ยกทัพขึ้นเหนือ เปิดโครงการ ผู้ว่าฯชวนออม

สมชัย สัจจพงษ์

กอช. ยกพลขึ้นเหนือ เปิดโครงการ “ผู้ว่าฯ ชวนออม” อย่างเป็นทางการครั้งแรกที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็น 1 ใน 10 จังหวัดนำร่อง เพื่อสร้างความเสมอภาคเท่าเทียม ทั่วถึง และเป็นธรรมในการดูแลจากภาครัฐ และเป็นส่วนหนึ่งในการมอบสวัสดิการให้แก่ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มแรงงานนอกระบบ ตลอดจนจัดให้มีการออมเพื่อยามชราแก่ประชาชนอย่างครอบคลุมในทุกมิติ

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ผู้ว่าฯชวนออม” และพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ส่งเสริมการออมเงินกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย โดยมีนายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ เป็นผู้กล่าวรายงาน พร้อมด้วย นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้กล่าวต้อนรับและร่วมลงนาม MOU ส่งเสริมการออมเงินกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย ณ ศูนย์ประชุมและการแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดเชียงใหม่

โดย นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการ “ผู้ว่าฯ ชวนออม” มีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการส่งเสริมการออมกับ กอช. ผ่านนโยบายการบริหารราชการส่วนภูมิภาคและสร้างเครือข่ายความมั่นคงทางนโยบายที่เข้มแข็งระดับภูมิภาค เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเรื่อง กอช. มากขึ้น เป็นโครงการตามแผนยุทธศาสตร์ที่ 1 ของ กอช. คือ ผลักดันและสร้างสมาชิกการออมอย่างต่อเนื่องให้ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ ได้แก่ กลยุทธ์ที่ 1.1 การให้ความรู้ทางการเงินเพื่อส่งเสริมการออมเพื่อการชราภาพและประชาชนกลุ่มเป้าหมายกลยุทธ์ที่ 1.2 การส่งเสริมการออมอย่างต่อเนื่อง และกลยุทธ์ ที่ 1.3 การสร้างภาคีเครือข่ายที่มีศักยภาพ อีกทั้งยังเป็นการออมมุ่งส่งเสริมวินัยการออมในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของ กอช.ด้วย

ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กอช. เปิดโครงการผู้ว่าชวนออม โดยมี 10 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดสงขลา จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดชลบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเปิดโครงการอย่างเป็นทางการครั้งแรก ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมุ่งการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อสร้างความเสมอภาคเท่าเทียม ทั่วถึง และเป็นธรรมในการดูแลจากภาครัฐ โดย กอช. เป็นส่วนหนึ่งในการมอบสวัสดิการให้แก่ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มแรงงานนอกระบบ ตลอดจนจัดให้มีการออมเพื่อยามชราแก่พี่น้องประชาชนให้ครอบคลุมทุกมิติ ซึ่งเป็นการสร้างช่องทางพื้นฐานคุ้มครองประชาชนเพื่อการชราภาพให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น