ดวงจิตต์.เกษตรมือใหม่ ปลูกเมล่อน- องุ่น ได้ผล ที่ต.สันนาเม็ง

วันนี้พามาชมสวนเกษตรมือใหม่ บ้านร้องสัก ม.1 ต.สันนาเม็ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ แถมยังเรียนรู้มาจากอินเตอร์เน็ตอีกด้วย จากจนท.แบงค์ มาเป็นคนทำสวน ทำการเกษตร หลังจากที่ลาออกจากวงการธนาคาร พี่จิต. นางดวงจิตต์ พงษ์ศธรพิสุทธิ์ ก็มาพักสมองอยู่ระยะหนึ่งก็เมื่ออยู่ว่างๆ เลยมีไอเดีย์ในด้านการเกษตรขึ้นมา โดยเอาพื้นที่บ้านที่ซื้อไว้ 1 ไร่มาทำการเกษตรแบบมือใหม่หัดทำ ที่อาศัยความรู้จากทางเน็ตมาช่วยและได้ต้นพันธุ์บางอย่างมาจากเพื่อนๆบ้าง ซื้อมาบ้าง ก็ปลูกตามพื้นที่ที่มีอยู่ เริ่มแรกก็ปลูกต้นใบหม่อน มะนาว มะละกอ พริก เสาวรส กล้วย ฝรั่ง ตามรอบๆ บ้านก่อน ใช้เวลาเพียงเดือนนิดๆบางอย่างก็ออกผลมาให้เห็นก็เลยทำให้มีกำลังใจขึ้นมาทันที เรียกว่าพร้อมสู้กับงานนี้แล้ว

จากนั้นก็มีคามคิดหันมาปลูกเมล่อนอยู่สองสายพันธุ์ มีสายพันธุ์เฟรมและสายพันธุ์บิวตี้ ที่ปลูกอยู่ 100 กว่าต้น โดยเฉพาะเจ้าเมล่อนต้องผสมเกษรเองด้วย อย่างที่บอกเรียนรู้จากโลกอินเตอร์เน็ตและกลุ่มผู้รู้อีกนิดหน่อย ที่ให้ความรุ้มา พร้อมกับองุ่นไร้เม็ด 20 ต้น ที่ได้มาจากม.แม่โจ้ ซึ่งตอนนี้ก็ปลูกไว้ในโรงเรือนคู่กับเมล่อน กำลังออกลูกตามที่ต้องการเลย แต่ก็ต้องดูแลเป็นอย่างดี พร้อมกับการให้น้ำ ให้ปุ๋ย ที่เน้นใช้ปุ๋ยธรรมชาติประเภทขี้วัว ควาย และแกลบ นำมาผสมกัน ถือว่าเป็นปุ๋ยชั้นดีมาก พี่จิตบอกว่าเราปลูกเอง และอยู่ใก้ลชิดแบบนี้ก็ต้องระวังเรื่องสารเคมี จึงไม่นำมาใช้ จะขอเน้นแบบปุ๋ยธรรมชาติและปุ๋ยอินทรีย์นี่แหละค่ะปลอดภัยดี รอบๆต้นองุ่นก็จะมีผักสลัดปลูกด้วยรอบๆเลย

