ไป่ตู้เตรียมสร้างศูนย์วิจัยด้านDeep Learning หวังพาจีนก้าวเป็นผู้นำด้านเอไอ

ไป่ตู้เตรียมสร้างศูนย์วิจัยด้านDeep Learning หวังพาจีนก้าวเป็นผู้นำด้านเอไอ
หนังสือพิมพ์ People’s Daily รายงานว่า ไป่ตู้-เสิร์ชเอ็นจิ้นยักษ์ใหญ่ของจีนแถลงเรื่องการได้รับอนุญาตให้สร้างศูนย์วิจัยในระดับสูงด้านเทคโนโลยี Deep Learning (ดีพเลิร์นนิ่ง) ซึ่งนับเป็นที่แห่งแรกของประเทศจีน และถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาประเทศจีนให้เป็นผู้นำทางด้านเอไอ (AI) หรือปัญญาประดิษฐ์
ศูนย์วิจัยหรือห้องแล็บนี้ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) มีจุดประสงค์เพื่อค้นคว้าและวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยี Deep Learning (ซึ่งเป็นการทำให้เครื่องจักรหรือคอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูลได้คล้ายกับสมองของมนุษย์) โดยจะเน้นทางด้านเทคโนโลยีการรับรู้ภาพและประสาทสัมผัส, การระบุลายนิ้วมือ, การปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์, การวางมาตรฐานและด้านทรัพย์สินทางปัญญาของเทคโนโลยี Deep Learning
ศูนย์วิจัยด้านวิศวกรรมแห่งชาติของประเทศจีนส่วนมากจะดำเนินการโดยบริษัท,สถาบันวิจัยหรือมหาวิทยาลัย มีบทบาทสำคัญในระบบการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมของชาติ ตัวเลขจากการสำรวจเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมาระบุว่า ประเทศจีนมีศูนย์วิจัยด้านวิศวกรรมแห่งชาติจำนวนทั้งสิ้น 167 แห่ง
ไป่ตู้ ไม่ได้เป็นแค่หนึ่งในสามยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการด้านอินเตอร์เนตของประเทศจีนแต่ยังเป็นผู้เล่นคนสำคัญในระดับโลกอีกด้วย โรบิน หลี่ -ซีอีโอของไป่ตู้ได้เสนอโครงการที่ชื่อ “ไชน่าเบรน” (มันสมองของประเทศจีน) ต่อที่ประชุมสองสภาเมื่อปี 2558 ซึ่งโครงการนี้จะเน้นเรื่องการพัฒนาเอไอหรือปัญญาประดิษฐ์
ลู่ฉี – ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของไป่ตู้กล่าวว่า สถาบันวิจัยแห่งนี้ได้ถือกำเนิดขึ้นหลังจากที่หลี่ได้เสนอโครงการไปภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี และนี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าประเทศจีนกำลังก้าวกระโดดในด้านเทคโนโลยีเอไอ
ลู่ฉีและอู๋ เอินต๋า-หัวหน้านักวิทยาศาสตร์จากไป่ตู้ถือเป็นแนวหน้าในด้านวิศวกรรมเทคโนโลยีเอไอ
หนังสือพิมพ์ชื่อดังอย่างนิวยอร์คไทม์ได้กล่าวถึงลู่ฉีกับอนาคตของจีนไว้อย่างน่าสนใจว่า หลังจากที่ลู่ฉี-ผู้เชี่ยวชาญด้านเอไอลาออกจากบริษัทไมโครซอร์ฟมารับตำแหน่งใหม่เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของไป่ตู้ เขาจะเป็นหัวเรือใหญ่ในการพาบริษัทไปสู่เป้าหมายคือการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเอไอของโลก

ร่วมแสดงความคิดเห็น