไม่ได้สร้างด้วยไม้แต่อย่างใด โดยทางนายวารินทร์ ได้นำเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบภายในบ้านจัดสรร ที่ถูกระบุ และห้องอาหารรวมทั้งโรงแรมที่อยู่กลางเมืองเชียงใหม่อย่างละเอียด พร้อมทั้งมีเอกสารยืนยันความถูกต้องในการก่อสร้างและซื้อไม้จากบริษัทค้าขายไม้แปรรูปที่เชียงใหม่

นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ได้เปิดเผยแถลงข่าวอีกครั้งหนึ่งหลังนำตรวจสอบสถานที่บ้านจัดสรรและโรงแรม รวมทั้งวิหารสุขิโต โดยได้เปิดเผยว่า ได้มีข่าวออกมาพาดพิงถึงตน อ้างถึงการตัดไม้ในโครงการพระราชดำริ เพื่อมาสร้างโครงการบ้านจัดสรร และโรงแรมห้องอาหารและวิหารสุขิโต ของตน และข่าวดังกล่าวยังได้นำภาพภูเขาที่ถูกทำลายตัดไม้ทำลายป่ามาลงประกอบของ จ.น่าน โดยระบุว่ามีโหรชื่อดังเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ถึงแม้ว่าข่าวดังกล่าวจะไม่ได้ระบุชื่อแต่ภาพที่ปรากฏทั้งบ้านจัดสรร โรงแรม ห้องอาหาร นั้นเป็นสถานที่ของตนเอง ซึ่งผุ้ร้องเรียนตนนั้นได้ใส่ร้ายข้อความอันเป็นเท็จทั้งหมด โครงการของตนที่ถูกร้องเรียนทั้งสองโครงการนั้นสร้างด้วยวัสดุไม้ที่สังเคราะห์ขึ้นมาที่โรงแรมฯ และที่บ้านจัดสรร ก็ได้ใช้ไม้มะค่า มาประกอบบางส่วน ไม่ได้มีไม้สักทอง ดั่งที่ผู้ร้องเรียนไปร้องเรียนกล่าวหาแต่อย่างใด วันนี้ตนจึงได้เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ และสื่อมวลชนมาตรวจสอบและมาดูแลดังกล่าว เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ซึ่งทุกคนก็ได้เห็นว่าวัสดุที่ถูกร้องเรียนว่าเอามาจากจังหวัดน่าน มีจริงหรือไม่ ก็ไม่มีเลย และที่มีการกล่าวอ้างว่าเอาไม้สักทองที่ จ.น่าน มาสร้างวิหารหลวงปู่ ที่สุขิโต ทุกท่านก็ได้ไปเห็นแล้วว่า วิหารที่ตนสร้างขึ้นมานั้นสร้างจากปูน ไม่ได้มีไม้สักทองแต่อย่างใดตามที่ผู้ร้องเรียนได้ร้องเรียน

ทั้งหมู่บ้านจัดสรร และโรงแรมทีผู้ร้องได้ร้องเรียนผมนั้น ผมได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฏหมาย และภาพถ่ายภูเขาหัวโล้น ที่ จ.น่าน และผู้ร้องได้ระบุว่าเป็นฝีมือของพวกตนนั้น ภาพดังกล่าวเป็นภาพเก่าและทางเจ้าหน้าที่ก้รู้ถึงผู้กระทำว่าเป็นใคร แต่กลับมาโยนว่าผมเป็นผุ้กระทำ อยากให้ประชาชนชาวไทยและชาวจังหวัดน่าน ให้ความเป็นธรรมกับผมด้วย ผมไม่ได้ทำ ผมได้เชิญเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาตรวจสอบผมในวันนี้ เพื่อต้องการให้เจ้าหน้าที่รัฐ ดำเนินการตรวจหาผู้กระทำผิดที่แท้จริงต่อไป ไม่ใช่มาร้องเรียนกล่าวหาตนแบบไร้เหตุผลและเลื่อยลอยแบบนี้ และการกล่าวอ้างถึงโครงการพระราชดำริและการกล่าวอ้างถวายฏีกา ซึ่งเป็นการมิบังควรอย่างยิ่ง ฯ ทั้งยังผิดกฏหมายมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบ

