อดีตคู่ซ้อมเขาทราย อุทิศตนเป็นจิตอาสา ช่วยเหลือผู้ป่วย

อดีตนักมวย ที่เคยลงนวมซ้อมให้กับเขาทราย และ สด จิตรดา ไขมันอุดตัน กายภาพบำบัดจนหาย อุทิศตนเป็นจิตอาสา ช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่น ซึ่งทุกคนเมื่อมีอายุช่วงประมาณ 50-60 ปี จะเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง อดีต รอง ผบช.ภาค 5 ก็ต้องเข้า รพ.ไขมันอุดตัน เช่นกัน และอีกหลายราย ชาวบ้านเรียกกันว่า “โรคญาติพี่น้องเบื่อ เอื้อมระอา ” ช่วยตัวเองไม่ได้

เมื่อเวลา 09.00 น วันที่ 9 ก.พ 60 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ รพ.สารภี บวรพัฒนา ต.ชมภู อ.สารภี เชียงใหม่ ว่ามีผู้ป่วยรายหนึ่ง เป็นถึงอดีตนักมวยภาคเหนือ เกิดภาวะเส้นเลือดสมองตีบตันและเป็นอัมพฤกษ์ เดินไม่ได้มารับการรักษา ด้วยการกายภาพบำบัดที่ รพ. จนอาการดีขึ้นสามารถเดินได้ขยับแขนขาได้ และได้อาสาเป็นเจ้าหน้าที่จิตอาสา มาช่วยแพทย์ พยาบาล ในการดูแลผู้ป่วยรายต่อไปอีกด้วย

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง รพ.สารภี บวรพัฒนา บริเวณอาคารกายภาพบำบัดและได้พบกับ นายเสน่ห์ เตชะ อายุ 56 ปี อดีตนักมวยดังภาคเหนือ และผู้รับเหมาก่อสร้าง บ้านเดิมเลขที่ 6/3 หมู่ 3 ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ โดยนายเสน่ห์ ได้ช่วยให้คำแนะนำผู้ป่วยรายอื่น และคอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วย ช่วยงานแพทย์และพยาบาลของรพ. โดยมีคนไข้ที่มากายภาพบำบัดจำนวนมาก นายเสน่ห์ จะเข้าให้คำแนะนำและช่วยเหลือคนไข้ ไม่เห็นแก่เหน็ด เหนื่อย

นายเสน่ห์ เตชะ เจ้าหน้าที่จิตอาสา ได้เปิดเผยวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนนั้นเมื่อก่อนมีอาชีพเป็นนักมวยไทยอาชีพ เคยต่อยมาแล้ว 80 ครั้ง ชนะคะแนน 60 ครั้ง นอกนั้นแพ้น๊อค ประมาณ 20 ครั้ง ก็แล้วแต่โอกาสจังหวะ ใช้ชื่อต่อยมวยไทยครั้งนั้นว่า “น้องสิงห์ ศักดิ์อุดร” ตระเวนเดินสายต่อยมวยทั้งอีสาน เหนือ ภาคกลาง และยังเคยไปลงนวมเป็นคู่ซ้อมให้กับ เขาทราย กาแลคซี่ และ สด จิตรดา อีกด้วย ตอนที่ เขาทรายกับ สด ขึ้นมาป้องกันแชมป์ที่เชียงใหม่ ตนนั้นเริ่มต่อยมวยเมื่อ อายุ 13 ปี ต่อยเรื่อยมา กระทั่งล่าสุดเมื่อปี 57 ยังหันเหชีวิตมาต่อยมวยย้อนยุค ด้วยตามอายุ

ก่อนที่จะต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ เมื่อประมาณปี 57 ขณะที่ตนกำลังนั่งพูดคุยกับเพื่อน ๆ นั้นรู้สึกวูบ เวียนศีรษะ อาเจียน ยังได้ยินเพื่อนได้บอกว่าให้นั่งลง หายใจลึก ๆ ตนก็ทำตามและเมื่อรู้สึกดีขึ้น ก็ได้ไปที่รถและขับรถมายังรพ.สารภี ด้วยตนเอง ค่อย ๆ ขับมาโดยเปิดไฟกระพริบตลอดทาง มายัง รพ. เมื่อไปถึงก็เอารถไปจอดในที่จอดเรียบร้อย ตั้งสติได้ก็เดินไปพบหมอ พอถึงหมอแค่นั้นก็ไม่ไหว ลุกไม่ได้ หมอบอกอาการหนักมาก เส้นเลือดตีบตัน โชคดีที่เส้นเลือดที่สมองไม่แตก จากนั้นตนก็เดินไม่ได้ นอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สารภี ระยะหนึ่ง ก็ได้ถูกส่งตัวมากายภาพบำบัด ที่ รพ.สารภี บวรพัฒนา (สารภี 2 ) ต่อ ทางแพทย์และพยาบาลเจ้าหน้าที่ ก็ได้ดูแลตนทำการรักษาให้ตนได้กายภาพบำบัดทุกวัน วันละ 20-30 นาที ตนก็ปฏิบัติตามหมอ ,พยาบาล เจ้าหน้าที่ก็ให้คำแนะนำตลอดทุกวัน

