ลากคอไอ้หนุ่ม แก๊ง 18 มงกุฏ หมายจับติดตัว 8 หมาย ตุ๋นเหยื่อเสียหายอื้อ มูลค่าไม่น้อยกว่า 20 ล้าน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 มี.ค.60 ตำรวจภูธรภาค 5 โดยการอำนวยการของ พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 และ จนท.ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายเกียรติขจร นาเมืองรักษ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200 หมู่ 13 ต.แม่ลาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ที่กระทำความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป หรือรับของโจรตามหมายจับของศาล จ. เชียงใหม่ที่ 82/2559 ลงวันที่ 9 ก.พ.59

พฤติการณ์ในการกระทำความผิดของคนร้ายรายนี้ คือ เมื่อประมาณต้นเดือน พ.ย. 2558 จนท.ได้เข้าตรวจค้นร้าน tsk ใน อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นอู่ชำแหละรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่ถูกโจรกรรมมา เพื่อแยกอะไหล่ไปขาย โดย นายเกียรติขจร ได้ร่วมกันกับพวก ลักทรัพย์ ยักยอก และฉ้อโกง รถยนต์และรถจักรยานยนต์ แล้วนำไปขาย ให้ร้านดังกล่าว ก่อนจะหลบหนีไป มีผู้ให้เช่ารถ ผู้เสียหายจำนวนหลายราย นอกจากนี้ ยังได้ก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายอีกหลายราย ว่าเปิดบริษัทขายตรงชื่อว่า รวยมหัศจรรย์ ออกอุบายว่า ให้ผู้ซื้อรถยนต์ เพื่อนำมาขับขี่วิ่งส่งของร่วมกัน จากนั้นก็จะเชิดรถยนต์หลบหนีไป

ทั้งนี้ ยังมีคดีที่หลอกลวงหญิงสาวอีกหลายราย โดยติดต่อพูดคุยกันจนเกิดความเชื่อใจ หลงเชื่อร่วมลงทุนรับจำนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ หรือสิ่งของต่างๆ เช่น พระเครื่อง เมื่อได้ทรัพย์สินเงินทองมากจนเป็นที่พอใจแล้ว ก็จะหลบหนีไป ไปก่อเหตุกับผู้เสียหายรายต่อไป โดยหลังจากชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ได้สืบทราบว่า นายเกียรติขจร จะเดินทางไปติดต่อธุระใน จ.หนองคาย จึงได้วางแผนเข้าจับกุมได้ที่ร้านหมูกระทะ 15 หยวน ม.17 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหามีหมายจับอยู่ 7 คดี เป็นหมายจับของศาลแขวงเชียงใหม่ 4 คดี, ศาล จ.จันทบุรี 2 คดี, ศาลแขวงชลบุรี 1 คดี

พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 เปิดเผยว่า คดีนี้ทาง จนท.ตำรวจได้เริ่มต้นสืบสวนมา ตั้งแต่ช่วงประมาณเดือน พ.ย. 2558 ในคดีที่ทาง จนท.ตำรวจได้เข้าทำการบุกทลายโรงชำแหละรถในเขต อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ และจากการสืบสวนสอบสวนในครั้งนั้นทราบว่า นายเกียรติขจร หรือ อนันต์ นาเมืองรักษ์ เป็นผู้ที่นำรถเข้ามาส่ง ให้กับกลุ่มขบวนการส่วนหนึ่ง ประมาณ 4-5 คัน โดยรถที่ส่งมาชำแหละนั้น เป็นรถที่ได้ทำการเช่ามาจากร้านรถเช่าส่วนหนึ่ง และบางส่วนได้ดาวน์ มาจากบริษัทรถอีกส่วนหนึ่ง จากนั้นทาง จนท. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และให้ทาง พงส. ออกหมายจับ พร้อมทั้งได้ทำการติดตามสืบสวนพฤติกรรมของผู้ต้องหามาโดยตลอด

แต่ในช่วงนั้นทาง นายเกียรติขจร หรือ อนันต์ นาเมืองรักษ์ ได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ จ.จันทบุรี แต่เมื่อทาง จนท. ได้พยายามติดตามตัวก็ไม่พบเจอ และทราบว่า นายเกียรติขจร ได้ไหวตัวทันหลบหนีไปตามสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้ ในช่วงระหว่างที่ได้ทำการหลบหนี ก็ได้ไปก่อเหตุในการหลอกลวงคนอื่นอีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการหลอกผู้หญิง โดยการคบหาเป็นแฟน ชักชวนนำเงินมาลงทุนร่วมกัน และหลอกเอาเงินผู้เสียหายมา จากนั้นก็ปล่อยหนี้สิน และก็ทำการหลบหนี

จนกระทั่งในที่สุดทาง จนท.ได้สืบทราบว่า นายเกียรติขจร ได้หลบหนีไปอยู่ที่ จ.หนองคาย ทาง จนท.จึงส่งชุดกำลังเข้าทำการจับกุมตัวได้ในที่สุด จากนั้นก็ได้ทำการส่งตัวมาสอบสวน ซึ่งทาง นายเกียรติขจร ก็ได้ให้การรับสารภาพ และจากการตรวจสอบพบว่า มีการออกหมายจับตัวผู้ต้องหารายนี้ ถึง 8 หมายด้วยกัน และคิดเป็นมูลค่าความเสียหายที่เกิดจากผู้ต้องหารายนี้ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ทาง จนท.ตำรวจ จะได้ทำการสอบสวนพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น