“ผมขอความเป็นธรรมจากประชาชนชาวไทยด้วย รวมทั้งสื่อ ขอให้ตรวจสอบผู้ที่ให้ข่าวและที่มาของข่าวด้วย ทุกครั้งที่มีการสร้างโครงการขึ้นมาตนก็จะว่าจ้างผุ้รับเหมาและซื้อไม้จากบริษัทค้าไม้อย่างถูกต้องตามโรงค้าไม้ทั่วไปที่มีการจำหน่ายอย่างถูกต้องตามกฏหมายทั้งสิ้น ผมไม่เคยไปทำลายป่าหรือไปเบียดเบียนทรัพยากรธรรมชาติทั้งสิ้น และบุคคลที่ไปร้องเรียนผมรวมทั้งทนายความนั้นผมไม่เคยรู้จักกับพวกเขามาก่อนเลย”

ด้าน พล.ต.ต.พงษ์เดช พรมหมิจิตร รอง ผบช.ภ.5 ได้เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีชี้เบาะแสว่ามีการตัดไม้จากจังหวัดน่าน และมาทำธุรกิจกลางเมืองเชียงใหม่ ผมในฐานะที่รับผิดชอบในเรื่องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ได้เชิญทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ มาร่วมตรวจสอบ บ้านจัดสรรและโรงแรมของนายวารินทร์ ซึ่งจากการตรวจสอบบ้านจัดสรร ก็เป็นไม้มะค่า ทางเจ้าของโครงการก็ได้นำเอกสารมาให้ดูมาให้ตรวจสอบ ส่วนที่โรงแรมก็เป็นไม้เทียบ ขั้นตอนต่อไปทางตำรวจเองก็จะเชิญผุ้ที่ให้เบาะแสกับทางสื่อหรือผุ้ร้องเรียน ทั้งอดีตตำรวจ และตัวทนาย ทั้งสองท่าน รวมทั้งบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการส่งไม้ให้กับผู้รับเหมาทั้งสองที่มาให้ปากคำ เพื่อดำเนินการกันต่อไป หากพบว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย ใครผุ้กระทำผิดก็จะดำเนินการต่อ รวมทั้งผืนป่าที่ถูกทำลายที่จังหวัดน่านด้วย จะดูพยานหลักฐานทั้งหมด ก็ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนที่ทราบเบาะแส แจ้งมาทางตำรวจภาค 5 เพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ป่าต้นน้ำของเราด้วย

นายผณินทร์ ทับกล่ำ. หน.สปป3(ภาคเหนือ) หรือหัวหน้าสำนักงานการป้องกันและปราบปรามที่3 ภาคเหนือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช 17 จังหวัด ได้เปิดเผยว่า ตนได้รับการประสานงานจากทางตำรวจภูธรภาค 5 ขอให้มาร่วมตรวจสอบ การตัดไม้ในเขตป่าอนุรักษ์ที่จังหวัดน่าน มาซุกซ่อนในจังหวัดเชียงใหม่ จากการตรวจสอบโครงการของนายวารินทร์ ทั้งสองแห่งก็ไม่พบการกระทำผิด ที่บ้านจัดสรร พบเป็นไม้ที่ซื้อมาจากโรงงานที่ถูกต้อง ซึ่งเราจะต้องมีการตรวจสอบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์จังหวัดน่านอีกที

ต่อมาผุ้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังกลุ่มที่ร้องเรียนนายวารินทร์ อีกครั้งซึ่งก็ได้รับการเปิดเผยว่า กลุ่มผู้ร้องเรียนนั้นจะได้ทำการแถลงข่าวพร้อมทั้งเอกสารต่าง ๆ อีกครั้งผ่านสื่อที่กรุงเทพ โดยจะให้ข่าวออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ดิจิตอล ในวันที่ 30,31 มค 60 ต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น