จนอาการดีขึ้นตามลำดับ และทราบว่า รพ.แห่งนี้ เป็น รพ.ที่ทางพระครูสิริศีลสังวร หรือครูบาน้อย เตชะปัญโญ เจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล อ.สารภี ร่วมกับประชาชนและศิษยานุศิษย์ รวมทั้งผู้มีจิตศรัทธา ได้ร่วมกันหาทุนมาสมทบกับทางภาครัฐ จนเกิดเป็น รพ.สารภี บวรพัฒนาขึ้น ถือว่าเป็น รพ.ที่มีเครื่องมือในการกายภาพบำบัดที่ทันสมัยอีกแห่งหนึ่ง ตนก็รักษาด้วยทำกายภาพบำบัด จนสามารถเดินได้ในที่สุดใช้ระยะเวลา ประมาณ 1 ปี กว่า รพ.สารภี บวรฯ นั้นทางพระครูบาน้อย ท่านเปิดโอกาสให้กับคนทุกชนชั้น ไม่แบ่งแยก ตนซาบซึ้งอย่างมาก

เมื่อหายดีแล้วก็อยากจะตอบแทน รวมทั้งทางรัฐบาลเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยที่หายดีแล้ว ได้ทำงานกลับมารับใช้ช่วยเหลือผู้อื่นอีก ตนจึงได้สมัครเป็นจิตอาสา มาช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีอาการแบบเดียวกับตน หรือที่มากายภาพบำบัด ให้คำแนะนำและคอยช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่น เป็นการแบ่งเบาภาระให้กับหมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ใน รพ.แห่งนี้ ด้วย ความรู้ก็ได้มาจากตอนที่ตนรับการรักษาจากหมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ ก็จำและอาศัยความที่เคยเจ็บป่วยมาก่อน จึงได้ถ่ายทอดและให้คำแนะนำกับผู้ป่วยรายอื่นได้อย่างแม่นยำ และถูกวิธีเลยทีเดียว พร้อมทั้งพูดให้กำลังใจกับผู้ป่วยบางรายที่เกิดอาการท้อแท้ ให้ต่อสู้ต่อไปอีก เป็นความภาคภูมิใจของตนอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสตอบแทนบุญคุณภาครัฐ และทางครูบาน้อย ในการช่วยเหลือประชาชน

ตอนที่ตนล้มป่วยแบบฉับพลันนั้นเพื่อน ๆ ด้วยกันแทบไม่เชื่อ เพราะตนนั้นเป็นนักมวยสภาพร่างกายแข็งแรงมาก แต่ก็ต้องเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาธ แบบนี้ และมีเพื่อนของตนอีกคนที่เป็นนักมวยเช่นกัน ชื่อในการชกมวย คือ “ไฟแดงเล็ก เพชรภูธร” ก็เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาธ เหมือนกับตนและก็มากายยภาพบำบัดที่ รพ.แห่งนี้ก็หายแล้วเช่นกัน เดินทางไปทำงานที่ภาคกลางแล้วในขณะนี้ การเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาธ นั้นจะเป็นอย่างฉับพลัน ก็ให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่าประมาท โรคพวกนี้ถือว่าเป็นโรคที่ญาติพี่น้อง แม้แต่ลูกหลาน ยังเอื่อมระอา ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ เป็นภาระของลูกหลาน ผู้ป่วยเองก็จะรู้สึกไม่สบายใจ ทรมานอย่างมากทั้งกาย-จิตใจ

สำหรับตนนั้นได้เช็คประวัติบรรพบุรุษของตน ก็ทราบมาว่า การเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาธ ของตนในครั้งนี้น่าจะมาจากกรรมพันธ์ุ พ่อแม่พี่น้องของตนเป็นกันทุกคน วิธีแก้ไขรักษาก็มีคือต้องออกกำลังกายให้พอดีกับร่างกาย ดื่มน้ำเยอะ กินอาหารที่ถูกต้อง แค่นั้นเองโรคอัมพฤกษ์ อัมพาธ ก็จะห่างไกล นี่จำมาจากคุณหมอที่ให้คำแนะนำและรักษาผม บางรายไปหาหมอไม่ทัน เส้นเลือดสมองแตก เสียชีวิตก่อนก็มี เพื่อนผมที่เป็นนักมวย อีกคนชื่อ ในการต่อยมวย ว่า “รัตนัย ชัยนิยม” เพื่อนนักมวยก็เส้นเลือดสมองแตกเสียชีวิตไปแล้ว ทำให้ตนกับเพื่อนนักมวยต้องมีสติ และเมื่อมาถึงตนเองก็ต้องรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ พยาบาลอย่างเคร่งครัด แล้วก็จะดีขึ้น

