ชลประทานแถลงแจงเหตุ หินในอุโมงค์ผันน้ำถล่มทับ 2 นักธรณี แย้งกับวิศวกรคุมงาน

จากกรณีเหตุอุโมงทาง เข้า-ออกหมายเลข 6 ในโครงการอุโมงค์ผันน้ำ เขื่อนแม่งัด-แม่กวง ได้เกิดชั้นหินทรุดตัวแล้วเกิดหล่นทับใส่ 2 นักธรณีวิทยา ของบริษัทอิตาเลี่ยนไทย ที่เข้าไปดำเนินการสำรวจตรวจสอบชั้นดิน เพื่อให้วิศวะกรวางแผนในการสร้างโครงสร้างค้ำยัน จนทำให้เสียชีวิต ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วในช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น โดยในส่วนของความคืบหน้าล่าสุดของวันเดียวกันนี้ เวลาประมาณ 13.30 น. วันที่ 2 มี.ค.60 ที่สำนักงานก่อสร้างชลประ ทานขนาดใหญ่ที่ 1 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายวิทย์ วงษ์กมลชุณห์ ผอ.สำนักงานฯ พร้อมด้วย รศ.ดร.นพดล เพียรเวช ผู้เชี่ยวชาญงานก่อสร้างอุโมงค์ กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

โดยทาง นายวิทย์ วงษ์กมลชุณห์ ผอ.สำนักงานฯ กล่าวว่า จากเหตุหินถล่มลงมาทับใส่นักธรนีวิทยาที่เข้าไปสำรวจอุโมงค์ เข้า-ออก หมายเลข 6 ซึ่งมีบริษัทอิตาเลี่ยนไทย เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างบริเวณ กม.0+633 เนื่องจากมีหินร่วงหล่นลงมาจากผนังอุโมง ในช่วงเวลาประมาณ 07.30 น. ส่งผลให้นักธรณี 2 คน ถูกก้อนหินขนาดกว้างประมาณ 1 เมตร ลึก 1 เมตร และยาว 3 เมตร พื้นที่ประมาณ 3 ตารางเมตร ที่เป็นจุดที่หินหล่นใส่นักธรณีวิทยาทั้ง 2 คน ตามที่ได้มีรายงานออกมาแล้วนั้น ซึ่งทางตนต้องขอแสดงความเสียใจกับทางญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ด้วย ส่วนการดำเนินการในการช่วยเหลือเยี่ยวยาผู้เสียชีวิต ขณะนี้ทางกรมชลประทานจะได้ช่วยเหลือเงินในการจัดพิธีศพ ให้กับทางญาติผู้ตาย รายละ 5 หมื่นบาท และในส่วนของสวัสดิการต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับทางบริษัทต้นสังกัด ที่คาดว่าจะให้ความช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่

ขณะที่ทางด้าน รศ.ดร.นพดลเพียรเวช ผู้เชี่ยวชาญงานก่อสร้างอุโมงค์ กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา กล่าวว่า การเกิดเหตุครั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า ในส่วนของอุโมงค์ที่คืบออกไปประมาณ 3 เมตร พบว่าเริ่มมีการแตกร้าวซึ่งเป็นช่วงบังเอิญที่ทางนักธรณีวิทยาได้เข้าไปหลังจากที่คนงานชุดอื่น ได้เข้าไปทำงานส่วนข้างหน้าออกมากันแล้ว และบังเอิญว่ามีการแตกร้าวถึงจุดพอดี ซึ่งโครงสร้างค้ำยันที่เพิ่มเข้าไปอาจจะยังไม่เพียงพอ จึงทำให้เกิดหินร่วงตกลงมา ที่สาเหตุนั้นเกิดจากสภาพทางธรณีวิทยาที่บางครั้งหลังผนังผุอุโมงค์ออกไป ไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามีอะไรอยู่บ้าง แต่อย่างรก็ตามคนที่เข้าไปปฏิบัติงานนั้น ก็มีการเทรนมาอย่างดี เนื่องจากการเข้าไปปฏิบัติงานส่วนที่ขุดหน้างานนั้น มีอันตราย และผู้เข้าไปปฏิบัติงาน ก็จะต้องมีความระมัดระวัง และมีมาตรการในการปฏิบัติงานอย่างถูกต้อง

ขณะเดียวกันจากรายงานที่ทราบเบื้องต้น ระบุว่ามีการตรวจพบรอยร้าวแต่พอหินจะหล่นลงมานั้นก็เกิดแตกขึ้นทันที ซึ่งจะไม่เหมือนดินที่ค่อยๆ ไหลลงมา ทำให้นักธรณีวิทยาทั้ง 2 คน หลบไม่ทัน สำหรับพื้นที่ที่ปฏิบัติงานนี้นั้นเป็นพื้นที่หินที่โดนดันโดนผลัก ซึ่งจะมีรอยแตกค่อนข้างมากแต่หินบางชนิดนั้นมีความแข็งมาก เมื่อแตกมากก็ไม่ค่อยมีความอันตรายมากเท่าไหร่ แต่หินที่มีรอยแตกเยอะ และใกล้กับรอยเลื่อนและหากมีน้ำใต้ดินก็จะยิ่งอันตราย ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับสภาพของหินว่าเป็นอย่างไร ประกอบกับวิธีการขุดเจาะที่ใช้ขุดระเบิดและใช้ใส่ค้ำยัน ที่จะต้องดูสภาพธรณีและปรับวิธีการก่อสร้างเพื่อให้เข้ากับสภาพธรณีวิทยา รวมทั้งค้ำยัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้มีการดำเนินการมาอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นนี้ น่าจะมาจากธรณีวิทยาเป็นหลัก เนื่องจากบางครั้งสามารถจะหยั่งรู้ได้ว่าการขุดเจาะอุโมงค์ เมื่อมีการวางหลังคาอุโมงค์แล้ว ด้านหลังจะมีความเลวร้ายขนาดไหน แต่ถ้าหากมีน้ำใต้ดินไหลมามากๆ ก็จะสามารถรู้ได้เลยทันทีว่ามีน้ำใต้ดิน แต่จากการที่ตรวจสอบก็พบว่าไม่มีน้ำใต้ดิน ซึ่งจากการตรวจสอบโครงสร้างก็พบว่ามีความปกติดี และหินชุดนี้เริ่มพบเจอประมาณ 30-40 เมตร ที่ผ่านมาและพบว่าก่อนหน้านั้นมา    สภาพแย่ยิ่งกว่าจุดเกิดเหตุ และพบว่าเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ

แต่บังเอิญว่าบริเวณฝั่งซ้ายตามข้อมูลที่ตนทราบมาพบว่า มีรอยแตกมาก จึงทำให้เกิดร่วงหล่นลงมาเนื่องจากปกติแล้วสภาพทั่วไป ได้มีการใส่คอนกรีตพ่น และใส่สลักให้ดีแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาซึ่งเป็นเรื่องที่ทำกันมาตลอด และบังเอิญจุดที่ลงนี้ก็ไม่ได้เป็นบริเวณขุดใหม่ และมีการใส่ที่ค้ำยันแล้ว ส่วนหินที่หล่นลงมาก็มีลักษณะเป็นก้อนใหญ่ จับจังหวะที่นักธรณีทั้ง 2 คน ไปยืนอยู่ฝั่งซ้ายซึ่งเป็นจุดที่หินถล่มลงมาพอดี

เกิดเหตุสลด อุโมงค์ส่งน้ำแม่งัด-แม่กวง ถล่มทับนักธรณีวิทยา เสียชีวิต 2 คน

ร่วมแสดงความคิดเห็น