เชียงใหม่ ร่วมกับ ชุมชนควรค่าม้าสามัคคีพัฒนา จัดกิจกรรม “เตวแอ่วเวียง”

จ.เชียงใหม่ ร่วมกับชุมชนควรค่าม้าสามัคคีพัฒนา ชุมชนดั้งเดิมของเชียงใหม่ จัดกิจกรรม “เตวแอ่วเวียง” ส่งเสริมการพัฒนาชุมชนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชีวิต มีความเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิม อนุรักษ์ไว้ซึ่งความสวยงาม พร้อมก้าวสู่เมืองแห่งมรดกโลก ด้านพ่อเมืองชื่นชม เตรียมผลักดันให้ชุมชนต่างๆ ทำเป็นแบบอย่าง

เมื่อช่วงเช้าเวลา 09.30 น. วันที่ 4 มี.ค.60 นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ ได้เดินทางร่วมกิจกรรม “เตวแอ่วเวียง” ที่ทางชุมชนควรค่าม้าสามัคคีพัฒนา ชุมชนดั้งเดิมร่วมกันจัดขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและชักชวนชาวเชียงใหม่ นักท่องเที่ยว และผู้สนใจเข้า มาทำความรู้จักกับ ชุมชมควรค่าม้าสามัคคีพัฒนา ที่มีชีวิตความเป็นอยู่ในลักษณะของเครือญาติ ที่ยังคงมีการทำกิจกรรมร่วมกันในเทศกาลสำคัญต่างๆ รวมทั้งช่วยเหลือกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ซึ่งนับวันยิ่งหาได้ยากยิ่งในเมืองใหญ่ และเพื่อเป็นการส่งต่อวิถีชุมชนอันกลมกลืนกันของคนรุ่นเก่า คนรุ่นใหม่ และคนต่างถิ่น โดยมีกลุ่มภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมประชาชนและนักท่องเที่ยว เข้าร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นจำนวนมาก ณ บริเวณถนนสิงหราช ซอย 3 , 4 และถนนอารักษ์ ซอย 2 , 3

ซึ่งกิจกรรม ที่จัดขึ้นครั้งนี้ถือเป็นการจัดขึ้นเป็นครั้งแรกของชุมชน และเป็นการนำร่องเชิญชวนให้ชุมชนต่างๆ ทำเป็นแบบอย่าง โดยมีการกิจกรรมหลากหลายจากผู้ประกอบการในชุมชน และหน่วยงานพันธมิตร อาทิ กิจกรรมเวิร์คช็อป จากเครือข่าย เขียว สวย หอม / นิทรรศการจากโครงการสนับสนุนเชียงใหม่ สู่เมืองมรดกโลก(Chiang Mai World Heritage) / กิจกรรมตลาดสินค้าออร์แกนิคจาก “ขบวนการเชฟน้อยกินเปลี่ยนโลก” โดยกิจกรรมทุกกิจกรรมสามารถเข้าร่วมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังมีจุดรับซ่อมบำรุงจักรยานฟรี สำหรับผู้ร่วมงานอีกด้วย

โดยทาง นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ. กล่าวว่าสำหรับกิจกรรม “เตวแอ่วเวียง” ก็เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการเดินชมบ้านเมือง ซึ่งบ้านเมืองของเชียงใหม่นั้น มีความงดงามและถือเป็นเมืองโบราณอย่างที่ทราบกันดี และยังเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ เนื่องจากมีสภาพงดงาม ร่มรื่น มีต้นไม้ และศิลปะวัฒนธรรม แต่ที่ผ่านมาชุมชนอาจจะให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ไม่มากนัก วันนี้จึงถือเป็นการร่วมกับกับชุมชน ในการร่วมกันทำให้ชุมชนน่าอยู่ น่ามอง และน่าเดินเที่ยว ซึ่งจุดนี้เป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนเชียงใหม่ที่อยู่ด้วยความสงบ ถ้าหากทุกคนช่วยกันดูแลในทุกพื้นที่ให้มีความสะอาดงดงาม ก็จะทำให้คนอยากที่จะมาท่องเที่ยว และอยากที่จะมาสัมผัสมนต์เสน่ห์ของเชียงใหม่มากยิ่งขึ้น

ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะเดียวกัน กิจกรรมดังกล่าวที่จัดขึ้นนี้ เนื่องจากตนได้มีโอกาสมาร่วมกิจกรรมกับชุมชนควรค่าม้าสามัคคีพัฒนา เป็นชุมชนแรก แต่ทราบว่ามีภาคประชาชน และภาคอาสาประชาชนในหลายพื้นที่ ก็ได้เริ่มทำกิจกรรมในลักษณะนี้บ้างแล้ว เพราะต้องการให้เชียงใหม่นั้น กลับมามีความเป็นเอกลักษณ์ดั่งเช่นในอดีต แต่เป็นการย้อนอดีตที่เต็มไปด้วยความภูมิใจ ที่อยากทำให้กับชุมชน ที่จะเป็นการสะท้อน 2 อย่าง คือ เรื่องแรกเรื่องของความรักบ้านเมือง ที่ปัจจุบันทุกคนในชุมชนส่วนใหญ่ มักจะรอให้ทางภาครัฐมาคอยทำให้ แต่หากช่วยกันทำคนละไม้ละมือก็จะช่วยให้ชุมชนน่าอยู่มากขึ้น

ส่วนอีกเรื่องคือ เรื่องของการก้าวไปข้างหน้าของ จ.เชียงใหม่ ที่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็จะยังคงรักษาเมือง แม้จะเป็นเมืองแห่งมรดกโลก แต่ก็ยังจะคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งความสวยงามเช่นนี้ตลอดไป และทำให้เมืองแห่งมรดกโลกของเชียงใหม่ เป็นเมืองที่มีคุณค่า

ขณะที่ทางด้าน นางรัตนา ชูเกษ ประธานชุมชนควรค่าม้าสามัคคีพัฒนา กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการร่วมตัวกันทำกิจกรรมในครั้งนี้ เกิดจากกลุ่มของเด็กจิตอาสาที่ตั้งชื่อตัวเองว่า “กลุ่มมือสะอาด เมืองสะอาด” ซึ่งได้เข้ามาพูดคุยกับประธานชุมชน จากนั้นก็ได้มีการชักชวนให้ทางกรรมการชุมชนทั้งหมด รวมถึงอาสาสมัครชุมชน เข้ามาร่วมในกิจกรรมดังกล่าว และได้มีการจัดประชุมหารือกันหลายครั้ง ก่อนจะลงความเห็นกันว่าจะทำให้ถนนสิงหราช ซอย 3 และ 4 และถนนอารักษ์ ซอย 2 และ 3 มีความสวยงาม น่าอยู่ และน่าเดินเที่ยว

จากนั้นจึงได้มีการรวมตัวกันวางแผนประชุม จนกระทั่งเกิดกิจกรรมในครั้งนี้ขึ้นมา และอยากเชิญชวนพี่น้องจากชุมชนต่างๆ ทั้ง 4 แขวง ได้ร่วมกันพัฒนา ซึ่งอัตลักษณ์ที่สำคัญของชุมชนคือ ต้นไม้ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญและต้องอนุรักษ์ไว้ เพราะหาก จ.เชียงใหม่ จะเป็นมรดกโลกนั้น ก็ควรจะเป็นมกดกที่มีชีวิตทั้งต้นไม้และคน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางชุมชนก็จะปรึกษากันว่า จะเดินหน้าทำให้กิจกรรมดังกล่าวให้มีอย่างต่อเนื่อง

ร่วมแสดงความคิดเห็น