นานาสาระน่ารู้…“มะเร็งลำไส้ หายขาดได้ หากพบก่อนแต่แรกเริ่ม”

ลองสังเกตตัวเองดูแล้วกัน ถ้าคุณมีอาการท้องผูก หรือท้องเสียบ่อย อุจจาระมีก้อนเล็กลงหรือมีมูกเลือดปน เบื่ออาหาร นํ้าหนักลด หรือผอมซูบซีด อย่านิ่งนอนใจ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือน ‘มะเร็งลำไส้ใหญ่’ ที่กำลังทำลายชีวิตของคุณอย่างไม่รู้ตัว

จากสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่าผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่รายใหม่ในประเทศไทยมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นอันดับที่ 3 ของผู้ป่วยโรคมะเร็งทั้งหมด แต่ไม่ใช่ว่าผู้ที่ได้รับการตรวจวินิจฉัยแล้วว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ จะลงเอยด้วยการสูญเสียชีวิตเสมอไปนะ เพราะวันนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์สามารถตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งรักษาให้หายขาดได้ หากพบได้เร็ว

ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลโดยตรงคือ กรรมพันธุ์ และพฤติกรรมการบริโภคที่มีสารก่อมะเร็งเป็นประจำ จำพวกเนื้อแดง อาหารปิ้งย่าง รวมทั้งการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ โดย 90 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ คือผู้มีอายุเกิน 50 ปี
ขึ้นไป การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่ควรเริ่มต้นเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป กรรมพันธุ์คือปัจจัยเสี่ยงอันดับต้นๆ ดังนั้นผู้ที่มีญาติพี่น้องที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่มาก่อน ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองปีละ 1 ครั้งตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป ยิ่งผู้มีความเสี่ยงมากก็ควรเข้ารับการตรวจตั้งแต่อายุ 20 ปี หากตรวจไม่พบมะเร็ง แต่มีติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ ก็ควรส่องกล้องซํ้าทุก 1-3 ปี เพราะติ่งเนื้อสามารถเปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็งได้

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านั้นผู้ป่วยอาจไม่มีอาการให้เห็น แต่เราก็สามารถสังเกตสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติของลำไส้ใหญ่ได้จากความเปลี่ยนแปลงของระบบขับถ่ายได้ เป็นต้นว่า ถ้าคุณมีอาการท้องผูกหรือท้องเสียบ่อย อุจจาระมีก้อนเล็กลงหรือมีมูกเลือดปน ร่วมกับอาการทางร่างกาย เช่น เบื่ออาหาร นํ้าหนักลด หรือผอมซูบซีด เราแนะนำว่าควรพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายทันที

“การตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่ที่ได้ผลดีที่สุดซึ่งเราแนะนำให้คนไข้ทำ คือการส่องกล้อง (Colonoscopy) ซึ่งสามารถตรวจดูลักษณะภายในของลำไส้ใหญ่และทวารหนักได้ทั้งหมด ในตัวกล้องจะมีช่องสำหรับดูดนํ้า รวมถึงช่องใส่อุปกรณ์ในการรักษาและตัดชิ้นเนื้อเพื่อนำมาตรวจ ส่วนวิธีการตรวจก็ไม่ต้องใช้เวลามากเพียงทานยาระบายก่อน 1 คืนเพื่อให้อุจจาระใสเกลี้ยงขึ้น และลำไส้สะอาด จากนั้นเมื่อมาถึงโรงพยาบาล แพทย์จะให้ยานอนหลับ จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการตรวจราว 20-30 นาที ไม่มีอันตราย หรือความเจ็บปวดใดๆ ซึ่งขั้นตอนนี้เอง หากแพทย์พบติ่งเนื้อ หรือความผิดปกติ ก็สามารถทำการตัดชิ้นเนื้อนั้นได้เลย เพื่อนำไปตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมว่าเป็นมะเร็งร้ายหรือไม่”

หากเราทราบถึงความสำคัญว่า การตรวจพบความผิดปกติภายในลำไส้แต่เนิ่นๆ หรือตรวจพบมะเร็งในระยะเริ่มต้น ก็จะทำให้การรักษามีประสิทธิภาพ และสามารถหายขาดได้ดีกว่าพบมะเร็งในระยะลุกลาม หากท่านใดที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค หรืออยู่ในข่ายที่ต้องการจะตรวจ สามารถเข้ามาพบแพทย์เฉพาะด้านระบบทางเดินอาหาร ได้ที่ ศูนย์โรคปวดท้อง โรงพยาบาลลานนา

ร่วมแสดงความคิดเห็น