หลายฝ่ายเร่งแก้-ปัญหาน้ำแม่ข่า-ใช้แบ็กโฮขุดลอก ชลประทานร่วมปภ. เดินหน้าล้างคลอง

ปัญหาน้ำเน่าปลายคลองแม่ข่าพื้นที่ป่าแดดได้ข้อสรูป เบื้องต้นชลประทานรับปากช่วย เปิดน้ำในคลองแม่ข่าทิ้งพร้อมเปิดน้ำจาก ปตร.ท่าวังตาลเจือจางในอัตรา 1 ต่อ 10 ซึ่งไม่กระทบเลี้ยงปลาในกระชัง พร้อมเตรียมซ่อมประตูระบายน้ำที่กักน้ำช่วยเกษตรกรใช้น้ำจากคลองแม่ข่าน้อยและส่งแบ็คโฮช่วยขุดลอกเพื่อให้น้ำไปช่วยเกษตรกรในพื้นที่หางดงได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น “ปวิณ” เตรียมเรียกทุกฝ่ายวางแผนการบริหารจัดการน้ำทั้งคลองแม่ข่าและแม่ข่าน้อยอย่างเป็นระบบ เกษตรกรต้องได้ใช้น้ำอีกทางน้ำต้องไม่ถูกขังนานจนส่งกลิ่น แย้มได้งบเพิ่มเติมมาแล้ว 40 ล้านบาท ให้ชลประทานดำเนินการปรับปรุงคลองต้นน้ำตั้งแต่แม่สาถึงสุขิโต หวังได้น้ำดีมาช่วยเติมคลองแม่ข่าได้ตลอดปี
วันนี้ 11 ก.พ.60 ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลป่าแดด นายศรัณยู มีทองคำ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมี นายเจนศักดิ์ ลิมปิติ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ นายชาตรี เชื้อมโนชาญ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ นายรุ่งปรีชา ปั๋นแก้ว นายกเทศมนตรีตำบลป่าแดด พร้อมด้วยผู้บริหารและสมาชิกสภาฯ นายวีระชัย ไชยมงคล กำนันตำบลป่าแดด ,ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และประชาชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ำ ได้ร่วมกันประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่า หลังจากมีการลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีดังกล่าว หลังจากมีชาวบ้านป่าแดด หมู่ที่ 7 ได้รวมตัวชูป้ายประท้วงเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือหลังจากที่ทนกลิ่นเน่าเหม็นจากน้ำเสียจากคลองแม่ข่าที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ก่อนไหลสู่แม่น้ำปิงที่ ต.ป่าแดด

เสร็จสิ้นการประชุม นายเจนศักดิ์ ลิมปิติ ผอ.ชลประทานเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ “เชียงใหม่นิวส์” ว่า ปัญหาเกิดจากน้ำเสียคลองแม่ข่าไปขังอยู่ที่ ต.ป่าแดด และชาวบ้านทนไม่ไหว เพราะกลิ่นเริ่มรุนแรงเพิ่มขึ้น เนื่องจากฝายที่จะไปแม่ข่าน้อยมีเกษตรกรส่วนหนึ่งต้องใช้น้ำสำหรับปลูกข้าว แต่อีกฝั่งอยากให้เปิดประตูน้ำเพื่อระบายน้ำเสียคลองแม่ข่าออกไปก่อนเพราะกลิ่นเหม็น ซึ่งก่อนที่จะมีการประชุมในวันนี้ ได้มีการปล่อยน้ำจากคลองแม่ข่าที่ส่งกลิ่นเหม็นลงไปในแม่น้ำปิงแล้วในอัตรา 1 ลบ.ม.ต่อวินาที พร้อมกันนี้ได้เปิดน้ำจากประตูระบายน้ำท่าวังตาลเพิ่มขึ้นในอัตรา 10 ลบ.ม.ต่อวินาที ก็ทำให้น้ำในคลองแม่ข่าที่ขังอยู่นั้นลดลงไปได้เกือบหมด ซึ่งจากการสอบถามผู้เลี้ยงปลาในกระชังด้านท้ายแม่น้ำปิงทราบว่าปริมาณน้ำที่ปล่อยเช่นว่านี้ไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด

“เรื่องที่ชลประทานเชียงใหม่โดย สำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ รับปากที่จะดำเนินการให้ มีด้วยกัน 7 เรื่องด้วยกัน อย่างแรกได้มีการประสานกับทางเทศทางบาลนครเชียงใหม่ เพื่อเปิดเอาน้ำดีลงคลองแม่ข่าบริเวณอุ่นอารีย์ ซึ่งเทศบาลนครเชียงใหม่ก็ได้ดำเนินการให้แล้ว นอกจากนี้ทางชลประทานจะช่วยดำเนินการพิจารณาพื้นที่แก้ลิงเพิ่มเติมโดยจะร่วมกับเทศบาลนครเชียงใหม่ทำการสำรวจ อย่างเช่นที่หนองเขียว และหนองน้ำที่ใกล้เคียง เพื่อจะได้มีน้ำมาเติมคลองแม่ข่าได้ โดยคาดว่าจะใช้น้ำจากที่หนองเขียว หรือหนองเล็กๆ ซึ่งอยู่ถัดขึ้นไปบริเวณหลังที่ว่าการอำเภอเมืองแห่งใหม่ เพื่อนำมาเติมในคลองแม่ข่าได้” ผอ.โครงการชลประทานเชียงใหม่ แจง