ผู้ป่วยอีกราย พล.ต.ต.สุวัฒน์ กรึงไกร อายุ 68 ปี อดีต รอง ผบช.ภาค 5 ซึ่งได้เข้ามาทำกายภาพบำบัดที่ รพ.สารภีบวรพัฒนา เช่นกัน ได้เปิดเผยว่า ตนนั้นจู่ ๆ ขณะนอนอยู่ก็เกิดอาการปากเบี้ยว แขนขาไม่มีแรง คล้ายเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาธ ถูกนำตัวส่ง รพ.เมื่อประมาณเดือน ต.ค. 59 และแพทย์ได้ทำการรักษา กระทั่งต่อมาก็ได้ถูกส่งตัวมากาย ภาพบำบัดที่ รพ.สารภีบวรพัฒนา แห่งนี้ ตอนนี้เริ่มอาการดีขึ้น โรคนี้จะมาหาทุกคนในช่วงอายุ ประมาณ 50-60 กว่าปี ทุกคนทรมานอย่างมาก ญาติพี่น้องต้องมาเดือดร้อน ทรมานทั้งจิตใจและกาย แต่ก็มีวิธีการป้องกัน คือ ออกกำลังกาย กินอาหารที่ไม่ทอดไม่มีไขมันมาก

ด้านนายเหลี่ยว อั่นได ผู้ป่วยชาวเวียดนาม อายุ 89 ปี ที่มาอยู่ในประเทศไทย และเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง และถูกส่งตัวมาบำบัดรักษาที่ รพ.แห่งนี้ และญาติพี่น้องก็ปล่อยทิ้งไว้ไม่เคยมาอีกเลย ทาง รพ. ก็ได้ให้ดูแล โดยคุณลุงได้เปิดเผยว่า โรคกล้ามเนื้อขาอ่อนแรง โรคเส้นเลือดสมองแตก อุดตัน ทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาธ นั้นถือว่าเป็นโรคที่ญาติพี่น้องเบื่อ เอื้อมระอา เพราะช่วยตัวเองไม่ได้ ลูกหลานต้องคอยมาเช็ดอุจจาระ ปัสสาวะต่าง ๆ แม้แต่คนไข้เองก็รู้สึกไม่สบายใจ เกรงใจลูกหลานอย่างมาก หากอาการไม่หนักกายภาพบำบัดแล้ว อาการจะดีขึ้นลุกเดินไปห้องน้ำได้ก็ถือว่าโชคดีไป แต่หากเดินไม่ได้ต้องนอนตลอดชีวิตนั้นถือว่า เป็นเวรกรรม ทรมานที่สุด ทั้งคนไข้และญาติพี่น้องเอง ออกกำลัง และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่สะสมไขมัน หรือน้ำตาล ดีที่สุด

น.ส.หิรัญญา อารี นักกายภาพบำบัด รพ.สารภี บวรพัฒนา เปิดเผยว่า คุณเสน่ห์ นั้นเมื่อก่อนเป็นผู้ป่วยที่นี่มารับการรักษาบำบัดจนอาการดีขึ้น แล้วท่านก็อุทิศตนเป็นจิตอาสาให้กับ รพ. อาศัยประสบการณ์ และจำคำแนะนำของแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ คุณเสน่ห์ช่วยทาง รพ.ได้เยอะเลย พูดให้กำลังใจผู้ป่วยได้อย่างดี การมาทำกายภาพบำบัดนั้นอันดับแรก ผู้ป่วยจะต้องมาเข้าเครื่องเป็นเตียงปรับระดับก่อน ตรวจวัดความดัน เตียงนี้จะปรับระดับให้ผู้ป่วยได้ลุกยืนให้เลือดได้เดินสะดวก จากนั้นก็ทำการกายภาพบำบัดต่อเนื่องเลย ตอนนี้ก็มีผู้มาทำการกายภาพบำบัดหลายราย ทั้งอดีตข้าราชการ ตำรวจ ทหาร ประชาชนทั่วไป โดยมีคุณเสน่ห์ ให้คำแนะนำและให้กำลังใจผู้ป่วยตลอด ช่วยได้เยอะเลย

ร่วมแสดงความคิดเห็น