ไฟป่า ทวีความรุนแรง

ดับไฟป่า………..ชุดปฏิบัติการพิเศษควบคุมไฟป่า (เหยี่ยวไฟ) สถานีควบคุมไฟป่าแม่ตะไคร้ ทำการดับไฟไหม้ป่า ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ออน บริเวณพื้นที่บ้านบง (ห้วยลาน) ม.8 ต.ออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาไฟไหม้ป่ายังคงมีให้เห็นแทบทุกวันทุกพื้นที่ แม้ว่าทางการจะสั่งการไปให้เข้มงวดห้ามมีการเผาป่าแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีการเผากันอย่างต่อเนื่อง ส่วนจะจับกุมผู้ลงมือเผาก็ยาก เนื่องจากสภาพพื้นที่อยู่ห่างไกล และหลักฐานในการเอาความผิดไม่เพียงพอ ดังนั้น ความรุนแรงเรื่องของหมอกควันไฟป่านั้นเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

นายสราวุฒิ วรพงษ์ นายอำเภอเชียงดาว เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ได้ลงนามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่องการกำหนดเวลา “60 วันแห่งการห้ามเผา 20 ก.พ.-20 เม.ย 60” เพื่อเป็นการป้องกันและลดปัญหาหมอกควันไฟป่า อ.เชียงดาวจัดกิจกรรมทำแนวกันไฟและลดปริมาณเชื้อเพลิง ในช่วงก่อนเวลาห้ามเผา พร้อมกันนั้นยังได้ตั้งคณะกรรมการระดับอำเภอ เพื่อบูรณาการณ์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรูปแบบประชารัฐ อาทิการประชุมหมู่บ้านจัดชุดดับไฟป่า หมู่บ้านละ 25 คน การรณรงค์ประชาสัมพันธ์เสียงตามสายในทุกหมู่บ้านทั้งภาษาท้องถิ่น ภาษาชนเผ่า ให้ความรู้แก่เด็กนักเรียนในสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงไปในทุกๆ ครอบครัว ประสานวิทยุชุมชน เครือข่ายโซเชียลในท้องถิ่นขอความร่วมมือประชาชนในทุกพื้นที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการร่วมกันหยุดเผาในช่วงเวลาที่กำหนด และแจ้งเบาะแสผู้ทำการเผาป่า โดยมีรางวัลนำจับ 5,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ปัญหาสำคัญของ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ก็คือ พื้นที่กว้างขวางและมีป่าไม้ภูเขาสูงชัน เป็นอุปสรรคในการเข้าไปดับไฟที่มักจะมีคนลักลอบเผาทั้งหาของป่า ล่าสัตว์ และปรับพื้นที่ทางการเกษตร นายสนั่น เผือกพันธุ์ หัวหน้าหน่วยสงเสริมควบคุมไฟป่าเชียงดาว เปิดเผยว่า ในพื้นที่ อ.เชียงดาวมีหน่วยงานรับผิดชอบคือ หน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่าเชียงดาว กรมป่าไม้ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.9 (เชียงดาว) กรมป่าไม้ สถานีดับไฟป่าผาแดง กรมอุทยานฯ สถานีดับไฟป่าเชียงดาว กรมอุทยานฯ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.5(ปิงโค้ง) กรมอุทยานฯ และยังได้รับความร่วมมือจาก หน่วยพิทักษ์รักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว สวนป่า ออป. องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น อบต. เทศบาล ชุด อส.อ.เชียงดาว ตชด.335 ตำรวจ สภ.เชียงดาว สภ.นาหวาย ทหาร ฉก. ม.5 แขวงการทางปิงโค้ง และชาวบ้านจิตอาสาอีกจำนวนมาก

โดยล่าสุดมีการประกาศเชิญชวนผ่านสถานีวิทยุชุมชนและสื่อโซเชียลให้คนเชียงดาวร่วมส่งน้ำใจ เช่น น้ำดื่มบรรจุขวด หน้ากากอนามัย อาหารสำเร็จรูป ฯลฯ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ชุดดับไฟทุกชุดในพื้นที่ โดยได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนจำนวนมาก

และจากข้อมูลของศูนย์อำนวยการป้องกันไฟป่าและหมอกควัน อ.เชียงดาว ในช่วงตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.- 5 มี.ค. มีจุด hot spot ทั้งสิ้น 12 จุด ทั้งที่มีไฟป่าเกิดขึ้นมากกว่านั้น แต่เจ้าหน้าที่สามารถดับได้ในเวลาอันรวดเร็ว ทันทีที่ได้รับแจ้งศูนย์อำนวยการป้องกันไฟป่าและหมอกควัน อ.เชียงดาวได้ส่งข้อมูล พิกัด ประสานบูรณาการทำงานกับทุกหน่วยผ่านแอปพิเคชัั่นไลน์”มือปราบไฟป่า” ซึ่งน่ายินดีที่ทุกหน่วยเร่งให้การช่วยเหลือดับไฟ โดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ไม่มีเกี่ยงกันทำงาน ส่งผลให้ผืนป่าถูกเผาไหม้น้อยลงและยังลดมลพิษในอากาศไม่ให่เกินค่าวิกฤติอันจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อม ผลจากการทำงานร่วมมือกันทำให้สามารถลดจำนวนจุด hot spot จาก 187 จุด ปี 2558 เหลือ 107 จุดในปี 2559 โดยปีนี้มุ่งหวังให้ไม่เกิน 80 จุด

ที่ อ.สันกำแพง เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 6 มี.ค. นายอนุพงษ์ วาวงศ์ นายอำเภอสันกำแพงเชียงใหม่ ได้ร่วมกับ นายกิติศักดิ์ ปานะโปย หน.ป่าไม้จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งรับชอบป่าไม้ อ.ดอยสะเก็ด อ.แม่ออน และอ.สันกำแพง พร้อม จนท หน่วยงานกรมป่าไม้1 หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ชม 23 (อ.ดอยสะเก็ด) หน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่าเชียงใหม่ ชุดปฏิบัติการพิเศษควบคุมไฟป่า (เหยี่ยวไฟ) สถานีควบคุมไฟป่าแม่ตะไคร้

ได้รับแจ้งไฟไหม้ป่าป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ออน บริเวณพื้นที่บ้านบง (ห้วยลาน) ม.8 ต.ออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ จุดพิกัด 47Q 0522551UTM ได้เกิดไฟได้ไหมป่าจึงได้นำกำลังดังกล่าว มีและกำนันผู้ใหญ่บ้านประมาณ 50-60 คน ได้ช่วยกันดับไฟเผาป่าในครั้งนี้

ทางนายด้านนายอนุพงษ์ นายอำเภอสันกำแพง ได้เปิดเผยว่า ทางผู้ว่าราชจังหวัด ให้การว่าทางกระทรวงมหาดไทยได้ให้แนวทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ ขอให้พระสงฆ์เทศน์เพื่อการป้องกันการเผาป่าแก้ไขปัญหาหมอกควันได้อีกวิธีหนึ่ง นอกจากที่ อ.สันกำแพง 10 ตำบล 100 หมู่บ้าน ที่มีป่าไม้ มี ต.ห้วยทราย ต.ร้องวัวแดง และ ต.ออนใต้ ที่เหลือ 7 ตำบลเป็นพื้นที่ราบ ในการป้องกันการเผาป่าในครั้งนี้ได้สั่งให้กำนันผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสาย ไม่ให้ราษฎรในพื้นที่งดเผาทุกชนิด ซึ่งทางจังหวัดให้เวลามาตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.ถึง 20 เม.ย.

นอกจากนั้นได้ออกพื้นที่ร่วมกับป่าไม้อาสาดับไฟป่า กำนันผู้ใหม่บ้านมาตลอด เพื่อป้องกันไม่ให้การเผาป่าหรือที่โล่งสร้างปัญหาหมอกควันเป็นในอากาศ และถ้าเป็นที่พื้นสูงชันจะขอกำลังหน่ายบินกรมป่ามาช่วย และ ได้สั่งให้ทางกำนันผู้ใหญ่บ้านทั้ง 3 ตำบลที่กล่าวมา ได้ออกลาดตระเวนตลอดพบใครเผาป่า ซึ่งทาง พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผกก.สภ.สันกำแพง ได้จัดตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เพื่อจับกุมคนเผาป่าโทษหนักคนเผามาดำเนินต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น