นายเจนศักดิ์ฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ทางชลประทานโดยโครงการชลประทานแม่แตงจะนำประตูระบายน้ำใหม่มาติดตั้งให้แทนประตูเดิมที่ชำรุด ตรงประตูระบายน้ำที่กั้นระหว่างคลองแม่ข่ากับคลองแม่ข่าน้อย เพราะประตูระบายน้ำตัวนี้มีความสำคัญต่อเกษตรกรกลุ่มหนึ่งในพื้นที่อำเภอหางดง เพราะหากปิดน้ำคลองแม่ข่าน้อยจะเท้อขึ้นไปด้านบนแล้ววกกลับในใช้สำหรับการทำการเกษตรในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งหากดำเนินการซ่อมแซมประตูระบายน้ำและก่อสร้างอาคารอัดน้ำเพิ่มให้คาดว่าน้ำจะเข้าไปยังพื้นที่หางดงได้ดีขึ้น และจะลดปริมาณน้ำขังในคลองแม่ข่าในพื้นที่ หมู่ที่ 7 ต.ป่าแดด ได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ทางชลประทานเสนอที่จะนำรถแบ็คโฮมาช่วยขุดลอกในบริเวณที่ตื้นเขินออกให้ ระยะประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ โดยขอให้ทางเทศบาลตำบลป่าแดดเข้าดูแลในการเตรียมพื้นที่ที่จะเข้าทำงาน กับพื้นที่ที่จะทิ้งดินให้ในประเด็นนี้ซึ่งเป็นเรื่องข้อขัดแย้งการใช้น้ำของประชาชนใน 2 พื้นที่ คือ การใช้น้ำสำหรับการเกษตรและน้ำเสียที่ต้องปล่อยลงแม่น้ำปิง

นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากที่ทางชลประทานเชียงใหม่เข้าไปดำเนินการแก้ไขทั้งประตูระบายน้ำและการขุดลอกคลองแม่ข่าน้อยแล้ว จะต้องมีการประชุมร่วมกันของผู้ใช้น้ำและประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าวกันอีกครั้ง เพื่อกำหนดแผนการบริหารจัดการน้ำบริเวณดังกล่าวให้ชัดเจน ปัญหาของน้ำจากคลองแม่ข่าซึ่งหาถูกกักไว้นานจะส่งกลิ่นเน่า ต้องมีระยะเวลาในการที่จะต้องปล่อยลงแม่น้ำปิง ซึ่งต้องสัมพันธ์กับปริมาณน้ำที่จะต้องปล่อยจากประตูระบายน้ำท่าวังตาลเพื่อลงมาเจือจางอีกทางด้วย ส่วนเกษตรกรที่ยังต้องใช้น้ำจากคลองแม่ข่าน้อยเพื่อทำการเพาะปลูกก็ต้องมีตารางการใช้น้ำให้เกษตรกรกลุ่มนี้ให้ชัดเจนเพื่อบริหารการเพาะปลูกได้

“เรื่องเร่งด่วนซึ่งทางโครงการชลประทานเชียงใหม่ได้แนะนำมาคือ การร้องขอไปยังศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง เพื่อนำรถสูบส่งระยะไกลเข้ามาช่วยสูบน้ำจากแม่น้ำปิงเข้ามาลงคลองแม่ข่าเพื่อเจือจางน้ำในคลองแม่ข่า โดยคาดว่าจะตั้งจุดสูบบริเวณสะพานป่าแดดใกล้ตำรวจภูธรภาค 5 แต่ต้องมีการสำรวจก่อนว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ จะติดปัญหาอะไรหรือเปล่า โดยเฉพาะการกีดขวางการจราจร” ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว

นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า สำหรับโครงที่จะดำเนินการในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่เพิ่งได้รับงบประมาณเพิ่มเติมจากงบกลุ่มจังหวัดราว 40 ล้านบาท เป็นงบประมาณที่ให้กรมชลประทาน โดยสำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ ดำเนินการขุดลอกและสร้างระบบจากน้ำแม่สา อ.แม่ริม มายังคลองแม่ข่าบริเวณหมู่บ้านสุขิโต อันเป็นการพัฒนาปรับปรุงแนวคลองที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพ เพื่อนำน้ำมาลงคลองแม่ข่า เพื่อให้คลองแม่ข่าได้มีน้ำดีไหลผ่านคลองตลอดทั้งมี คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2560 นี้ ส่วนงบประมาณ 50 ล้านบาท ที่บอกว่าจังหวัดเชียงใหม่ได้มาก่อนหน้านี้นั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

ร่วมแสดงความคิดเห็น