ซึ่งตอนนี้เท่าที่ปลูกมาในช่วงระยะเดือนกว่าๆนี้ พืชผักที่ปลูกต่างก็ออกมาได้สวยงาม และเห็นผลมาแล้วหลายอย่างสร้างรอยยิ้มและกำลังใจให้กับมือใหม่หัดปลูกเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมล่อน จะหนักใจนิดหนึ่งในการปลูกเพราะต้องเอาใจใส่ตั้งแต่ต้นจนจบ แบบว่าเมื่อผสมเกษรแล้วต้องรอให้ติด ติดแล้วเมื่อมีลูกออกมา ก็ต้องเอาเชือกมาแขวลูกเอาไว้ด้วย เพื่อไม่ให้ตกลงดิน อ้อ..ลืมบอกไปว่า ต้นหนึ่งจะมีแค่ลูกเดียวเท่านั้น ถึงจะออกลูกมาสาม สี่ ลูกก็ตามต้องตัดทิ้ง หรือนำมาจิ้มกับน้ำพริกก็อร่อยนะ อย่างที่เห็นนี้แหละ นี่ก็ได้ 10 กว่าวันแล้วที่ออกลุกมาให้เราได้ดูแล นอกจกานั้นก็ต้องมีการตัดใบ ตัดยอดทิ้งอีกมีวิธีนับใบที่ตัดออกอีก เพื่อให้อาหารได้มาเลี้ยงลูกเมล่อนได้เต็มที่ และลูกเมล่อนก็จะใหญ่ตามที่ต้องการ ส่วนจะนำมากินได้นั้นก็ต้องใช้เวลาถึง 50 วัน ก็จะได้รสชาติที่หวาน หอม กรอบ อร่อย

กว่าจะได้ผลผลิตที่นำมากิน มาจำหน่ายก็ใช้เวลาพอสมควรและต้องดูแลเป็นอย่างดี เกษตรมือใหม่อย่างพี่จิตบอกว่า ไม่เหนื่อยนะ หรือว่าเราเพิ่งเป็นเกษตรมือใหม่ที่ตื่นเต้นอยู่ (หัวเราะ) ส่วนพื้นที่ด้านหลังที่เหลือไว้ก็จะมีโครงการปลูกบ้านหลังเล็กๆไว้ เพื่อเป็นที่พักผ่อน และรอบบ้านก็จะมีพืชผักสวนครัว รั้วกินได้ ปลูกไว้รอบๆเลย และด้านหน้าบ้าน-สวนก็จะทำร้านกาแฟเล็กๆไว้รองรับเพื่อนๆน้องๆที่มาเที่ยวหา นั่งจิบกาแฟกันไป ชมสวนกันไป นี่เป็นโครงการที่วางไว้สำหรับคนสวนมือใหม่เจ้าค่ะ

ส่วนมะละกอ ต้นกล้วย พริก ที่กำลังออกผลอยู่รอบนอกรั้วนั้น ก็เป็นการปลูกไว้ก่อนแล้ว เพื่อเอาไว้กิน แต่ตอนนี้ก็ออกมาเยอะมาก โดยมะละกอและพริก ก็ได้แจกให้ชาวบ้านแถวนี้ไปกินกันแทบทุกวัน ใครอยากได้ก็แบ่งให้ไป ก็มีความสุขดีค่ะ เพราะเราไม่คิดอะไรมาก ทำแล้วมีความสุขดี ก็ทำไปเรื่อยๆ แต่สวนเกษตรในบ้านก็มีขายบ้าง เพราะเราได้เอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษ และเป็นผลไม้ที่ออกอยากด้วย วันนี้ท.ลุงเกษตร ได้มาเห็นนักเกษตรมือใหม่ ปลูกได้ขาดนี้ ถือว่าสุดยอดเหมือนกัน

อนาคนพี่จิต บอกว่าที่แปลงนี้จะเต็มไปด้วยผัก ผลไม้หลายๆอย่าง ที่เราได้ปลูกกันขึ้นมา เท่าที่เห็นนี้ก็มี 50-60 อย่างแล้ว เพียงแต่ว่ายังไม่ออกดอก ออกผลเท่านั้น กำลังปลูก เชื่อว่าสวนเกษตรแปลงนี้อีกไม่นานก็ต้องเป็นที่ศึกษาดูงานและศูนย์เรียนรู้เกษตรมือใหม่แน่นอน ท.ลุงเกษตรก็ขอเอาใจช่วยสู้สู้ นะครับ ใครที่สนใจจะมาเรียนรู้ ก้โทรมาสอบถามได้เลยที่ 095-434 7592 แล้วจะรู้ว่า เกษตรตามพ่อสอนมีคุณค่าแค่ไหน